X
ยังรับงาน

ไฟไหม้ละครรำโบราณแปดริ้ว โชคดีไม่ลุกลามไปทั่วทั้งซอยที่คับแคบ

ฉะเชิงเทรา – ไฟไหม้ละครรำโบราณ หน้าวัดโสธรแปดริ้วโชคดีไม่ลุกลามเผาไหม้ไปทั่วทั้งซอยที่คับแคบ พบความเสียหายภายในห้องครัวหนักต่อเนื่องด้วยห้องนอน ด้านเจ้าของเชื่อไฟฟ้าลัดวงจร ขณะเพื่อนบ้านระบุมีคนในบ้านลุกขึ้นมาปรุงอาหารคลายหิวยามดึก เผยเป็นต้นฉบับละครหน้าวัดที่สืบทอดต่อเนื่องกันมาถึงยุคที่ 3 ก่อนก้าวเข้าสู่ยุตที่ 4 ที่เริ่มโรยรา

วันที่ 19 ต.ค.66 เวลา 04.30 น. พ.ต.ท.ประเสริฐ เดชสุภา สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เดินทางเจ้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ กรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นภายในบ้านพักเจ้าของคณะละครรำ “ศิวพรศิลป์” หรือชื่อดั้งเดิม “คณะรวมไทยบันเทิง” ตั้งอยู่เลขที่ 170 ถนนเทพคุณากร ซ.6 ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา หลังจากได้รับแจ้งว่าเมื่อเวลาประมาณ 03.40 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นภายในห้องครัวของบ้านหลังดังกล่าว ที่ปลูกสร้างด้วยไม้กึ่งคอนกรีตลักษณะ 2 ชั้น

ในซอยแคบ

โดยระหว่างเกิดเหตุมีผู้พักอาศัยอยู่ภายในบ้านจำนวน 7 คน ได้ช่วยกันใช้น้ำดับไฟ แต่เพลิงได้ลุกลามขึ้นสูงไหม้เข้าไปยังภายตัวบ้านแล้ว ก่อนที่จะมีรถน้ำดับเพลิงจากเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา จำนวน 3 คัน เข้ามาทำการควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยพบว่าตัวบ้านได้รับความเสียหายไประมาณร้อยละ 20 โดยเฉพาะภายในห้องครัวนั้น ถูกเพลิงไหม้จนหลังคาสังกะสีเป็นรูโหว่ และมีห้องนอนเสียหาย 1 ห้อง ขณะที่ทรัพย์สินภายในบ้านถูกความร้อนของเปลวเพลิงจนหลอมละลาย ได้รับความเสียหายไปเป็นจำนวนมาก รวมถึงเอกสารต่างๆ ที่มีคุณค่าทางจิตใจเปียกน้ำละลายไปด้วยหลายรายการ

อยู่ในซอยแคบ

สอบถามนางอาภาภรณ์ พิมพ์สุวรรณ อายุ 64 ปี เพื่อนบ้านหลังติดกัน ซึ่งเป็นน้องสาวของเจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุได้ยินเสียงคนในบ้านที่ถูกเพลิงไหม้โดยเป็นบ้านของพี่ชาย ซึ่งพักอาศัยอยู่ด้วยกันรวม 8 คน มีเด็กวัย 9-10 ขวบ 2 คนร้องบอกกันว่า ไฟลุกๆ ไหม้ในห้องครัว ในขณะที่หลานชายวัยประมาณเกือบ 40 ปี กำลังตั้งกระทะอยู่บนเตาแก๊ส เพื่อเตรียมที่จะทอดไข่เจียว

โชคดีดับทัน

โดยระหว่างที่หลานชายกำลังหันหลังมาตีไข่ ได้เกิดเปลวไฟลุกท่วมกระทะขึ้นมา จึงได้ใช้ผ้าที่ยังไม่ได้ชุบน้ำโยนเข้าไปคุมที่กระทะ แต่ปรากฏว่าเปลวไฟที่กำลังลุกท่วมได้ลอยสูงขึ้นไปลุกติดไหม้กับไม้ที่บริเวณหลังคาห้องครัวและฝาผนัง จนเกิดการลุกลามขึ้น โดยที่คนในบ้านได้พยายามที่จะช่วยกันดับแล้วแต่ไม่ทัน จึงเกิดการลุกลามมาถึงยังภายในตัวบ้านจนได้รับความเสียหายมากขึ้น ก่อนที่รถน้ำดับเพลิงจะมาช่วยควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ และยังไม่ได้ลุกลามมาถึงยังที่บ้านของตน นางอาภาภรณ์ กล่าว

บ้านคณะละครเก่า

ขณะที่ นายอำนาจ พิมพ์สุวรรณ อายุ 70 ปี กล่าวว่า ตนเชื่อว่าสาเหตุของเพิงไหม้ในครั้งนี้ น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรขึ้นภายในครัว เนื่องจากสายไฟฟ้าภายในบ้านอยู่ในสภาพเก่าแก่มากแล้ว จึงอาจเกิดกระแสไฟฟ้ารั่วและช็อตกันจนลุกไหม้ขึ้นมาได้ แต่โชคดีที่คนในบ้านไม่มีใครเป็นอะไร นายอำนาจ ระบุ

ต้นเพลิงเกิดจากในครัว

เมื่อผู้สื่อข่าวถึงความเป็นมาของคณะละครรำแห่งนี้ว่ามีความเป็นมาอย่างไร นายอำนาจ เล่าว่าคณะละครรำ “รวมไทยบันเทิง” คณะนี้ เท่าที่ทราบถือเป็นคณะละครรำที่เก่าแก่ที่สุด ที่เคยมีการรำละครอยู่ภายในวัดโสธรวรารามวรวิหาร มาตั้งแต่ยุครุ่นผู้เป็นตาของตนที่เกิดใน พ.ศ.2444 โดยขณะนั้นมีอยู่ด้วยกันเพียง 4-5 คณะประกอบด้วยคณะรวมไทยบันเทิง คณะโสธรพิทักษ์ คณะ ร.รัตนศิลป์ คณะปราณีเพชรโสธร และคณะประจวบเจริญศิลป์ ที่เกิดขึ้นมาในภายหลังเป็นตณะสุดท้าย ที่ยังอยู่ที่หน้าวัดโสธรวรารามวรวิหารในปัจจุบัน

ไฟลุกท่วมกระทะทอดไข่

ส่วนคณะของตนนั้น หลังจากได้รับช่วงมาจากผู้เป็นมารดาที่ได้รับถ่ายทอดสืบมาจากผู้เป็นตา จนตนนั้นถือเป็นรุ่นที่ 3 แล้ว จึงได้เปลี่ยนชื่อคณะมาเป็น “คณะ” ตามชื่อภรรยา คือ นางศิวพร พิมพ์สุวรรณ อายุ 69 ปี ซึ่งขณะนี้ได้ไปบวชชี เพื่อปฏิบัติธรรมในช่วงเทศกาลกินเจเป็นเวลา 5 วัน อยู่ภายในวัดโสธรฯ จึงไม่ได้อยู่ที่บ้านขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้ นายอำนาจ กล่าว

หลังคาครัวเป็นรูโหว่

และกล่าวต่อว่า ในสมัยอดีตนั้นต้องยื่นขออนุญาตต่อทางผู้ว่าราชการจังหวัดว่าจะรำละครเรื่องอะไร เวลาไหนวันที่เท่าใดถึงวันที่เท่าใด พร้อมระบุชื่อผู้แสดง จำนวนผู้แสดงมีกี่คน เป็นรายครั้งไปภายในบริเวณวัดโสธรฯ ไม่เหมือนกับในสมัยนี้ โดยตนยังคงเก็บรักษาใส่กรอบใบอนุญาตเอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ดูจำนวน 2 ใบ ซึ่งใบขออนุญาตดังกล่าวออกให้โดยพระอินทราสา (ครอง อินทรวสุ 2468-2475) และอีกใบเมื่อเดือน พ.ค.2486 แต่ขณะนี้ถูกน้ำดับเพลิงเปียกละลายจนมองไม่เห็นตัวหนังสือแล้ว

บ้านไม้กึ่งคอนกรีต 2 ชั้น

จากเดิมที่ตัวอักษร ยังเขียนเป็นอักขระการสะกดคำที่ยังเป็นแบบดั้งเดิม ที่ยังไม่ได้มีการใส่เครื่องหมาย หรือใช้ไม้ไต่คู้ ไม่เหมือนกับตัวหนังสือที่สะกดกันในยุคปัจจุบัน นอกจากนี้รอยของการเขียนหมึกที่ใช้เขียน ก็ยังจืดจางลงไปตามกาลเวลามากแล้วด้วย จนแทบมองไม่เห็น นายอำนาจ กล่าว

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สนทะนาพร อินจันทร์

สนทะนาพร อินจันทร์

ลุยงานช่วยเหลือคนเดือดร้อนมาทั้งชีวิต อย่างไม่คิดเรียกสิ่งตอบแทน