X
เครื่องจักรมรณะ

สยองกลางป่า เครื่องบดอัดเศษตะกั่วขยี้หนุ่มเมียนมาดับคาโรงงาน

ฉะเชิงเทรา – สยองกลางป่า เครื่องบดอัดเศษตะกั่วอลูมิเนียมในโรงงานรีไซเคิล ขยี้หนุ่มเมียนมาดับคาโรงงาน ตั้งอยู่กลางทุ่งสลับผืนป่าเขาในพื้นที่ห่างไกลผู้คน ขณะ จนท. พร้อมหน่วยกู้ภัยเดินทางเข้าไปอย่างทุลักทุเลตามเส้นทางลูกรังกว่าจะถึงจุดเกิดเหตุ ก่อนใช้เวลากว่า 3 ชม.ในการเข้าตรวจสอบและเคลื่อนย้ายนำศพออกมาได้

เครื่องบดมรณะ

วันที่ 9 ม.ค.67 เวลา 18.00 น. ร.ต.อ.ฤชายุส คงอุตส่าห์ รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุเครื่องจักรกลในโรงงานรีไซเคิลโลหะแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.3 ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา หนีบบดอัดคนงานจนเสียชีวิต จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมฝ่ายสืบสวนและหน่วยกู้ภัยพนมสารคามเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานที่ตั้งอยู่กลางป่าสลับกับท้องทุ่งนาและมีทิวเขาลูกฟูกขนาดเล็กล้อมรอบตามรายทาง โดยต้องเดินทางผ่านถนนลูกรังอ้อมไปยังด้านหลังกลุ่มโรงงานแหลมเขา (304 อินดัสเตรียลปาร์ค 2) จากเส้นทางถนนสาย 331 (กบินทร์บุรี-สัตหีบ) พบภายในมีผู้เสียชีวิตเป็นชายหนุ่มวัยประมาณ 20 ปี ชาวเมียนมาติดคาอยู่กับเครื่องจักรบดอัดรีดโลหะ ลักษณะมีแกนม้วนเป็นเพลาขนาดใหญ่ 2 แกนในการม้วนโลหะให้แบนเรียบ

หนุ่มเมียนมาถูกขยี้ดับ

พบบาดแผลเปิดขนาดใหญ่ที่หน้าผากกว้างประมาณ 10 ซม. แขนซ้ายท่อนบนหักช่วงทรวงอกถูกบีบอัดจนยุบตัว เสียชีวิตคาที่ติดอยู่กับตัวเครื่อง ซึ่งมีลักษณะยกแท่นเครื่องสูงจากพื้นประมาณ 120 ซม. ขนาดฐานกว้างประมาณ 3 เมตรยาวลึกเข้าไปยังด้านในตัวโรงงานคล้ายกับเครื่องรีดเหล็ก โดย จนท.ใช้เวลาเดินทางและเข้าไปชันสูตรพลิกศพประมาณ 3 ชม. ก่อนที่จะเดินทางกลับและเคลื่อนย้ายศพออกมาในเวลาประมาณ 21.00 น.

โดย ร.ต.อ.ฤชายุส ได้ให้ทางอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยฯ นำศพเข้าไปแช่เย็นไว้ยังภายในห้องเย็นของสุสานสว่างไพศาลธรรมสถานในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อรอการสอบสวนหารายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าขณะเกิดเหตุมีคนงานอยู่ร่วมด้วยกันกี่คน มีใครมาพบเห็นเป็นคนแรก เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไปอีกครั้ง

สลดกลางป่า

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สนทะนาพร อินจันทร์

สนทะนาพร อินจันทร์

ลุยงานช่วยเหลือคนเดือดร้อนมาทั้งชีวิต อย่างไม่คิดเรียกสิ่งตอบแทน