ฉะเชิงเทรา – ปั๊มก๊าซ NGV ส่อถึงคราวล่มสลายหลังลูกค้าหดหายลดลงเหลือเพียงแค่หนึ่งในสาม เหตุจากราคาก๊าซทะยานสูงขึ้นต่อเนื่องใกล้ทะลุ 20 บาทจากราคาดั้งเดิม 8.55 บาทมาจ่อที่หน้าปั๊ม 19.64 บาทต่อกิโลกรัม ขณะผู้ประกอบอาชีพขนส่งบ่นอุบ ต้นทุนแพงทำแย่งประมูลแข่งขันรับงานสู้กับรถใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิงลำบาก ระบุเสียเปรียบรอบด้าน
วันที่ 20 ก.ย.66 เวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายเจษฎา สำรอง อายุ 28 ปี ผู้จัดการสถานีบริการก๊าซ NGV แห่งหนึ่งย่านถนนสายเลี่ยงเมืองฉะเชิงเทรา (365) ว่าหลังจากราคาก๊าซ NGV (CNG) ปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จากราคาขายหน้าปั้มดั้งเดิมในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา 8.55 บาทต่อกิโลกรัมมาจนถึงราคา 19.64 บาทต่อ กก. อยู่ในขณะนี้ ทำให้ลูกค้าลดลง หรือหดตัวหายไปจากหน้าปั๊มเป็นจำนวนมากถึง 2 ใน 3 จากที่เคยเข้ามาต่อคิวเรียงแถวรอเติมกันจนเป็นแถวยาวเมื่อช่วงก่อนหน้า แต่ตอนนี้ที่หัวจ่ายกลับว่างลงหลายหัว
ข่าวน่าสนใจ:
เมื่อดูจากยอดปริมาณการจำหน่ายนั้น จากเดิมที่เคยขายได้วันละประมาณ 30 ตัน ขณะนี้จำหน่ายก๊าซออกไปได้เพียงแค่ประมาณ 10 ตันต่อวันเท่านั้น ซึ่งลดลงไปอย่างมาก เนื่องจากที่ผ่านมานอกจากทางสถานีบริการก๊าซจะได้รับผลกระทบมาจากในช่วงสถานการณ์โควิด 19 ระบาด ที่ภาคส่วนต่างๆ มีการเดินทางและขนส่งน้อยลงแล้ว ยังได้รับผลกระทบจากราคาก๊าซที่ขยับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงครั้งละ 1 บาทมาเกือบตลอดปีที่ผ่านมาในทุก ๆ 4 เดือนถึง 3 ครั้ง
จึงยิ่งทำให้ยอดการขายหน้าปั้มหดตัวลงไปมากกว่าเก่า โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าประเภทรถบ้านจากที่เคยเข้ามาแย่งกันเติม ขณะนี้ได้พากันหายหน้าไปเกือบหมด รวมถึงรถที่ให้บริการด้านสาธารณะด้วย เช่น รถสองแถวและรถตู้นั้น ได้ต่างพากันทยอยไปปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์หันกลับไปใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิงกันเกือบหมดแล้ว ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีรถเข้ามาใช้บริการเดิมก๊าซน้อยลงไปอย่างมาก
จึงอยากให้ทางรัฐบาลชุดใหม่นี้ช่วยตรึงราคาก๊าซ NGV เอาไว้ด้วย เหมือนกับพลังงานด้านอื่นๆ ที่ปรับลดลง เพื่อรักษาลูกค้าที่ยังเหลืออยู่ไว้ให้แก่ผู้ประกอบการปั๊มก๊าซนั้นอยู่รอดได้ เนื่องจากขณะนี้ได้ยินเสียงกลุ่มลูกค้าเริ่มบ่นกันมากขึ้นแล้ว และอาจจะปรับเปลี่ยนรถไปใช้พลังงานด้านอื่นกันหมด โดยเฉพาะราคาน้ำมันดีเซลที่ลดลงมาอย่างมากถึง 2 บาท แต่ราคาก๊าซ NGV กลับปรับขึ้นสวนทางกัน อีกทั้งรถที่ใช้ก๊าซ NGV ยังเป็นเชื้อเพลิงที่มีค่าสึกหลอมากกว่า ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมบำรุงรักษาที่สูงกว่ากันมาก จากรถที่ใช้น้ำมัน เพราะความร้อนของเครื่องยนต์สูงกว่า
