ฉะเชิงเทรา – วันหยุดยาว ในช่วงงานบุญเข้าพรรษาปีนี้ แวะชมทัศนียภาพมุมมองแปลกตาที่ใต้อ่างเก็บน้ำคลองสียัด ที่ยังอยู่ในภาวะฤดูแล้งมาอย่างยาวนานถึงกว่าค่อนปี ทำโขดหินทุ่งหญ้าหาดทรายแดงที่เคยจมอยู่ใต้ผืนน้ำ ผุดโผล่ขึ้นมาให้ผู้คนได้พบเห็นและชื่นชม สลับวิถีชาวบ้านคนเลี้ยงวัวเกษตรกรได้ใช้ประโยชน์ในพื้นที่ทางด้านการเพาะปลูก ที่มีให้เห็นเรียงรายอยู่เต็มขอบอ่างระหว่างน้ำลด
วันที่ 1 ส.ค.66 เวลา 13.33 น. ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสภาพความสวยงามที่มาพร้อมกับมุมมองที่แปลกตา ในยามฤดูแล้งที่ยาวนานต่อเนื่องมานับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565 ที่ผ่านมา ภายในอ่างเก็บน้ำคลองสียัด พื้นที่ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา จนถึงขณะนี้ ที่ยังคงไม่มีฝนตกห่าใหญ่ลงมาที่ด้านบนเหนือสันเขื่อนมากนัก จนทำให้ระดับน้ำภายในอ่างเก็บน้ำปัจจุบันมีปริมาณคงเหลืออยู่แค่เพียง 76.55 ล้าน ลบม.เท่านั้น หรือคิดเป็นร้อยละ 18.23 ของความจุที่ 420 ล้าน ลบม.
ข่าวน่าสนใจ:
แต่ในมุมมองอีกด้านหลังจากน้ำภายในอ่างเก็บน้ำลดลง ได้ทำให้พื้นที่ภายในอ่างเก็บน้ำเปลี่ยนแปลงสภาพไป จนกลายเป็นทุ่งหญ้าเขียวขจี สลับกับพืชพันธุ์ไม้ล้มลุกอีกนาๆ ชนิด ที่ได้ผุดชู่ช่อก้านใบงอกงามขึ้นมาจนเต็มพื้นดิน ขณะที่พืชบางชนิดยังเป็นไม้ดอกที่ผลิบานออกมาช่วยแต่งแต้มสีสันให้พื้นทรายก้นอ่างที่มีโทนสีน้ำตาลเข้ม จนมองดูคล้ายกับหาดทรายสีแดง ได้มีมวลหมู่ดอกไม้ขึ้นมาปกคลุมไว้ สลับกับบางช่วงของผืนดินที่ก้นบึ้งภายในอ่างเก็บน้ำ ที่เหือดแห้งหายไปได้มีโขดหินน้อยใหญ่ผุดโผล่ขึ้นมาเหนือพ้นผิวน้ำ
บางช่วงกลายเป็นเกาะแก่ง บางช่วงกลายเป็นสิ่งแปลกตาคล้ายกับการถูกเนรมิตให้ผุดโผล่ขึ้นมาตั้งวางเรียงรายสลับไว้อยู่กับผืนทราย ที่มาพร้อมกันกับซากของเปลือกหอยน้ำจืดที่นอนตะแคงเกยตื้นติดค้างอยู่บนพื้นดิน จนทำให้แลดูแปลกตาชวนให้น่าหลงไหลและอยากเข้าไปสัมผัสดูอยู่ใกล้ๆ อย่างที่จะพลาดไม่ได้เลยที่จะต้องหยิบนำโทรศัพท์สมาร์ทโฟน หรือกล้องถ่ายภาพมากดบันทึกความสวยงามไว้ให้กลายเป็นความทรงจำอันน่าประทับใจ ที่ครั้งหนึ่งได้เคยเข้ามาสัมผัสถึงยังก้อนหินในอ่างเก็บน้ำแห่งนี้แล้ว ทั้งยังจะได้นำไปแชร์อวดให้ผู้คนบนโลกผ่านเลนได้เห็นกันในสังคมของโลกโซเชียลที่กว้างไกล
นอกจากนี้เกษตรกรที่มีถิ่นพำนักพักอาศัยอยู่ใกล้ๆ กับแนวเขตขอบของอ่างเก็บน้ำยังได้ใช้ประโยชน์ โดยการนำสัตวเลี้ยงเข้ามาเดินแทะเล็มผืนหญ้าและวัชพืชที่งอกงามขึ้นมาบนผืนดิน โดยที่บางรายยังได้เข้ามาทำไร่ปลูกพืชผักใช้ประโยชน์จากการสะสมของซากพืชซากสัตว์ ตลอดจนแร่ธาตุสารอินทรีย์ที่ไหลปะปนมากับกระแสน้ำในช่วงฤดูน้ำหลาก และตกตะกอนรวมกันปนอยู่กับผืนดินใต้อ่าง ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรงอกงามจนแทบไม่ต้องใส่ปุ๋ยปรับสภาพบำรุงดินเพิ่มเติมลงไปแต่อย่างใด
โดยที่ในปีนี้ถือเป็นฤดูแล้งที่ยาวนานที่สุดในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา ที่เชื่อกันว่าได้รับอิทธิพลของปรากฎการณ์เอลนีโญ จนทำให้ฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ไม่เพียงพอที่จะรวบรวมเป็นมวลน้ำให้ได้เพียงพอต่อการกักเก็บ ขณะเดียวกันยังคงมีการระบายน้ำผ่านทางประตูระบายต่อเนื่องลงไปเป็นระยะ เพื่อรักษาระบบนิเวศภายในลำคลองสียัดและคลองสาขา ทั้งยังเป็นการสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวและภาคส่วนอื่นๆ ในพื้นที่ทางตอนล่าง ตลอดจนการนำไปใช้ในการอุปโภคบริโภครวมทั้งการผลิตน้ำประปาอีกทางหนึ่งด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: