ฉะเชิงเทรา – ของตกพื้นถนนบนสะพานข้ามคลอง จยย.จอดเก็บ ทำผู้ใช้เส้นทางตรงขับมาในถนนสายหลัก 304 ฉะเชิงเทรา -กบินทร์บุรี มองไม่เห็นจากมุมอับของเนินสะพานโค้งนูนสูงในยามค่ำคืนชนกระเด็นเกือบ 40 เมตรดับคาที่ ก่อนเกิดการพุ่งชนซ้ำซ้อนต่อเนื่องกลายเป็นเหตุวินาศสันตะโรถึง 4 คันพังยับเยินบาดเจ็บรวม 4 ราย
วันที่ 18 ก.พ.67 เวลา 21.30 น. พ.ต.ต.อลงกรณ์ ผาภา สารวัตรเวรสอบสวน สภ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุมีรถยนต์พุ่งชนกันจำนวนมากรวม 4 คัน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย เสียชีวิต 1 ราย ที่บริเวณหลัก กม.ที่ 84+500 บนสะพานข้ามคลองวังซุงถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา – กบินทร์บุรี ด้านฝั่งขาเข้า พื้นที่ ม.5 ต.เสม็ดเหนือ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่น คัมรี่ไฮบริดสีดำ หมายเลขทะเบียน 1ขฬ-8975 กทม. จอดในลักษณะคร่อมเลนเฉียงระหว่างเลนด้านในขวาสุดของถนนมายังในเลนที่ 2 จากทั้งหมด 3 ช่องจราจรบนสะพานข้ามคลอง สภาพกระจกด้านหน้ามีร่องรอยการพุ่งชนจนแตกยุบตัวเป็นหลุมวงกลมขนาดใหญ่เกือบเต็มบาน ฝากระโปรงหน้ามีรอยบุบยุบเป็นทางขึ้นไปยังหน้ากระจก ที่ด้านท้ายรถมีร่องรอยของการพุ่งชนด้วยเช่นเดียวกัน
โดยมีรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิแบบ 4 ประตู รุ่นไทรทันคันสีขาว หมายเลขทะเบียน กน-2786 สุรินทร์ จอดปิดท้ายลักษณะพุ่งชนติดอยู่กับขอบสะพานด้านในขวางลำคร่อมระหว่างช่องทางขวาสุดกับไหล่ทาง และมีรถยนต์กระบะยี่ห้อเชฟโรเลตแบบแด็บสีดำ ทะเบียน บล-3686 กาฬสินธุ์ ถูกพุ่งชนอยู่ในลักษณะอัดก็อปปี้ตรงกลางระหว่าง ตัวรถเก๋งคันแรกด้านฝั่งประตูหน้าซ้าย กับรถยนต์กระบะแบบแค็บยี่ห้อโตโยต้ารุ่นวีโก้สีดำมีหลังคาไฟเบอร์ด้านหลัง หมายเลขทะเบียน บว-9403 สกลนคร ที่ขับเข้ามาพุ่งชนที่ด้านท้ายจนตัวถังรถคันกลางโก่งเสียรูปทรง
ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 ราย ซึ่งเป็นคนขับรถยนต์เชฟโรเลต ที่มาด้วยกัน 2 คนสามีภรรยา และคนขับรถยนต์คันท้ายสุดเป็นชาย 1 ราย ได้รับการช่วยเหลือจากรถกู้ชีพฉุกเฉิน รพ.บางคล้า และหน่วยกู้ภัยฯ ในพื้นที่นำส่งไปยัง รพ.บางคล้า โดยทั้ง 3 รายส่วนใหญ่มีอาการจุกแน่นที่หน้าอก และมีบาดแผลที่ใบหน้า 1 ราย นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิตเป็นหญิงสาวชาวเมียนมา 1 ราย ถูกรถยนต์เก๋งพุ่งชนจนเสียชีวิตคาที่ ร่างกระเด็นไปตกยังที่ขอบทางด้านในสุดของถนน ห่างจากตัวรถยนต์เก๋งประมาณ 4 เมตร
