ฉะเชิงเทรา-ลุงสายหื่นวัย 61 จ่อข่มขืนหลานสาวแท้ๆ ตามสายเลือดวัย 20 ซึ่งเป็นญาติห่างๆ หลังมาขอพักพิงชั่วคราวเพื่อหางานทำได้เพียง 3 วัน ก่อนเหยื่อหลบหนีเอาตัวรอดเตลิดวิ่งออกมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านไกลถึงกว่า 1 กม. แต่กลับไม่มีใครช่วยเหลือได้ ในที่สุดโทรเข้าหมายเลขด่วน 191 ตำรวจเข้าควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ทันเวลา
วันที่ 7 ม.ค.61 เวลา 16.30 น. ร.ต.อ.สุริยันต์ แก้วพิบูลย์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา ว่า มีหญิงสาวโทรศัพท์เข้ามาแจ้งเหตุร้องขอความช่วยเหลือจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ได้ถูกผู้เป็นลุงพยายามที่จะข่มขืนกระทำอนาจาร ที่บริเวณริมถนนสายเลียบมอเตอร์เวย์ สาย 7 (กรุงเทพฯ-พัทยา) ด้านฝั่งขาเข้าใกล้กับโรงเรียนจันทร์เจริญ พื้นที่ ม.4 ต.ท่าสะอ้าน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบหญิงสาววัย 20 ปี อยู่ในอาการท่าทีตกใจเสียขวัญ และร้องให้อยู่ตลอดเวลา จึงได้ให้การช่วยเหลือพร้อมสอบถามถึงสาเหตุเบื้องต้นจนทราบว่า น.ส.นิด (นามสมมุติ) ได้เดินทางออกจากบ้านใน จ.มหาสารคาม เพื่อมาหางานทำ โดยได้เดินทางมาพร้อมกันกับ นายสุพจน์ บุรีนอก อายุ 61 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชนเลขที่ 68/1 ม.5 ต.บางพลีน้อย อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นญาติห่างๆ และมีศักดิ์เป็นลุง ที่ได้เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้าน ยังภูมิลำเนาบ้านเกิดที่ จ.มหาสารคาม เมื่อช่วงเทศกาลปีใหม่
โดย น.ส.นิด เล่าว่า ก่อนเดินทางมานั้น นายสุพจน์ ได้พูดจาชักชวนรวมทั้งบอกกับทางญาติผู้ใหญ่ของตนเองว่า ที่บริเวณใกล้กับบ้านพักของตนที่หมู่บ้านจันทร์เจริญแห่งนี้นั้น มีโรงงานอุตสาหกรรมอยู่ใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก และมีแหล่งหางานทำได้เยอะแยะ เนื่องจากตนนั้นเรียนจบ ม.6 แล้ว แต่ยังไม่มีงานทำ จึงได้เดินทางมาพร้อมกัน และเข้ามาขอพักอาศัยอยู่ยังภายในบ้านของนายสุพจน์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงด้วย ในระหว่างกำลังหาสมัครงาน โดยนายสุพจน์ นั้นมีบุตรชาย บุตรสะใภ้ และหลาน พักอาศัยอยู่ภายในบ้านด้วย
แต่หลังจากเข้ามาอยู่ยังภายในบ้านด้วยกันแล้ว ในขณะที่บุตรชายและบุตรสะใภ้ของ นายสุพจน์ ออกไปทำงานไม่อยู่บ้านนั้น นายสุพจน์ ได้แสดงท่าทีที่จะลวนลามตนเองอยู่หลายครั้ง อีกทั้งยังพูดจาหว่านล้อมบอกกับตนว่า ภรรยาของเขาได้ตายจากไปนานแล้วเขาจึงไม่มีใคร และมีสมบัติเยอะแยะมากมายหลังจากปลดเกษียณแล้วก็ยังมีเงินเก็บอยู่อีกมาก และจะให้หนูหมดเลยนะ ก่อนที่จะพูดกับตนด้วยว่าอยากจะขอมีอะไรด้วยกัน ซึ่งตนก็ได้ปฏิเสธไปไม่ยินยอม จนมาถึงในวันนี้ซึ่งเป็นวันที่ 3 แล้วที่ตนเข้ามาอยู่ยังภายในบ้านหลังนี้ด้วย
