ฉะเชิงเทรา – เพื่อไทย จัดเวทีปราศรัยใหญ่ ต้อนรับการกลับมารวมตัวกันของคนตระกูลการเมืองดังแปดริ้วทั้ง 4 เขต พร้อมประกาศขอกวาดยกจังหวัดใน 4 เขตเลือกตั้ง ขณะพ่อมดดำพา 2 ลูกชายขึ้นเวทีจับมือร่วมตระกูลดัง “ฉายแสง” และ “อัศวชัยโสภณ” โดยมีอุ๊งอิ๊งโฟนอินผ่านหน้าจอร่วมปราศรัย ท่ามกลางระดับแกนนำของพรรคขึ้นเวที ขณะมวลชนจากทั่วทั้ง 11 อำเภอ มาร่วมรับฟังการปราศรัยอย่างเนืองแน่น
วันที่ 31 มี.ค.66 เวลา 17.30 น. ที่บริเวณสนามด้านข้างศาลาไทย (ศาลาจตุรมุข) ฝั่งทิศเหนือ เยื้องกับศาลากลาง จ.ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อไทยได้จัดเวทีปราศรัยใหญ่ทางการเมืองขึ้น เพื่อแนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ทั้ง 4 เขตต่อประชาชนชาว จ.ฉะเชิงเทรา ประกอบด้วยเขตเลือกตั้งที่ 1 นางฐิติมา ฉายแสง เขตเลือกตั้งที่ 2 นายพงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ เขตเลือกตั้งที่ 3 นายศักดิ์ชาย ตันเจริญ และเขตเลือกตั้งที่ 4 นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง พร้อมนำเสนอนโยบายในการหาเสียงจากทางพรรคผ่านทางแกนนำในการปราศรัย
โดยในช่วงแรกก่อนเวลา หลังจาก 17.30 น. นั้นเป็นพิธีกรและพี่น้อง “ฉายแสง” ได้เริ่มปราศรัยก่อน จากนั้นจึงมีการปราศรัยอย่างเป็นทางการในเวลา 18.15 น. โดยนายอดิศร เพียงเกษ ต่อเนื่องด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จากนั้นจึงได้มีการโฟนอินเข้ามายังหน้าจอที่อยู่ด้านข้างเวทีปราศรัยทั้ง 2 ฝั่งของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ้งอิ้ง และมีการพูดคุยแบบโฟนอินกับตัวแทนชาวแปดริ้ว ซึ่งเป็นประธาน อสม. จ.ฉะเชิงเทรา ที่เรียกร้องขอให้ทางพรรคเพื่อไทยเข้ามาแก้ไขปัญหาด้านต่างๆ รวมถึงค่าตอบแทนของ อสม.ด้วย
ต่อมาพิธีกรจึงได้ให้ นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 กล่าวปราศรัย ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่นั้นเป็นการกล่าวถึงความผิดพาดของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่พรรคพลังประชารัฐได้เคยประกาศนโยบายเอาไว้หลายด้าน เมื่อครั้งตอนหาเสียงเมื่อ 4 ปีที่แล้ว แต่ยังไม่ได้ทำหรือทำไม่สำเร็จ และการปล่อยให้สภาล่มบ่อยครั้ง และยังตำหนิไปถึงการขึ้นเงินเดือนนักการเมืองท้องถิ่น และกำนันผู้ใหญ่บ้าน ที่เพิ่งจะมาประกาศเมื่อใกล้จะยุบสภา
จากนั้นนายจาตุรนต์ ฉายแสง จึงได้กล่าวปราศรัย ถึงเส้นทางการเมืองของตะกูลที่ผ่านมา โดยระบุว่าไม่ใช่บ้านใหญ่ พร้อมระบุถึงผลงานที่ผ่านมา รวมถึงการกล่าวอ้างถึงระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ที่มีเพียงพรรคเพื่อไทยพรรคเดียว ที่ทำมาอย่างต่อเนื่องจากพรรคก่อนหน้าที่ถูกยุบ และมองว่าไม่เป็นธรรม ทั้งยังพูดถึงการกลับมารวมตัวกันของคนตระกูลการเมืองดังในพื้นที่ทั้ง 4 เขตอีกครั้ง หลังจากที่ได้แยกกันต่างคนต่างไปมานาน และเชื่อว่าจะได้รับการเลือกตั้งแบบเหมาทั้งจังหวัดใน 4 เขตเลือกตั้ง
ก่อนที่จะปิดท้ายการปราศรัยด้วย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้ช่วยหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ที่มีลีลาการปราศรัยดุเด็ดเผ็ดมันแขวะ แซะรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ ในหลายด้าน ทั้งการกู้ยืมเงินมาบริการประเทศ การโจมตีเรื่องเรือดำน้ำที่ระบุว่าไม่มีเครื่องยนต์ ก่อนที่เวทีจะจบลงในเวลาประมาณ 20.00 น.
ซึ่งในวันนี้ได้มี นายพานทองแท้ ชินวัตร เดินทางมาร่วมขึ้นเวทีด้วย ขณะที่นายคชาภา ตันเจริญ (มดดำ) พิธีกรคนดัง ยังได้เดินทางมาร่วมปรากฏตัวในเวทีวันนี้ด้วยเช่นเดียวกัน พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จากจังหวัดข้างเคียงอีกจำนวนมาก และบนเวทียังได้ให้มีการจับมือกันระหว่าง นายสุชาติ ตันเจริญ และนายจาตุรนต์ ฉายแสง ต่อหน้าประชาชนบนเวทีอีกด้วย