ทราบชื่อต่อมา คือ MRS.EI KHAING ZIN อายุประมาณ 30 ปี โดยมีสามีซึ่งเป็นผู้ขับรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีแดงดำ หมายเลขทะเบียน 1กล-1567 ฉะเชิงเทรา มาด้วยกันจอดรถนั่งเป็นลม สภาพแขนขาอ่อนแรงอยู่เคียงข้าง ก่อนถูกช่วยเหลือนำส่งไปยัง รพ.บางคล้า อีก 1 ราย บริเวณที่เกิดเหตุพบร่องรอยของการพุ่งเฉี่ยวชนกันจนมีเศษชิ้นส่วนกรอบแผ่นป้ายทะเบียนของรถยนต์เก๋ง และรองเท้าสตรีของผู้เสียชีวิต รวมถึงหมวกกันน็อกกระจัดกระจายอยู่ก่อนถึงจุดพุ่งชนซ้ำซ้อนกันประมาณเกือบ 40 เมตร
สอบถาม นายพรชัย สายเพชร อายุ 49 ปี ชาว ต.หนองเต่า อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี คนขับรถยนต์เก๋งเล่าว่า ขณะเกิดเหตุกำลังขับรถเดินทางมาจากในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี เพื่อมุ่งหน้าเข้า กทม. มาตามเส้นทางตรง ได้เห็นคนวิ่งข้ามถนนจากขอบสะพานด้านซ้ายตัดหน้าเข้ามายังบริเวณกลางถนนในระยะกระชั้นชิด จึงเบรกหยุดรถไม่ทัน ทำให้เกิดการพุ่งชนจนคนวิ่งข้ามถนนเสียชีวิตดังกล่าว ก่อนที่จะมีรถที่ขับตามหลังมาพุ่งชนกันซ้ำซ้อนอีกหลายคันที่ด้านท้าย โดยรถยนต์ของตนมีกล้องกน้ารถด้วย นายพรชัย กล่าว
ขณะที่ นายธีรพงศ์ ศรีขาว อายุ 32 ปี ชาว อ.สังขะ จ.สุรินทร์ กล่าวว่า ตนเดินทางกลับภูมิลำเนาบ้านเกิดในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และกำลังเดินทางกลับมาทำงานโรงงานในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อมาถึงยังที่เกิดเหตุได้เห็นรถยนต์เก๋งคันสีดำหยุดรถอยู่ที่กลางถนน แต่เป็นช่วงทางลงจากเนินจากตัวสะพาน จึงทำให้มองเห็นในระยะกระชั้นชิด และเบรกหยุดรถไม่ทันก่อนที่จะเกิดการพุ่งเฉี่ยวไปที่ด้านท้ายของรถยนต์เก๋ง จากนั้นจึงมีรถที่ขับตามหลังมาพุ่งชนกันซ้ำซ้อนดังกล่าวอีก โดยตนกำลังจะกลับเข้าไปยังในเขตตัวเมือง จ.ฉะเชิงเทรา โดยใกล้จะถึงอยู่แล้วอแต่มาเกิดอุบัติเหตุขึ้นเสียก่อน นายธีรพงศ์ กล่าว
ด้าน พ.ต.ต.อลงกรณ์ กล่าวว่า จากการสอบสวนพยานที่พบเห็นเหตุการณ์เบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิตได้เดินทางมากับสามีด้ายรถ จยย.โดยสามีเป็นคนขับ เมื่อมาถึงยังในจุดเกิดเหตุ ได้พบของตกหล่นอยู่บนพื้นถนน ซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นของผู้ตายที่ทำตกเองหรือเป็นการพบเห็นสิ่งของตกอยู่ที่พื้น จึงได้วนขับรถไปจอดแอบอยู่ที่ริมขอบสะพานด้านซ้ายสุด จากนั้นผู้ตายได้ลงจากท้ายรถวิ่งเข้ามายังที่บริเวณกลางถนนเพื่อเก็บสิ่งของ จึงเกิดการพุ่งชนกันขึ้นจำนวนหลายคัน พ.ต.ต.อลงกรณ์ กล่าว