โดยกลุ่มลูกค้าที่หายไปนั้น ได้ลดจำนวนหดหายลงไปเหมือนกันหมดในทุกปั๊ม ไม่ใช่หายไปแค่เฉพาะที่ปั้มก๊าซแห่งนี้เพียงแห่งเดียว และหลังจากยอดการขายลดลง ได้ส่งผลกระทบต่อต้นทุนค่าบริหารจัดการภายในปั๊มด้วย ที่เวลานี้ทางปั้มเองนั้นอาจจะต้องปรับลดจำนวนคนลง และจัดการบริหารทรัพยากรภายในให้ลงตัว และหากราคาก๊าซยังจะขยับขึ้นต่อเนื่องไปอีกแบบไม่หยุด
ตามที่ได้มีการแจ้งไว้ในพ่วงท้ายจากทางบริษัทผู้ค้าส่งก๊าซรายใหญ่ ว่าอาจจะมีการปรับราคาขึ้นอีกระลอกในช่วงเดือน ธ.ค.66 นี้ จะกระทบจนถึงขั้นปิดปั้มหรือหยุดการจำหน่ายก๊าซ NGV ไปเลยหรือไม่นั้น ยังต้องรอการพูดคุยกัน จากทางเจ้าของกิจการอีกครั้งว่าจะดันสู้กันต่อไปได้อีกหรือไม่ นายเจษฎา กล่าว
ส่วนด้าน นายณัฐ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ชาว จ.จันทบุรี คนขับรถบรรทุกพ่วงขนส่งดินลูกรังจากในพื้นที่ ต.หนองแหน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ไปส่งถมดินยังในย่านสุขาภิบาล 3 กทม. กล่าวว่า อยากให้ทางรัฐบาลหันมาช่วยพยุงราคาก๊าซ NGV บ้าง เนื่องจากขณะนี้ออกไปวิ่งรับงานแข่งกับรถบรรทุกที่ใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิงไม่ไหวแล้ว เพราะน้ำมันดีเซลมีราคาลดลงมาอย่างมาก
ซึ่งล่าสุดได้ลดลงมามากถึง 2 บาท ในขณะที่ค่าใช้จ่ายอื่นๆ นั้นต่างกันมาก เพราะรถใช้ก๊าซมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า จะไปขอปรับขึ้นราคาค่าขนส่งกับทางลูกค้าก็ไม่ได้ เพราะจะแข่งขันกับทางรถที่ใช้น้ำมันดีเซลไม่ไหว ซึ่งถ้าหากก๊าซ NGV ยังขยับขึ้นไม่หยุด อาจจะต้องปรับเปลี่ยนอาชีพ หรือเลิกวิ่งขนส่งสินค้ากันไปเลย เพราะสู้ไม่ไหว
นอกจากรถบรรทุกที่ใช้ก๊าซ NGV จะเสียเปรียบทางด้านของราคาค่าขนส่งด้วยเชื้อเพลิงดีเซลที่ถูกกว่าแล้วในเวลานี้ ยังจะต้องเสียเวลาในระหว่างการเติมก๊าซมากกว่าด้วย โดยการเติมก๊าซนั้นจะใช้เวลาบรรจุประมาณ 15-20 นาทีต่อครั้ง แต่รถที่ใช้ดีเซลใช้เวลาเติมแค่ 5-10 นาทีเท่านั้น ขณะเดียวกันรถที่ใช้ก๊าซยังมีข้อจำกัดในเรื่องของเส้นทางด้วย หากวิ่งในระยะไกลนั้นจะต้องเลือกเส้นทางที่มีสถานีบริการบรรจุก๊าซด้วย เวลาจะรับงานหรือประมูลงานไกล ซึ่งหากไม่มีปั้มก๊าซตั้งอยู่เลยก็ไปรับงานไม่ได้ นายณัฐ กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: