ฉะเชิงเทรา – การเมืองไม่นิ่งกระทบผู้ประกอบการคลังสินค้านำเข้าส่งออก ทำธุรกิจชะลอตัวชั่วขณะ เผยคาดหวังรัฐบาลใหม่ได้คนรู้งานเข้ามานั่งบริหารกระทรวงที่เกี่ยวข้อง หลังเปิดพื้นที่ขยายกิจการไว้รอคอยรองรับการเติบโตขยายตัวทางธุรกิจในอนาคต ระบุเป้าหมายมุ่งสู่การเป็นฮับกระจายสินค้าที่สำคัญในภูมิภาค
วันที่ 22 ก.ค.66 เวลา 13.30 น. นายจุลภัทร เกื้อสกุล ประธานบริษัทเอสเจอินเตอร์โลจิสติกส์ จำกัด ผู้ประกอบการด้านคลังสินค้าภายในเขตปลอดอากรฟรีโซน (Free Zone) เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ค ตั้งอยู่เลขที่ 89/7 ม.5 ถ.บางนา-ตราด กม.39 ต.บางสมัคร บางปะกง ฉะเชิงเทรา ได้กล่าวถึงการดำเนินธุรกิจในช่วงสถานการณ์การเมืองที่ยังไม่นิ่ง หรือประเทศไทยยังไม่สามารถโหวตเลือกสรรหานายกรัฐมนตรีเพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ว่า
ข่าวน่าสนใจ:
อยากให้การเมืองในประเทศนิ่งกว่านี้เนื่องจากมีผลกระทบต่อภาคการส่งออก แม้ว่าจะส่งผลกระทบไม่มากนัก เนื่องจากภาคธุรกิจของไทยนั้นมีความแข็งแกร่งกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเรื่องของการส่งออก การทำการค้ากับต่างประเทศ แต่ได้ทำให้เกิดการชะลอตัวจากลูกค้าที่ลดลงไปประมาณ 5-10 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากผู้นำเข้าจากต่างประเทศนั้น ยังคงรอดูสถานการณ์และแนวโน้มในการจัดตั้งรัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตว่าจะออกมาเป็นอย่างไร
ซึ่งหากสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้เร็ว การใช้จ่ายจากภาครัฐจะมีส่วนที่จะกระจายส่งผลต่อผู้นำเข้าและผู้ส่งออก จะทำให้สามารถเติบโตได้อีกอย่างน้อย 4-5 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ จึงอยากฝากถึงรัฐบาลชุดใหม่ว่า หากมีการจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว ขอให้เลือกหรือหาคนที่จะเข้ามาดูแลงานในเรื่องของการขนส่งกระจายสินค้า หรือโลจิสติกส์ ที่เป็นมืออาชีพมีความรู้ความเข้าใจงานทางด้านโลจิสติกส์ เข้ามาดูแลทางด้านนี้โดยเฉพาะ
เพราะจะเกี่ยวข้องกับทางด้านต้นทุนในทุกๆ หน่วยงานในทุกภาคส่วน ทั้งเอกชนและภาครัฐ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนของประเทศในภาพรวมได้ และยังจะทำให้เกิดศักยภาพในการแข่งขันกับต่างประเทศด้วย โดยเฉพาะหากเป็นตำแหน่งรัฐมนตรีนั้น จะต้องเข้าใจในเรื่องธุรกิจโลจิสติกส์นี้ด้วย หรืออาจเข้าไปปรึกษาในกลุ่มหรือสมาคมผู้ประกอบธุรกิจทางด้านนี้ เพื่อให้ไทยก้าวขึ้นไปเป็นฮับที่สำคัญทางด้านโลจิสติกส์ในภูมิภาคได้อย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการรองรับการกระจายสินค้าจากจีน ที่ไทยเรานั้นถือเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าและมีอนาคตที่จะเติบโตไปได้อีกมาก เช่น ท่าเรือแหลมฉบังนั้นได้มีการขยายขนาดท่าเรือให้ใหญ่เพิ่มขึ้น
สำหรับในวันนี้ทางบริษัทได้มีการเปิดโกดังสินค้าแห่งใหม่ในเขตปลอดอากร ซึ่งถือเป็นจุดศูนย์กลางที่อยู่ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ ใกล้กับท่าเรือกรุงเทพฯ รวมถึงท่าเรือแหลมฉบังด้วย ในรัศมีไม่เกิน 50 กม. จึงมีความเหมาะสม ขณะที่พื้นที่ฟรีโซนแห่งนี้ยังอยู่ในเขต จ.ฉะเชิงเรา จึงได้สิทธิพิเศษในเรื่องอีซีซีจะทำให้การกระจายสินค้าเข้าสู่กรุงเทพฯ นั้น สามารถช่วยลดต้นทุนให้แก่ลูกค้าได้ด้วย
โดยที่บริษัทเอสเจอินเตอร์โลจิสติกส์ นั้นได้ประกอบกิจการมาเกือบ 10 ปีแล้ว ในวันนี้เป็นการขยายงานในส่วนของแวร์เฮ้าส์ เพื่อจัดตั้งเป็นแวร์เฮ้าส์ที่อยู่ในเขตอีซีซี ซึ่งเป็นแวร์เฮ้าส์ฟรีโซนในเขตปลอดอากรของศุลกากรเพื่อจัดเก็บสินค้าที่ยังไม่ต้องเสียภาษี โดยมีเป้าหมายของการเป็นฮับกระจายสินค้าไปยังในกลุ่มอินโดจีน โดยมีห้องเย็นและคลังสินค้าทั่วไปในการจัดเก็บสินค้า โดยจะมีสินค้าหลากหลายประเภท ทั้งสุราบุหรี่ และสินค้าแช่เย็นต่างๆ โดยที่เรามีประสบการณ์ทางด้านนี้มามากพอสมควร
นอกจากนี้ยังมีแผนในอนาคตที่จะขยายแวร์เฮ้าส์ต่อไปอีก ยังตามหัวเมืองต่างๆ ทั้งแหลมฉบัง ชลบุรี และตามตะเข็บชายแดนประเทศเพื่อนบ้านในอนาคต ที่จะมีการขยายฐานออกไป โดยในวันนี้เป็นการเปิดพื้นที่โกดังสินค้า ขนาด 5,000 ตารางเมตร ถือเป็นจุดเริ่มต้นก่อนในพื้นที่แห่งนี้ หลังจากที่มีลูกค้าต้องการที่จะใช้บริการจากเราเพิ่มขึ้น หลังจากนี้จะได้หาสถานที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าในการกระจายสินค้าไปยังจุดต่างๆ ที่เหมาะสมต่อไปเพื่อลดต้นทุนสินค้า โดยพื้นที่ในการจัดตั้งคลังสินค้านั้น จะต้องตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าเป็นหลักด้วย นายจุลภัทร กล่าว
สำหรับการเปิดแวร์เฮ้าส์แห่งใหม่ของบริษัทเอสเจอินเตอร์โลจิสติกส์ในวันนี้ ได้มีนายพิเชษฐ์ ตันเจริญ อดีต รมช.ว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินทางมาเป็นประธานเปิดงานร่วมกับผู้บริหารของบริษัทด้วยเมื่อเวลา 11.30 น. โดยทางบริษัทได้มีการจัดพิธีพราหมณ์ในการบวงสรวงสถานที่ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้า เวลา 07.00 น. และมีพิธีพุทธในการทำบุญถวายอาหารเพลพระแด่พระสงฆ์ในเวลา 11.00 น.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: