ฉะเชิงเทรา – ช้างป่าตัวดุ ถูกยิงตายขณะผู้นำท้องถิ่นพร้อมทีมสัตวแพทย์ยังไม่ยืนยันสาเหตุที่แน่ชัด เหตุจากพบมีแผลเก่าตามลำตัวจำนวนมาก เชื่อเป็นช้างที่ป่วยอ่อนแอจนล้มลงตายไปเองตามธรรมชาติ พร้อมทำการเคลื่อนย้ายไปร่วมกันผ่าชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการตายอีกครั้ง ในที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก
วันที่ 11 ต.ค.66 เวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก ร.อ.สุระ โสรักนิษฐ์ ผบ.ร้อย ทพ.ที่ 1306 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ฯ ชุดเฝ้าระวังช้างป่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก (ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี สระแก้ว) ว่า พบช้างป่าเพศผู้อายุประมาณ 5 ปี น้ำหนักประมาณ 2 ตัน นอนตายอยู่ภายในป่ายูคาลิปตัส
ข่าวน่าสนใจ:
ที่ด้านท้ายหมู่บ้านโปร่งเจริญ พื้นที่ ม.12 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา จึงได้นำกำลังเดินทางไปตรวจสอบยังในที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อีกหลายหน่วยงาน โดยพบว่าซากช้างป่าตัวที่พบนี้ ที่บริเวณปากและใต้งวงมีรอยเลือดไหลออกมาจนนองพื้นดิน และพบว่าตามร่างกายเกือบทั่วทั้งตัว มีบาดแผลเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะพบที่บริเวณโคนขาหลังด้านซ้าย มีแผลเป็นรูขนาดใหญ่ จำนวน 2 รูแต่ทางสัตวแพทย์จากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่ากระบกคู่ เชื่อว่าเป็นแผลเก่าแล้ว
นอกจากนี้ยังพบที่บริเวณหัวของช้างป่า มีรอยบาดแผลลักษณะเป็นจุดแดง จำนวน 9 จุด ที่ใบหูทั้ง 2 ข้างพบมีรอยแผลเรื้อรัง โดยที่งวงยังพบว่ามีรอยแผลอีกเป็นจำนวนมาก โดยที่ทางสัตวแพทย์ยังไม่ยืนยันว่าเป็นแผลจากการถูกทำร้าย หรือถูกยิงด้วยอาวุธปืนหรือไม่ ร.อ.สุระ กล่าว
ด้าน นายทรัพย์ทวี กุลสารี นายก อบต.ท่ากระดาน กล่าวว่า หลังการตรวจสอบซากช้างของทางสัตวแพทย์ ยังไม่ยืนยันว่าช้างป่าตัวนี้ถูกยิงตาย เนื่องจากตามร่างกายของช้างตัวนี้มีบาดแผลเป็นจำนวนมาก จึงไม่ทราบว่าบาดแผลไหนเป็นรอยแผลใหม่ หรือรอยแผลเก่า โดยที่ทางเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ได้ระบุว่า ช้างตัวนี้เป็นช้างป่วยที่อยู่ระหว่างการเฝ้าระวัง และเตรียมที่จะนำไปรักษา ซึ่งได้มีเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ได้มาคอยเฝ้าติดตามดูพฤติกรรมอยู่แล้วเมื่อประมาณ 2-3 วันที่ผ่านมา
โดยหลังจากที่ตนเองได้นำเอารูปของช้างป่าตัวที่ตายนี้ไปให้ชาวบ้าน 2 ราย คือ นายบุญหลาย ศรีรักษา อายุ 62 ปี และนายสังเวียน แก้วรักษา อายุ 61 ปี ที่ถูกช้างป่าทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บเมื่อวานนี้ดูแล้ว ทั้งสองคนยืนยันว่า ไม่ใช่ช้างป่าตัวที่มีพฤติกรรมดุร้ายหรือเป็นช้างตัวเดียวกันกับเมื่อวาน ตามที่มีการเผยแพร่ข่าวออกไปผ่านทางสื่อโซเชียล โดยตัวที่เข้ามาทำร้ายชาวบ้านนั้น ยังเป็นช้างเด็กอยู่เลย
มีขนาดตัวเท่ากับวัวเท่านั้น และน่าจะมีอายุประมาณ 1-2 ปี ส่วนช้างตัวที่ตายนี้ เป็นช้างวัยรุ่นแล้วมีอายุประมาณ 5 ปี จึงมีขนาดตัวที่ผิดไปจากกันมาก จึงเชื่อว่าไม่ใช่ช้างป่าตัวเดียวกันกับตัวที่ทำร้ายชาวบ้านโดยสถานการณ์ช้างป่าล่าสุดนั้น ขณะนี้ได้เริ่มมีช้างป่าออกมาเดินอยู่ภายนอกเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไนเป็นจำนวนขึ้นแล้วถึงกว่า 100-200 ตัว ในเขตพื้นที่ อ.ท่าตะเกียบ
โดยที่จุดพบซากช้างตายนั้น เป็นพื้นที่ตรงบริเวณใกล้แนวรอยต่อระหว่าง อ.ท่าตะเกียบ กับ อ.สนามชัยเขต พอดี คือ บ้านคลองมหาด บ้านหนองปรือกันยาง อ.ท่าตะเกียบ กับบ้านโปร่งเจริญ บ้านหนองกระทิง อ.สนามชัยเขต ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ชุดเฝ้าระวังช้างป่า 2 คน ซึ่งมีหน้าที่คอยเฝ้าติดตามช้างป่าป่วย จะเดินมาพบซากช้างตัวนี้เมื่อเวลาประมาณ 09.10 น. โดยเห็นว่าช้างยังคงนอนอยู่กับที่เป็นเวลานาน จึงได้โยนท่อนไม้ใส่แต่ช้างไม่ยอมขยับตัว จึงทราบว่าเป็นช้างที่ตายแล้ว
ซึ่งรอยเลือดที่พบที่ซากช้างนั้น จนท.สัตวแพทย์ ได้ให้ข้อมูลว่า หากช้างได้รับบาดเจ็บหนักมากๆ จะกระอักเลือดออกมาเองโดยไม่มีบาดแผลก็สามารถเป็นไปได้ จึงมีรอยเลือดออกมากองตรงที่บริเวณปากช้าง โดยที่ผ่านมานั้นอาจจะไม่เคยพบเห็นร่องรอยของเลือดจากซากช้างตัวอื่นๆ บ่อยนัก เนื่องจากเป็นซากช้างตายมาแล้วหลายวันจึงไม่พบรอยเลือด แต่สำหรับช้างป่าตัวนี้ทางสัตวแพทย์ระบุว่า เพิ่งตายมาได้ไม่เกิน 24 ชม. จึงพบว่ามีรอยเลือดไหลออกมาจากทางปาก นายทรัพย์ทวี กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: