ฉะเชิงเทรา – ทุกข์ของพ่อแม่ โจ๋แปดริ้วค่านิยมผิดเพี้ยนหนักเห็นคนในวัยเดียวกันมาจากต่างถิ่นทุกคนเป็นศัตรู ขับรถไล่ล่าตามประกบพร้อมอาวุธครบมือ ก่อนขว้างปาระเบิดใส่จนขากระจุยร้องโอดโอยเข้ามาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ขณะตำรวจเตรียมไล่ล่าหาภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางหลบหนีเพื่อควานหาตัวคนร้าย
วันที่ 27 มิ.ย.66 เวลา 17.00 น. พ.ต.ต.คุณภัทร ผิวบัวคำ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุมีกลุ่มวัยรุ่นขว้างปาระเบิดใส่กันจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสขาขาด 1 ราย เหตุเกิดที่บริเวณบนถนนสาธารณะเลียบแนวรั้วกำแพงหมู่บ้านมารวย 4 ในพื้นที่ ม.4 ต.โสธร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น ก่อนเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจและฝ่ายสืบสวน
ที่เกิดเหตุบนพื้นถนนซึ่งเป็นทางสัญจรเชื่อมระหว่างหมู่บ้านที่คับแคบ แบบเดินรถสวนทางกัน 2 ช่องจราจร พบคราบเขม่าดินระเบิดติดอยู่ที่พื้นซึ่งคาดว่าเป็นจุดตกของวัตถุระเบิดจำนวน 2 จุด โดยสะเก็ดระเบิดซึ่งมีลักษณะเป็นกระดาษแข็งและท่อพีวีซีสีเทาปลิวกระจาย พร้อมมีเศษถุงพลาสติกที่ห่อหุ้มมาและเศษกางเกงยีนส์สีดำกระจัดกระจายเกลื่อนพื้นถนน และยังมีเศษกระดูกของมนุษย์ที่ถูกแรงระเบิดจนแตกละเอียดตกอยู่ที่พื้นปะปนอยู่ด้วย
ห่างจากจุดแรกมายังร้านค้าอาหารตามสั่งประมาณ 40 เมตร พบรถจักยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 100 ไอ สีน้ำเงินคาดเทาไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนสภาพมีรอยเลือดไหลนองจากบนเบาะนั่งลงมาตามตัวรถด้านขวา และมีรอยหยดเลือดกองอยู่กับพื้นถนนจำนวนมากจอดอยู่ที่หน้าร้าน ห่างออกไปอีกประมาณ 6 เมตรที่ด้านข้างของร้านค้ายังพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อเดียวกันสภาพใหม่กว่าสีฟ้าไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเช่นเดียวกันจอดอยู่อีก 1 คัน นอกจากนี้ยังพบมีดปังตอลักษณะคล้ายดาบแบบหัวตัดอีก 2 เล่มและมีดขออีก 1 เล่มวางอยู่ใกล้รถ
จากการสอบถาม นางเกศรา ปักษา อายุ 32 ปี เจ้าของร้านเล่าว่า ช่วงเวลาประมาณ 16.30 น. ตนพร้อมด้วยลูกค้าที่มานั่งรับประทานข้าวอยู่ภายในร้านได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น ทิศทางเลยห่างจากหน้าบ้านไปยังสะพานข้ามคลองเล็กน้อย แต่ไม่ทราบว่าจุดใดเพราะมองไม่เห็น โดยครั้งแรกเข้าใจว่าหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด แต่จากนั้นไม่นานจึงได้มีกลุ่มวัยรุ่นชายวัยประมาณ 17-18-19 ปีจำนวน 4 คน ได้ขับรถทั้งสองคันเข้ามาร้องเรียกเพื่อขอความช่วยเหลือยังที่หน้าร้าน
โดยพบว่าคนซ้อนท้ายรถคันที่จอดหน้าร้านนั้นมีเลือดไหลนองออกมามาก จนเห็นบาดแผลที่น่องขาขวานั้นมีสภาพฉกรรจ์ เห็นกระดูกแตกละเอียดจนขาห้อยหลุดออกมาจนแทบขาดจากกันแบบห้อยร่องแร่ง ส่วนอีกคนมีบาดแผลที่ท่อนแขนซ้ายและท่อนขาซ้ายเช่นเดียวกันแต่ไม่สาหัส เมื่อสามีของตน คือ นายวีรวัฒน์ ปักษา อายุ 31 ปี ออกมาพบ และเห็นว่าผู้ได้รับบาดเจ็บกำลังเสียเลือดมาก จึงได้รีบให้การช่วยเหลือนำขึ้นท้ายรถยนต์กระบะเพื่อนำส่งไปยัง รพ.พุทธโสธร
จากการสอบถามกลุ่มวัยรุ่นที่เหลืออยู่อีก 2 คนทราบว่า ทั้งหมดเป็นนักเรียน กศน. แต่ไม่ได้สวมใส่ชุดนักศึกษา ได้เดินทางมาเที่ยวยังที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งที่ บริเวณสามแยกเทศบาล 2 ทางเข้าวัดโสธรฯ จากในพื้นที่ ต.พิมพา อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนที่จะมาถูกกลุ่มวัยรุ่นวัยเดียวกันจำนวน 2 คน ขับรถมาตามประกบไล่ทำร้ายกัน และมีการปาระเบิดใส่กันดังกล่าว นางเกศรา ระบุ
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.สาธิต มิตรรัก ผกก. สภ.เมืองฉะเชิงทรา ได้เดินทางมายังในที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุด้วยตนเอง พร้อมกับได้กันพื้นที่ไว้เพื่อให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.ฉะเชิงเทรา มาทำการเก็บพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ในที่เกิดเหตุ โดยระบุว่าเบื้องต้นทราบว่าทั้ง 2 กลุ่มไม่เคยรู้จักกันมาก่อน โดยกลุ่มผู้ที่ได้รับบาดเจ็บนั้นเรียนที่ กศน. เมื่อมาพบเจอกัน ได้มีการพยายามที่จะไล่ติดตามมาทำร้ายกัน
ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนติดตามภาพจากกล้องวงจรปิดตามรายทาง เพื่อจับกุมตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้วซึ่งคาดว่าจะได้ตัวในเร็วๆ นี้ ส่วนเพื่อนที่มาด้วยกันในกลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บนั้น ฝ่ายสืบสวนได้นำตัวไปยังที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อซักถามหารายละเอียดทั้งหมดเพิ่มเติม ขณะนี้จึงได้กันพื้นที่เกิดเหตุไว้ เพื่อรอให้พิสูจน์หลักฐานมาเก็บรวบรวมพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ก่อน ส่วนชนิดระเบิดนั้นน่าจะเป้นแบบประดิษฐ์ขึ้นมาเอง แต่ยังต้องรอให้ทาง พฐ.ยืนยันอีกครั้ง พ.ต.อ.สาธิต กล่าว
