X
บ้านที่เกิดเหตุ

ตำรวจเก็บหลักฐานส่งตรวจพิสูจน์ คลายคดีมอมยาชิงทรัพย์สองตายายแปดริ้ว

ฉะเชิงเทรา – ตำรวจเก็บหลักฐาน ขวดเครื่องดื่มชูกำลังส่งตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ เร่งคลายคดีมอมยาชิงทรัพย์สองตายายแปดริ้ว หลังมีการเรียกประชุมด่วนเคร่งเครียดจนถึงกลางดึกเมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะฝ่ายสืบสวนเร่งแกะรอยข้ามวันคืนยังไร้เงาคนร้าย ด้านผู้การแจงผู้เสียหายเพิ่งเข้าแจ้งความหลังจากเกิดเหตุนาน 2 วันแล้วทั้งยังถือเป็นคดีแรกที่ใช้วิธีมอมยาในพื้นที่ ส่วน จนท.ผู้เกี่ยวข้องชั้นผู้น้อยถูกสั่งรูดซิบห้ามจ้อสื่อ

วันที่ 6 พ.ย.66 เวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปติดตามถึงความคืบหน้าในคดี กรณีสองตายายวัย 80 ปี และ 78 ปี ในหมู่บ้านน้อยนาดี ม.11 ต.ท่าตะเกียบ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ถูกคนร้ายเป็นชายลักษณะคล้ายเป็นพ่อลูกกันเข้ามาก่อเหตุมอมยา จนทั้งสองคนนอนสลบข้ามวัน ก่อนชิงเอาทรัพย์สินไปเป็นกระเป๋าใส่เงินสดจำนวน 6 พันบาท พร้อมเอกสารสำคัญในกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟนยี่ห้อ OPPO จำนวน 1 เครื่องหลบหนีไป

อยู่กันลำพัง 2 ตายาย

โดยที่ผู้เสียหายทั้งสองคนถูกช่วยเหลือนำส่งไปยัง รพ.ในเวลาต่อมา โดยที่ฝ่ายตาวัย 80 ปีนั้นยังคงมีอาการสาหัสตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ได้ถูกสั่งไม่ให้เปิดเผยถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ต่อสื่อมวลชน โดยทราบจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทาง จนท.ได้มีการเก็บขวดเครื่องดื่มชูกำลัง ที่พบตกหล่นอยู่ใกล้กับแคร่ไม้บริเวณใต้ถุนบ้าน ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ

ห้ามให้ข่าวสื่อ

นำส่งไปพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อหาชนิดของสารที่ถูกนำมาวางมอมสองตายายและหาดีเอ็นเอของคนร้ายแล้ว แต่ไม่พบเป็กแก้วเหล้าซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะนำติดตัวกลับไปด้วย นอกจากนี้ยังทราบจากแหล่งข่าวอีกว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา (5 พ.ย.66) พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก. ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ได้เรียกประชุมนายตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้อย่างเร่งด่วน เพื่อหาทางในการเร่งคลี่คลายคดีจนถึงช่วงกลางดึกของเมื่อคืนที่ผ่านมา ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ฉะเชิงเทรา

ขณะที่ทางฝ่ายสืบสวน สภ.ท่าตะเกียบ นั้นได้มีการลงพื้นที่เร่งแกะรอยหาตัวคนร้ายตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน นอกจากนี้ยังทราบว่าคนร้ายได้มีการนำบัตรประชารัฐของฝ่ายยายวัย 78 ปี ไปใช้ในพื้นที่ อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ด้วย ต่อมาในเวลา 16.10 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมายังที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อติดตามสอบถามถึงความคืบหน้าทางคดีจาก พล.ต.ต.นเรวิช แต่ทราบว่าได้ลงพื้นที่ไปยัง สภ.บางขนาก

ประชุมด่วนเมื่อคืนนี้

จากนั้นในเวลา 18.30 น. จึงได้รับการเปิดเผยจาก พล.ต.ต.นเรวิช ว่ากรณีนี้ทางผู้เป็นบุตรชายได้พามารดาเดินทางมาเข้าแจ้งความร้องทุกข์ หลังจากเกิดเหตุแล้วประมาณ 2 วัน เนื่องจากยังคงไปรักษาพยาบาลอยู่ หลังจากทราบเหตุแล้วทางผู้บัญชาการฯ ได้มีความเป็นห่วงมากและได้มีการกำชับมา จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานอีกครั้ง เพื่อพิสูจน์ทราบในเรื่องของคนร้ายที่มาก่อเหตุ โดยขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว

พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท

สำหรับพยานหลักฐานที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุตามคำให้การของยายวัย 78 ปีนั้น มีการระบุถึงยาที่คนร้ายผสมให้แก่ผู้เป็นตาวัย 80 ปีดื่มนั้น ได้เก็บไปพิสูจน์ว่าเป็นสารพิษประเภทไหนอย่างไร โดยขณะนี้ได้ส่งไปตรวจที่พิสูจน์หลักฐานแล้วยังต้องรอผล ขณะที่ทางแพทย์นั้นยังไม่สามารถยืนยันได้ในเบื้องต้นว่า อาการที่ป่วยของผู้เป็นตาวัย 80 ปีนั้น เกิดจากสารพิษประเภทใดเช่นกัน

ส่วนการไล่เก็บหาภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางนั้น ขณะนี้สามารถเก็บหลักฐานมาได้พอสมควร สามารถเก็บภาพผู้ต้องสงสัยที่ยังอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบว่าใช่คนร้ายหรือไม่อย่างไร ส่วนการนำบัตรประชารัฐของผู้เสียหายไปใช้นั้น ในระหว่างเกิดเหตุคนร้ายได้นำบัตรที่อยู่ในกระเป๋าเงิน ซึ่งเป็นทรัพย์สินของคุณยายที่ถูกประทุษร้ายไปด้วย และมีการนำไปใช้ โดยขณะนี้กำลังตรวจสอบอยู่ว่าเกี่ยวข้องหรือมีการนำไปใช้ประเภทไหนอย่างไร ซึ่งมีความคืบหน้าในทางการสืบสวนอยู่มากพอสมควร

แคร่ใต้ถุนบ้าน

ส่วนของฝ่ายตาวัย 80 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายของยายนั้นไม่มีบัตรประชารัฐ โดยแนวทางการสืบสวนนั้นถือว่ามีความคืบหน้า หากทราบว่าคนร้ายเป็นใครอย่างไรแล้ว จึงจะสามารถดำเนินการขอหมายจับกุมตัวจากพยานหลักฐานที่ได้รวบรวมไว้ ส่วนลักษณะแนวทางในการตั้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีหากจับกุมตัวคนร้ายมาได้นั้น ต้องขอรวบรวมหลักฐานทั้งหมดก่อน โดยเบื้องต้นคุณยายได้มีการระบุว่ามีการใช้ยา จึงยังรอดูหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ก่อน ว่าเป็นยาตามที่มีการให้การไว้หรือไม่ เป็นยาประเภทไหนและจะก่อให้เกิดความเสียหายหรือทำร้ายร่างกายในส่วนไหนเป็นอันตรายแก่ชีวิตหรือไม่ จึงจะมีการพิจารณาไปตามความเกี่ยวข้อง

จุดยายล้มหน้าห้องน้ำ

สำหรับอาการของฝ่ายคุณตาวัย 80 ปีนั้น เนื่องจากเป็นผู้ที่มีพฤติกรรมในการดื่มอยู่แล้ว และอายุมากด้วย จึงอาจจะได้รับผลค่อนข้างรุนแรงจึงยังต้องดูอาการต่อไป โดยรับแจ้งจากทางแพทย์ว่ายังคงมีอาการหนักอยู่พอสมควร ส่วนฝ่ายของยานวัย 78 ปีนั้นถือว่าปลอดภัยดีแล้ว และมีการมาให้การเพิ่มเติมในรายละเอียดซึ่งเป็นหลักฐานที่สำคัญในการสืบสวนที่จะนำไปสู่คนร้ายได้เพิ่มเติม ส่วนบัตรประชารัฐถูกนำไปใช้ในพื้นที่ใดบ้างนั้น ขอเป็นข้อมูลในการสืบสวนและเร่งรัดในส่วนนี้

หลังจากมีเหตุเกิดขึ้นและได้มีการประชุมพูดคุยกันแล้วนั้น ยังไม่เคยเกิดเหตุการณ์คนร้ายเข้ามามอมยาผู้สูงอายุเพื่อชิงทรัพย์ไปในลักษณะนี้ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา มาก่อน โดยเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นนั้นส่วนใหญ่จะเป็นไปในลักษณะของการลวงให้ไปกดเงินออกจากตู้เอทีเอ็ม แต่เหตุการณ์ในลักษณะนี้ยังไม่เคยปรากฎ หรือหากเคยเกิดขึ้นแล้วแต่ผู้เสียหายไม่ได้เดินทางเข้ามาแจ้งความต่อทาง จนท.ตำรวจ ก็จะไม่ทราบ ตามที่ได้รับแจ้ง จึงถือเป็นคดีแรกที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา พล.ต.ต.นเรวิช กล่าว

บ้านสองตายายถูกมอมยา

ด้านนายบัญชา หนองนา อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 139 ม.11 ต.ท่าตะเกียบ บุตรชายของยายวัย 78 ปี กล่าวว่า ตนเองเดินทางไปทำงานเป็น รปภ.อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งใน อ.แปลงยาว ห่างจากบ้านไกลถึงเกือบ 50 กม. จึงไม่ได้กลับบ้านทุกวัน บางครั้ง 2 วันกลับมา 1 ครั้ง ในวันเกิดเหตุไม่ได้อยู่บ้าน พอออกกะกลับมาในช่วงเช้า 08.10 น. ของวันที่ 31 ต.ค.66 จึงมาพบว่าผู้เป็นลุงและมารดานอนสลบหมดเรี่ยวแรงอยู่ในบ้าน ส่วนรายละเอียดของคนร้ายนั้นไม่ทราบ เพราะไม่ได้อยู่ในระหว่างเกิดเหตุ

ไปทำงานไกล

สำหรับอาการของลุงนั้น ขณะนี้เริ่มรู้สึกตัวแล้วถามตอบพอรู้เรื่อง แต่ยังคงพูดไม่ได้ นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 8 ของ รพ.พุทธโสธร ในตัวเมืองฉะเชิงเทรา ส่วนมารดาอาการเป็นปกติดีแล้ว และได้มาให้การกับทาง จนท.ตำรวจ ไว้แล้ว ก่อนที่พี่สาวจะพาไปให้แพทย์ตรวจดูอาการอีกครั้งยังที่ จ.ชลบุรี และยังคงพักอาศัยอยู่กับพี่สาวในพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นายบัญชา ระบุ

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สนทะนาพร อินจันทร์

สนทะนาพร อินจันทร์

ลุยงานช่วยเหลือคนเดือดร้อนมาทั้งชีวิต อย่างไม่คิดเรียกสิ่งตอบแทน