X
เก็บหลักฐานทางวิทยาศาตร์

พื้นที่อันตราย หนุ่มหาของป่าพบหัวกระสุนปืน ค.หยิบดูระเบิดฉีกร่างเละ

ฉะเชิงเทรา – พื้นที่อันตราย หนุ่มหาของป่าพบหัวกระสุนปืน ค.60 หยิบขึ้นมาดูระเบิดตูมฉีกร่างเละ ขณะลูกชายวัย 10 ขวบโชคดีอยู่ห่างเห็นเหตุการณ์ตกใจวิ่งกระเจิงลงจากเขามาร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านคนเดินทางผ่าน ก่อน จนท.หลายหน่วยระดมกำลังออกเดินเท้าค้นหาในพื้นที่เสี่ยงนานเกือบครึ่งวันจนพบ

วันที่ 14 ม.ค.67 เวลา 11.30 น. ร.ต.อ.อรรถพันธ์ คชสีห์ รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดขึ้นบนเขาน้ำหยดทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุเป็นคนหาเก็บของป่า 1 ราย ที่ด้านหลังนิคมอุตสาหกรรมเกตุเวย์ซิตี้ พื้นที่ ม.7 ต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น ก่อนเดินทางไปสอบสวนยังในทีเกิดเหตุ

จุดเกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่เสี่ยงอันตราย เนื่องจากเคยถูกใช้เป็นสนามฝึกทางยุทธวิธีและเป็นสนามยิงเครื่องยิงอาวุธหนักของหน่วยงาน ตชด. และหน่วยทหารในพื้นที่ ลักษณะเป็นเชิงเขาลาดเอียงลดหลั่นระดับไม่สูงมากนักลงมายังพื้นด้านล่างจนถึงแนวถนน สายหัวสำโรง-บ้านหนองสทิต แต่ยังไม่สามารถเข้าไปยังในเขตพื้นที่ดังกล่าวได้ เนื่องจากเป็นพื้นที่อันตราย จึงได้ประสาน จนท.จากหลายหน่วยงาน ที่มีความชำนาญในพื้นที่ให้เดินทางเข้ามาช่วยกันค้นหาที่เกิดเหตุและศพของผู้เสียชีวิต

พื้นที่เสี่ยง

โดยในขณะเกิดเหตุนั้นมีเพียง นายวุฒิพงษ์ สนกิ่ง อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52/3 ม.4 ต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ผู้เสียชีวิต และ ด.ช.จักพงษ์ สนกิ่ง อายุ 9 ปี 9 เดือน บุตรชายที่เดินทางมาหาของป่าด้วยกันเพียง 2 คนเท่านั้น และหลังจากเกิดเหตุ ด.ช.จักพงษ์ ได้เกิดความตกใจวิ่งหลบหนีลงมาจากเขาเพื่อขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่กำลังใช้เส้นทางผ่านให้โทรศัพท์แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบจนตามท่อนแขน-ขา มีรอบขีดข่วนจำนวนมาก จึงไม่มีใครทราบถึงจุดเกิดเหตุที่แน่ชัด

หลายหน่วยงานร่วมค้นหา

ต่อมาได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) จาก กก.2 บก. กฝ. บช.ค่ายพระยาสุรสีห์ อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยพนมสารคาม และกำลัง จนท.จาก สภ.แปลงยาว เดินทางเข้ามายังในพื้นที่ และแบ่งกำลังกันเดินเท้าเข้าไปยังในพื้นที่ เพื่อทำการค้นหาร่างผู้เสียชีวิตและจุดเกิดเหตุ จนพบว่าผู้เสียชีวิตอยู่ภายในร่องน้ำธรรมชาติระหว่างแนวเชื่อมรอยต่อของหุบเขา ที่ลักลั่นกันห่างจากแนวถนนประมาณ 400 เมตร ในสภาพถูกแรงระเบิดที่สะโพกขวาด้านหลัง ทำให้ชิ้นเนื้อหายไปเป็นหลุมลึกขนาดกว้างประมาณ 20 ซม.

ต้องเดินเท้า

หน้าอกขวามีรูโหว่ขนาดใหญ่ประมาณ 10 ซม. ท่อนขาขวาถูกแรงระเบิดจนแหลกละเอียดจากกลางต้นขายาวไปตลอดแนวจนถึงปลายเท้าสภาพขาดวิ่น ลำไส้ทะลักออกมาจากหน้าท้องด้านขวา ใต้น่องขาซ้ายมีแผลเปิดขนาดใหญ่ประมาณ 10 ซม. ตามลำตัวมีรอยไหม้ของดินระเบิดจนมีบางแห่งพุพองจนผิวหนังเปิดออก สภาพแขนขวาหงิกงอชูขึ้นระดับใบหน้า แขนซ้ายงอระดับลำตัว โดยมีเสื้อกีฬาสีชมพูแถบฟ้าและกางเกงยีนส์สีดำสภาพขาดวิ่นยังคงสวมติดร่างกายอยู่

เข้าพื้นที่อันตราย

เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.ฉะเชิงเทรา จึงได้ให้อาสาหน่วยกู้ภัย ทำการเคลื่อนย้ายศพเพื่อนำมาตรวจหาเก็บรายละเอียดทางนิติวิทยาศาสตร์ ยังในบริเวณพื้นที่ ที่สามารถปฏิบัติงานได้โดยสะดวกที่กลางสวนป่ายูคาลิปตัสห่างจากจุดพบศพประมาณ 200 เมตร ก่อนที่จะทำการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานจนเสร็จสิ้นในเวลา 16.00 น. จากนั้นได้ทำการเคลื่อนย้ายศพไปยังที่ รพ.แปลงยาว เพื่อให้แพทย์ชันสูตรอีกครั้ง ก่อนที่จะมอบให้แก่ทางญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลต่อไป

อยู่ในร่องน้ำ

สอบถาม ร.ต.ต.ชัยวัฒน์ เชิดสระน้อย หัวหน้าชุด EOD จากค่ายพระยาสุรสีห์ ตชด.แปลงยาว ซึ่งนำกำลังมาตรวจสอบในที่เกิดเหตุจำนวน 3 นาย เปิดเผยว่า ระเบิดที่ผู้เสียชีวิตเก็บมานั้น น่าจะเป็นระเบิดจากเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 60 มม. (ค.60) เนื่องจากยังพบลูกระเบิดขนิดเดียวกันอีก 1 ลูกที่ยังไม่ระเบิดใกล้บริเวณจุดเกิดเหตุ แต่ยังต้องตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้งว่าระเบิดที่เกิดการระเบิดขึ้นนั้นเป็นขนิดเดียวกันกับที่ตกอยู่หรือไม่ โดยในพื้นที่แห่งนี้ไม่ได้ถูกใช้งานฝึกมานานกว่า 2 ปีแล้ว ร.ต.ต.ชัยวัฒน์ กล่าว

ถูกฉีกร่างแหลก

ส่วนด้าน นายภิรมย์ วุฒิโกมด อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/454 ต.ลาดขวาง อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา น้องชายต่างบิดาของนายวุฒิพงษ์ กล่าวว่า หลังตนทราบเหตุ จึงได้รีบเดินทางมาพร้อมกับมีพี่ชายคนกลางอีก 1 คนที่เดินทางมาในที่เกิดเหตุด้วยเช่นเดียวกัน โดยตนมีพี่น้องรวม 3 คน ผู้เสียชีวิตเป็นพี่ชายคนโต ส่วนตนเป็นน้องชายคนเล็ก เดิมมีภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา

เคลื่อนย้ายออกมาชันสูตร

โดยพี่ชายได้มามีภรรยาอยู่ที่ ต.หัวสำโรง แห่งนี้ ขณะเกิดเหตุเขาเข้าไปหาหน่อไม้กับหลาน ซึ่งเป็นบุตรชายของเขาตั้งแต่เมื่อช่วงเช้า ระหว่างขากลับเดินลงมาจากเขาจึงได้แวะนั่งพักที่บริเวณใกล้ลำธารธรรมชาติ ซึ่งคาดว่าเขาอาจจะเก็บเอาหัวลูกระเบิดที่ยังไม่ระเบิดลงมาจากเขาด้วย เมื่อนั่งพักจึงหยิบขึ้นมาดูจนเกิดการระเบิดขึ้น หลังเจ้าหน้าที่ทำการชันสูตรตามขั้นตอนแล้ว จะนำศพไปตั้งสวดพระอภิธรรมยังที่วัดนพเกตุ ใน ต.หัวสำโรง ต่อไป นายภิรมย์ กล่าว

ใช้เวลากว่าครึ่งวัน

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สนทะนาพร อินจันทร์

สนทะนาพร อินจันทร์

ลุยงานช่วยเหลือคนเดือดร้อนมาทั้งชีวิต อย่างไม่คิดเรียกสิ่งตอบแทน