เขาได้เข้ามาพยายามโอบกอดที่จะกระทำการลวนลามหมายที่จะข่มขืนตน ตนจึงได้ดิ้นสะบัดจนหลุดออกมา จากนั้นจึงได้วิ่งเข้าไปหลบยังภายในห้องพัก และล็อกห้องไว้ก่อนที่จะเก็บเสื้อผ้าใส่เป้กระเป๋าสะพายหลัง จากนั้นจึงได้วิ่งออกมาจากบ้านพัก เพื่อออกมาขอความช่วยเหลือจากคนในหมู่บ้าน แต่คนในหมู่บ้านนั้นกลับไม่มีใครที่จะสามารถช่วยเหลือตนได้เลย เนื่องจากในช่วงกลางวันนั้น ในหมู่บ้านแห่งนี้มีแต่คนแก่ชราอยู่เฝ้าบ้านเท่านั้น ตนจึงได้พยายามหาทางลัดเลาะหลบหนีออกมาตามบ้านเรือนของชาวบ้านระยะทางกว่า 1 กม.
โดยที่มีนายสุพจน์นั้นได้พยายามขับรถจักรยานยนต์ คันหมายเลขทะเบียน กลฉ-443 ฉะเชิงเทรา ไล่ติดตามมาอยู่ตลอด ก่อนที่ตนจะได้แอบเข้าไปหลบอยู่ยังภายในหอพักแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนเลียบมอเตอร์เวย์ดังกล่าว ก่อนที่จะพยายามที่จะโทรศัพท์กลับไปยังที่บ้านใน จ.มหาสารคาม เพื่อเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเองให้แก่ทางผู้เป็นมารดาฟัง จากนั้นทางมารดาได้บอกให้โทรไปยังหมายเลข 191 เพื่อแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยเหลือได้ทันเวลาดังกล่าว น.ส.นิด กล่าว
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าว ได้พยายามที่จะสอบถามพูดคุยกับนายสุพจน์ ผู้ที่ถูก น.ส.นิด กล่าวหาว่าพยายามที่จะกระทำการอนาจารนั้น แต่นายสุพจน์กับปฏิเสธ โดยบอกว่าได้ให้การต่อทางพนักงานสอบสวนไปหมดแล้ว และจะไม่ขอพูดคุยอะไรกับสื่อ แต่ได้บอกกับทาง ร.ต.ท.หญิง กรรณิการ์ ชมภูยอด พนักงานสอบสวนหญิงของ สภ.บางปะกง ซึ่งมีหน้าที่เข้ามาช่วยทำการสอบสวนในคดีทางเพศที่เกิดขึ้นต่อสตรีว่า น.ส.นิด นั้น เป็นบุตรของบุตรชายน้าสาวของนายสุพจน์ จึงมีศักดิ์เป็นหลาน โดยนายสุพจน์นั้นมีศักดิ์เป็นลุง
ด้าน ร.ต.อ.สุริยันต์ กล่าวว่า ในขณะนี้ยังไม่ได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหาต่อนายสุพจน์ โดยยังอยู่ระหว่างรอให้ทางพนักงานสอบสวนหญิงที่มาช่วยในการสอบสวนคดีทางเพศเกี่ยวกับสตรีได้ทำการสอบสวนให้แล้วเสร็จก่อน และจะได้ส่งตัว น.ส.นิด ไปให้ทางแพทย์ทำการตรวจร่างกายให้แล้วเสร็จก่อน จึงจะทำการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาในการดำเนินคดีต่อไปได้ ร.ต.อ.สุริยันต์ กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: