ฉะเชิงเทรา – โป๊ะปริศนาบรรทุกเศษวัตสดุก่อสร้างน้ำหนักหลายร้อยตันลอยป่วนลำน้ำบางปะกง ขณะเรือชาวบ้านเห็นแจ้งเจ้าท่า ก่อนพยายามไล่กวดช่วยผลักเบี่ยงออกไปให้ห่างไกลจากชุมชนริมน้ำ หวั่นลอยกวาดกระทบตลาดเก่าแก่พังราบ โชคดีที่สามารถควบคุมทิศทางไว้ได้ในที่สุด ก่อนที่ทางบริษัทผู้รับเหมารายใหญ่ระดับเมกะโปรเจ็กต์ ผู้ดำเนินการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำและเป็นเจ้าของจะมาลากจูงนำกลับไป
วันที่ 15 พ.ย.66 เวลา 08.10 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณภายในลำน้ำบางปะกง ช่วงไหลผ่านพื้นที่เขตตัวเมือง จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีโป๊ะบรรทุกเศษวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ น้ำหนักหลายร้อยตันลอยล่องมาในลำน้ำตามกระแสของน้ำที่ไหลขึ้นอย่างไร้ทิศทาง ผ่านเข้ามายังบริเวณท่าน้ำสวนมรุพงษ์ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา จนทำให้ชาวบ้านผู้พบเห็นและผู้มีบ้านเรือนพักอาศัยอยู่ริมชายน้ำ หวั่นเกรงว่าจะได้รับอันตรายหากโป๊ะดังกล่าวลอยเข้ามาพุ่งชน หรือกระทบเข้ากับตัวอาคารบ้านเรือนที่ปลูกสร้างอยู่บริเวณริมตลิ่ง โดยเฉพาะตลาดชายน้ำ (ตลาดทรัพย์สินเก่า)
จากนั้นได้มีเรือของร้านอาหารชื่อดัง (เอกเขนก) ซึ่งตั้งอยู่ริมชายน้ำด้านฝั่งตรงข้าม ได้พยายามที่จะนำเรือเข้าไปประกบเพื่อควบคุมทิศทางการไหลของโป๊ะ แต่เนื่องจากโป๊ะมีน้ำหนักมากจึงไม่สามารถที่จะบังคับโป๊ะให้เคลื่อนไปในทิศทางที่ต้องการได้โดยสะดวก ก่อนที่จะแจ้งไปยังเรือตรวจการณ์ของสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 ซึ่งอยู่ในพื้นที่ให้ทราบ เพื่อติดตามหาเจ้าของและแจ้งเหตุให้ทราบ
โดยที่เรือของร้านอาหารเอกชนได้พยายามประคองให้โป๊ะปริศนาลอยไปยังคุ้งน้ำด้านในฝั่งตรงข้ามกับตลาดและชุมชนชายน้ำเมืองแปดริ้ว เพื่อลดการสูญเสียหากมีการพุ่งชน นอกจากนี้บริเวณคุ้งน้ำด้านในยังมีกระแสน้ำที่ไหลแรงน้อยกว่าคุ้งน้ำด้านนอก ต่อมาในเวลา 08.30 น. จึงได้มีเรือยนต์ลากจูงจากไซด์งานก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง ในเส้นทางถนนสาย 365 (เลี่ยงเมืองฉะเชิงเทา) ซึ่งมีบริษัทเอกชนรายใหญ่ผู้รับเหมางานในโครงการของรัฐบาลระดับเมกะโปรเจ็กต์หลายโครงการ
ได้เดินทางเข้ามาลากจูงโป๊ะปริศนาดังกล่าวกลับไปได้อย่างปลอดภัย ซึ่งระหว่างที่โป๊ะเคลื่อนผ่านลำน้ำเข้ามาที่บริเวณใต้สะพานเฉลิมพระเกียรติฯ กลางตัวเมืองฉะเชิงเทราอย่างไร้ทิศทาง เมื่อช่วงขาขึ้นที่ไหลมาตามกระแสน้ำนั้นได้ทำให้หลายฝ่ายต่างหวั่นเกรงว่าโป๊ะจะพุ่งชนเข้ากับตอม่อสะพานจนได้รับความเสียหาย และอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่จนต้องปิดการใช้สะพาน และจะทำให้เกิดปัญหาด้านการจราจรตามมาอย่างมากมาย แต่โชคดีที่ไม่มีการไหลเข้าไปพุ่งชนจนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันนั้นขึ้น
โดยนายบุญสม อื้อเจริญรักษ์ อายุ 59 ปี ชาวบ้านหมู่ 6 ต.บางไผ่ ซึ่งมีบ้านเรือนอยู่ริมน้ำด้านฝั่งตรงข้ามกับตลาดบ้านใหม่ 100 ปี กล่าวว่า หากโป๊ะขนาดใหญ่ดังกล่าวพุ่งเข้ามาชนบ้านเรือนของชาวบ้านริมน้ำโดยเฉพาะตลาดชายน้ำนั้น จะทำให้บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างชายน้ำในบริเวณดังกล่าวพังราบไปหมดอย่างแน่นอน เนื่องจากโป๊ะมีน้ำหนักมาก หากมีการพุ่งชนหรือลอยเข้ามาเบียดจะทำให้โครงสร้างบ้านเรือนของชาวบ้านแตกหักเสียหายไปทั้งหมด นายบุญสม กล่าว
ด้านเจ้าหน้าที่ประจำเรือตรวจการณ์ของสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 ซึ่งจอดอยู่บริเวณชายน้ำริมตลิ่งสวนมรุพงษ์ กล่าวว่า หลังจากนี้จะได้เข้าไปพูดคุยตักเตือนต่อทางผู้รับเหมาก่อสร้างงานรายดังกล่าว ให้ดูแลระมัดระวังทรัพย์สินของตนเองให้ดี อย่าให้หลุดลอยออกมาจนเป็นที่น่าหวั่นเกรงอันตรายจากชาวบ้านอย่างเช่นวันนี้อีก ซึ่งหากมีผู้ได้รับผลกระทบหรือสร้างความเสียหายต่อผู้อื่น จะมีการเปรียบเทียบปรับในข้อหากระทำการโดยประมาท เจ้าหน้าที่ประจำเรือตรวจการณ์ ซึ่งไม่ขอระบุนามเผย
