ฉะเชิงเทรา – ควานหาหลักฐานใต้น้ำ ตามรอยหามือยิงโปรกอล์ฟพร้อมแดดดี้สาวดับ 1 เจ็บ 1 เมื่อกลางเดือนก่อนที่เมืองกาญจน์พบโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเพิ่ม 1 เครื่อง ด้านตำรวจมุ่งแนวทางพบรถที่ใช้หลบหนีใต้น้ำเป็นการจัดฉากอำพรางเพื่อหลบหนี พร้อมคลายความเชื่อมโยงในเส้นทางผ่านพื้นที่ชัดมากขึ้น หลังประสาน สภ.ท่าม่วง คุ้ยเส้นทางตามไปจนถึงบ้านญาติในพื้นที่จังหวัดข้างเคียงแต่ไม่พบตัว
วันที่ 17 ก.ค.66 เวลา 18.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.สมชาย เมืองใย ผกก. สภ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ถึงความคืบหน้ากรณีพบรถยนต์กระบะจมอยู่ภายในสระน้ำด้านข้างหมู่บ้านเอื้ออาทรพนมสารคาม เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ก่อนที่จะพบหลักฐานภายในรถเป็นใบขับขี่จำนวน 2 ใบของนายณัฎฐวัชร ดอนมอญ อายุ 54 ปี ชาว ม.7 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับศาล จ.กาญจนบุรี
ในคดีใช้อาวุธปืนยิงนายเกรียงศักดิ์ (ไม่ทราบนามสกุล) อายุ 67 ปี ชาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี อดีตข้าราชการบำนาญกรมชลประทาน ที่เป็นโปรกอล์ฟและเป็น ผจก.สนามกอล์ฟเขื่อนแม่กลองจนเสียชีวิต และยังได้ใช้อาวุธปืนยิง น.ส.สร้อยสุดา (ไม่ทราบนามสกุล) อายุ 35 ปี แคดดี้สาวชาว จ.ราชบุรี ที่กำลังไปเล่นกอล์ฟอยู่ในสนามในวันเดียวกัน จนได้รับบาดเจ็บเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.66 ที่ผ่านมาตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านั้นว่า
ล่าสุดหลังได้นำนักประดาน้ำจากหน่วยกู้ภัยพนมฯ จำนวน 4 นาย ลงงมค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีกครั้ง เมื่อเวลา 15.00 น.ที่ผ่านมาปรากฏว่าสามารถค้นพบโทรศัพท์สมาร์ทโฟนยี่ห้อ OPPO สภาพเก่า 1 เครื่อง ซึ่งในการค้นหาได้ให้นักประดาน้ำลงงมค้นหาแบบเรียงหน้ากระดานไปตามพื้นสระใต้น้ำในรัศมีกว้างประมาณ 60 เมตรในบริเวณดังกล่าวแล้ว แต่ไม่พบหลักฐานอะไรเพิ่มเติมอีก
จากการประสานงานไปยัง สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ตั้งแต่เมื่อวานนี้ทราบว่าได้ติดตามสัญญาณโทรศัพท์มาและพบว่าหายไปในเขตพื้นที่ จ.สมุทรสาคร เมื่อวันเกิดเหตุ และพบว่ามีญาติอยู่ใน จ.ปราจีนบุรี โดยมีเส้นทางผ่านมายัง อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา จึงได้ประสานไปยัง สภ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี จนพบว่าบ้านญาติดังกล่าวนั้น เป็นบ้านเก่าของผู้เป็นบิดาของผู้ก่อเหตุ ซึ่งได้เสียชีวิตไปแล้วและไม่มีใครเคยพบรถคันที่ถูกนำมาทิ้งจมอยู่ในน้ำคันนี้ไปขับวนเวียนอยู่แถวนั้นมาก่อน ขณะที่บ้านหลังนั้นยังมีญาติซึ่งเป็นหญิงรายหนึ่ง มาคอยเฝ้าดูแลอยู่แต่ไม่ได้อยู่ประจำ
