ฉะเชิงเทรา – นักเดินทาง รอรับข่าวดีสะพานข้ามแยกบางพระจุดตัดปัญหารถติดสะสมระดับชาติในทุกเทศกาลใกล้แล้วเสร็จ คาดปีใหม่นี้คนเดินทางไปภาคอีสาน-เชื่อมชายแดนตะวันออกสะดวกสบาย หลังครบกำหนดตามสัญญาจ้างนานเกือบ 3 ปีในเดือนนี้แล้ว แต่ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จทัน เชื่อในช่วงปลายเดือน ก.ย.นี้จะเริ่มเปิดให้ทดลองใช้งานได้แล้ว
วันที่ 24 ส.ค.66 เวลา 12.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสะพานข้ามทางสามแยกบางพระ ซึ่งเป็นจุดตัดในพื้นที่ ต.โสธร ต.บางพระ และเขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ที่มักเกิดปัญหาด้านการจราจรติดขัดในทุกช่วงเทศกาลหยุดยาวของทุกปี โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ และสงกรานต์ นั้น ถือเป็นปัญหาด้านการจราจรติดขัดในระดับชาติ ที่มักจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงใน ตร. ให้ความสำคัญ เดินทางมาตรวจเยี่ยมวางแผนแก้ไขปัญหาด้านการจราจรอยู่เป็นประจำนั้นว่า
ขณะนี้โครงการก่อสร้างมีความคืบหน้าจนใกล้จะแล้วเสร็จแล้ว หลังจากการดำเนินการก่อสร้างล่าช้าไปกว่ากำหนดสัญญาการก่อสร้างเลขที่ สส.11/2563 ลว. 3 กันยายน 2563 โดยสำนักก่อสร้างสะพาน กรมทางหลวง ผู้ว่าจ้างตามกำหนดเริ่มสัญญาเมื่อวันที่ 4 ก.ย.63 และสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 19 ส.ค.66 รวมระยะเวลาการก่อสร้าง 1,080 วัน ด้วยวงเงินงบประมาณ 1,037,500,500 บาท โดยมีบริษัทเนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้าง
รวมระยะเวลาประมาณ 3 ปี โดยครบกำหนดสัญญาไปแล้วเมื่อวันที่ 19 ส.ค.66 ที่ผ่านมา แต่ปรากฎว่าเมื่อถึงวันครบกำหนดตามสัญญาจ้างแล้ว โครงการก่อสร้างยังดำเนินการได้ไม่แล้วเสร็จทันตามสัญญาที่กำหนดไว้ แต่ทางบริษัทผู้รับเหมาได้มีการเร่งมือในการเทพื้นผิวการจราจรบนสะพาน และตกแต่งขอบสะพาน จึงเชื่อว่าในช่วงปลายเดือน ก.ย.66 นี้ สะพานข้ามแยกบางพระจะสามารถเริ่มเปิดให้มีการทดลองใช้งานสัญจรได้
ตามการคาดการณ์ของ พ.ต.ท.เตชทัต เนตรุวงศ์ รอง ผกก.จร. สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ที่ได้เปิดเผยข้อมูลถึงความคืบหน้าเมื่อ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โครงการก่อสร้างดังกล่าวจะสามารถเปิดให้ประชาชนเริ่มใช้งานได้ในช่วงปลายเดือน ก.ย.66 ที่จะถึงนี้ นับเป็นข่าวดีที่บรรดานักเดินทาง และผู้ที่มีภูมิลำเนาทางแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และชายแดนภาคตะวันออก จะสามารถเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาได้โดยสะดวกในช่วงเทศกาลสำคัญถัดไป ในช่วงปลายปีนี้
สำหรับสะพานข้ามแยกบางพระแห่งนี้ ถือเป็นจุดตัดสำคัญที่เป็นเส้นทางเชื่อมโยงระหว่างถนนสายหลักหลายสาย คือ ถนน 314 ฉะเชิงเทรา-บางปะกง (สิริโสธร) เข้าสู่ถนนสาย 365 เลี่ยงเมือง ไปยังถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี ที่รองรับการสัญจรผ่านของประชาชนมาจาก ถนนสายสุวินทวงศ์ (304) ช่วงตอน มีนบุรี-ฉะเชิงเทรา และถนนมอเตอร์เวย์สาย 7 (กรุงเทพฯ-พัทยา) รวมถึงถนนสุขุมวิท สายเก่า (สาย 3) และถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด) สาย 34 มุ่งหน้าไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือและชายแดนภาคตะวันออก
จนกลายเป็นปัญหาเส้นทางคอขวดมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่เมื่อครั้งเกิดปัญหาน้ำท่วมใหญ่ในปี 2554 ที่มีประชาชนหันมาใช้เส้นทางสายนี้กันเป็นจำนวนมากในการเดินทางไปสู่จังหวัดทางภาคอีสาน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาน้ำท่วมเส้นทางสายหลักในแถบภาคกลางจนไม่สามารถสัญจรผ่านไปได้ ในช่วงเวลานั้น โดยมีเส้นทางสายนี้เพียงสายเดียวเท่านั้น ที่ยังเป็นเส้นเลือดใหญ่ ช่วยเชื่อมโยงภาคการขนส่งหล่อเลี้ยงผู้คนในห้วงเวลาวิกฤตดังกล่าว ทำให้ผู้คนจำนวนมากต่างหันมาใช้เส้นทางสายนี้ในการเดินทางกันมาโดยตลอดอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
