ฉะเชิงเทรา – ผงะกระเป๋าซุกบึ้มมีอีกลูก เด็กน้อย 8 ขวบเผยนาทีหวาดเสียว ขณะหยิบขึ้นมาส่องดูเป็นคนแรกแต่ระเบิดยังไม่ทำงานก่อนโยนทิ้งไว้ข้างรั้วสนามเด็กเล่น ส่วนคนที่สองวัย 5 ขวบล้วงจะหยิบระเบิดอีกลูกขึ้นมาดูบ้างสุดท้ายบึ้มเละคามือ ท่ามกลางความตื่นตระหนกของชาวบ้าน ด้าน จนท.ชุด EOD ลงพื้นที่เก็บกู้นำออกไปพ้นจากพื้นที่แล้ว
วันที่ 24 ก.ย.66 เวลา 13.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) จากกองกำกับการสืบสวน ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ได้เดินทางลงพื้นที่ มาทำการเก็บกู้วัตถุระเบิดที่ถูกชาวบ้านค้นพบตามคำบอกเล่าของเด็กชายวัย 8 ขวบ เพื่อนร่วมแก๊งค์กับเด็กชายวัย 5 ขวบและ 9 ขวบ ที่ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย ภายในสนามเด็กเล่นกลางหมู่บ้านโครงการเคหะบ้านโพธิ์ 2 พื้นที่ ม.2 ต.สนามจันทร์ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวานนี้ ว่ายังคงมีระเบิดอีกลูกถูกโยนทิ้งไว้ที่ริมรั้วด้านหลังเก้าอี้ชิงช้าม้าโยกจุดเกิดเหตุระเบิดขึ้นเมื่อวาน
โดย ด.ช.กิตพัฒ (สงวนนามสกุล) วัย 8 ขวบ เล่าว่า กระเป๋าใส่ระเบิดดังกล่าวใบนี้ ตนเห็นเป็นคนแรกจึงได้ทำการเปิดออก และหยิบนำเอาก้อนวัตถุสีดำขนาดใหญ่ขึ้นมาส่องดู โดยเห็นว่ามีเทปพันสายไฟสีดำพันอยู่รอบนอก จึงได้เกะแย้มดูก่อนเล็กน้อย โดยเข้าใจว่ามีคนเอาเทปพันสายไฟมาพันก้อนหินเอาไว้ จึงโยนทิ้งออกไปในป่าทางด้านหลังของชุดเก้าอี้ซุ้มม้าโยก โดยไม่รู้ว่าสิ่งที่โยนทิ้งไปนั้นเป็นระเบิด และระเบิดก็ยังไม่ได้ทำงานหรือเกิดการระเบิดขึ้น
หลังจากนั้น ด.ช.กรวิชญ์ (สงวนนามสกุล) วัย 5 ขวบ จึงได้ทำการรูดซิบเพื่อเปิดกระเป๋าใบเดียวกัน และจะหยิบวัตถุชนิดเดียวกัน ซึ่งมีขนาดลูกเล็กกว่าออกมาดูบ้าง แต่ยังไม่ทันจะหยิบออกมาจากกระเป๋า ได้เกิดการระเบิดขึ้นมาก่อน จนมือของ ด.ช.กรวิชญ์ ถูกแรงระเบิดจนได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว ด.ช.กิตพัฒ เล่าให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ จนท.ฝ่ายปกครองฟัง
หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ซึ่งนำโดยนายอภิรักษ์ ทิมมณี ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง อ.บ้านโพธิ์ และนายเอกชัย ชื่นอารมณ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 ต.สนามจันทร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ นำโดย ร.ต.อ.เดชา ชาภู่พวง รอง สวป. สภ.แทนภูดาษ พร้อมกำลัง 4 นาย ได้ทำการตรวจค้นภายในบริเวณสนามเด็กเล่นแห่งดังกล่าวอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่ายังคงมีวัตถุระเบิดถูกนำมาซุกซ่อนเก็บไว้มากกว่าที่มีการพบกระเป๋าบรรจุระเบิดใบที่เกิดการระเบิดอีกหรือไม่
แต่กลับพบว่ายังมีมีดดาบรูปทรงคล้ายมีดปังตอแบบหัวตัดความยาวประมาณ 50 ซม. ซุกซ่อนอยู่ภายในสนามเด็กเล่นอีก 1 เล่ม พร้อมด้วยอุปกรณ์การเสพยาเสพติดอีก 1 ชุด จากในบริเวณที่เกิดเหตุ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด EOD จึงได้เริ่มทำการเก็บกู้วัตถุระเบิด ซึ่งอยู่ภายในซอกทางด้านหลังรั้วของสนามเด็กเล่น และแนวกำแพงรั้วลวดหนามของหมู่บ้าน ซึ่งเป็นจุดคับแคบออกมาใส่ลังไม้ ที่มีการจัดเตรียมนำมาใส่ได้สำเร็จ ก่อนที่จะทำการเคลื่อนย้ายออกไปทำลายทิ้ง ด้วยวิธีการกระตุ้นให้เกิดการระเบิด โดยใช้ดินระเบิดเป็นตัวนำการระเบิดในที่โล่งแจ้งยังภายนอกพื้นที่ ห่างไกลจากชุมชน
โดย ดต.ขวัญยืน ศรีเกษม จนท. EOD ระบุว่า ระเบิดที่ทำการเก็บกู้มานี้ เป็นระเบิดแบบไทยประดิฐ ที่กลุ่มนักเรียนสายอาชีวะชอบทำกันขึ้นมา โดยเป็นการประกอบกันขึ้นมาเอง เพื่อนำมาใช้ขว้างปาใส่กันระหว่างคู่อริ หรือกลุ่มนักเรียนจากต่างสถาบันกัน โดยประกอบขึ้นมาจากระเบิดดินเทา หรือดินดำ ซึ่งสามารถหาได้ทั่วไปจากการแกะออกมาจากดอกประทัด หรือระเบิดกระเทียม ระเบิดไข่สำหรับไล่นก เป็นระเบิดดินเทาที่ค่อนข้างมีความไวต่อการระเบิดมาก เมื่อถูกกระทบหรือเสียดสีจนเกิดมีประกายไฟจะทำงานทันที ซึ่งระเบิดลูกนี้มีรัศมีการทำให้ได้รับอันตรายประมาณ 15 เมตร ดต.ขวัญยืน กล่าว