โดยในวันนี้ได้ประสานชุดสืบสวนในพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ให้เข้าไปดูยังที่บริษัทผู้ถือกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของรถคันนี้แล้ว แต่ปรากฏว่าไม่ได้เปิดทำการโดยมีลักษณะเป็นเพียงอาคารพาณิชย์ 1 คูหาเท่านั้นที่ปิดประตูเหล็กไว้อย่างแน่นหนา ทำให้ไม่สามารถติดต่อใครได้ หลังการตรวจสอบไม่พบว่ารถคันนี้มีการแจ้งหายไว้แต่อย่างใด และจากข้อมูลของ สภ.ท่าม่วง ผู้ก่อเหตุนั้นได้ใช้รถ อีซูซุ MU7 สีบรอนซ์ทะเบียน ชม-6116 กทม. ในการหลบหนีระหว่างเกิดเหตุ
ก่อนที่จะนำรถไปเปลี่ยนเป็นรถกระบะคันนี้ ซึ่งเป็นของแฟนเก่าของผู้ก่อเหตุขับหลบหนีมา โดยที่รถคันนี้ได้มีการเช่าซื้อมาจากบริษัทแห่งหนึ่งใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยที่รถ อีซูซุ MU7 นั้นทาง สภ.ท่าม่วงได้ทำการตรวจยึดเอาไว้แล้ว ส่วนรอยชนที่ด้านหน้าของรถกระบะคันที่พบในสระน้ำนั้น ทาง พฐ. ได้ระบุว่าเป็นรอยกระแทกของหน้ารถที่พุ่งลงมาจากขอบสระไปยังที่พื้นก้นบ่อ ที่มีลักษณะลึกสูงชันคล้ายกับเหวประมาณกว่า 10 เมตร ก่อนที่ตัวรถจะไหลลงไปจอดหยุดนิ่งยังภายในสระ โดยที่ไม่ได้เกิดจากการเกิดอุบัติเหตุมาก่อน
เนื่องจากกระจังหน้ารถนั้นไม่ได้มีรอยแตกเหมือนกับรถที่เกิดอุบัติเหตุมา รวมถึงกันชนและฝากระโปรงหน้ารถที่บุบนั้น เป็นการเกิดขึ้นจากการกดทับของน้ำหนักตัวรถลงกับพื้นดินที่ก้นบ่อ ซึ่งนิ่มกว่าการพุ่งชนของอุบัติเหตุ อีกทั้งในขณะที่รถยังอยู่ในน้ำนั้นได้จอดอยู่ในตำแหน่งเกียร์ว่าง ประกอบกับกระจกประตูด้านฝั่งคนขับถูกลดลงเปิดออกทิ้งไว้ และยังมีกุญแจสำหรับสตาร์ทรถเสียบคาไว้ด้วย จึงได้วิเคราะห์ไปในแนวทางการสืบสวนว่าเป็นการจัดฉาก เพื่อให้เป็นไปในรูปของการเกิดอุบัติเหตุในการอำพรางหลบหนีคดีของผู้ต้องหารายนี้
โดยหากมองว่าเป็นการฆ่าตัวตายนั้น ก็ต้องมีการค้นพบศพภายในสระน้ำ แต่หลังจากการปูพรมค้นหาในวันนี้กลับไม่พบ หรือหากถูกทางฝ่ายตรงข้ามตามมาทำร้าย และทำลายพยานหลักฐาน ก็ต้องมีทั้งศพและสิ่งของบางอย่างอยู่ภายในรถมากกว่านี้ เพื่อตัดข้อสงสัยต่างๆ ว่ามีการเอาศพมาถ่วงน้ำไว้หรือไม่จึงได้ให้นักประดาน้ำใช้เชือกขึงค้นหาแบบเรียงหน้ากระดานไปทั่วทั้งบ่อแล้วทั้ง 4 คน และค้นหาแบบสลับไปมาแต่ไม่พบอะไรเพิ่มเติมอีก พ.ต.อ.สมชาย กล่าว
