ฉะเชิงเทรา – ไฟฟ้าถูกตัด แม่เฒ่าทนร้อนไม่ไหว ออกมาปูเสื่อหาที่นอนรับลมเย็นในที่โล่งหน้าบ้าน ถูกช้างป่าบุกเหยียบดับคาที่ ท่ามกลางความสลดใจของผู้มาพบเห็น ขณะ นายก อบต.ท่ากระดาน โอดชีวิตคนถูกปล่อยทิ้งให้ช้างป่าเข้ามาทำร้ายเป็นผักปลา ไร้การเหลียวแลจาก จนท.ผู้มีอำนาจระดับสูงเอาใจใส่ช่วยสางปัญหาอย่างจริงจัง
วันที่ 23 ก.พ.67 เวลา 09.00 น. พ.ต.ท.ณัฐภัทร ตังคณากุล สารวัตรเวรสอบสวน สภ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดเหตุช้างป่าทำร้ายคนเสียชีวิต ที่บริเวณหน้าบ้านพัก ภายในหมู่บ้านนาน้อย เลยจากตลาดชำป่างามไปยังเส้นทางอ่างเก็บน้ำคลองระบมไปประมาณ 4 กม. พื้นที่ ม.6 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบร่างของผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ทราบชื่อ คือ นางลำดวน พวงเงิน อายุ 69 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนพื้นดินกรวดปนทรายสีขาวครีม ที่บริเวณลานดินหน้าบ้านพักเลขที่ 207 หมู่ 6 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ในสภาพสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นลายทางสก๊อตแนวตั้งสีแดงสลับแถบเทาขาว สวมกางเกงหูรูดขาสามส่วนสีเทา มีเลือดไหลออกมาจนท่วมใบหน้าและนองลงไปอยู่พื้นดิน
พบบาดแผลตามร่างกาย แขนขวาอยู่ในสภาพบิดงอเสียรูปทรง กระดูกแขนหักทั้ง 2 ข้างและมีรอยเท้าช้างเหยียบที่บริเวณเนินหน้าอกจนซี่โครงหักยุบตัว ขาข้างซ้ายหัก พบรอยเท้าช้างเหยียบย่ำไปมาในพื้นที่ วัดเส้นผ้าศูนย์กลางได้ 33 ซม. ที่บริเวณใต้กันสาดหน้ามุขประตูบ้านพบที่นอนเป็นเสื่อโฟมลายการ์ตูน 1 ผืน หมอน 1 ใบ และมีผ้าห่ม 2 ผืน รองเท้าสตรี 1 คู่ถอดวางอยู่บนพื้นกระเบื้อง
จากการสอบถาม นายสวิส นินศิริ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 ม.6 ต.ท่ากระดาน เพื่อนบ้านใกล้เคียงห่างกันประมาณ 40 เมตร ผู้มาพบเห็นคนแรก เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น.เศษ ตนได้เดินมายังที่บ้านของนางลำดวน เพื่อที่จะมาขอไฟแช็กไปก่อไฟ จนมาพบว่านางลำดวนนอนเสียชีวิตอยู่ในสภาพนี้แล้ว จึงตกใจรีบเดินกลับไปยังที่บ้านพัก เพื่อนำรถ จยย.ขับออกไปบอกต่อทางญาติพี่น้องของเขาในหมู่บ้านให้ทราบเหตุที่เกิดขึ้น โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาตนได้มองเห็นช้างป่าตัวใหญ่ เชื่อว่าน้ำหนักน่าจะประมาณ 5-6 ตัน รูปทรงคล้ายกับช้างสีดอไม่เห็นงา เดินเข้ามากินลูกขนุนบนต้น ที่บริเวณใกล้กับหน้าบ้านของผู้ตาย นายสวิส กล่าว
ด้านนายทรัพย์ทวี กุลสารี นายก อบต.ท่ากระดาน กล่าวว่า มีชาวบ้านพบเห็นช้างป่า จากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก ( ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี สระแก้ว) ได้ออกมาเดินวนเวียนหากินอยู่ในบริเวณพื้นที่รอยต่อระหว่าง ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม และ ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต มานานหลายวันแล้ว ก่อนที่จะมาทำร้ายชาวบ้านจนเสียชีวิตภายในบ้านพักของตนเองในวันนี้เป็นรายที่ 2 แล้ว
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ชาวบ้านรายนี้ถูกช้างป่าทำร้ายจนเสียชีวิตนั้น เนื่องจากถูกทางการไฟฟ้า ได้มาถอดยกมิเตอร์ไป เพื่อตัดกระแสไฟฟ้า ผู้ตายจึงได้ไปอาศัยบ้านญาติที่อยู่ในตลาดชำป่างามอยู่ และไปๆ มาๆ แบบอยู่บ้านบ้างไม่อยู่บ้าง โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 20.00 น. ผู้ตายกลับเข้ามานอนที่บ้าน แต่ทนนอนท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าวภายในบ้านพักไม่ไหว จึงได้ออกมาปูที่นอนเพื่อรับอากาศเย็นที่บริเวณหน้าประตูบ้านก่อนที่จะหลับไป และถูกช้างป่าเข้ามาทำร้ายจนเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจ ทั้งที่อยู่ภายในบริเวณหน้าบ้านพักของตนเอง
ซึ่งตามข้อมูลล่าสุดนั้น มีชาวบ้านพบเห็นช้างป่าเข้ามาเดินหากินอยู่ในบริเวณนี้ประมาณ 4-5 ตัว และมีเลยไปยังในเขตพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี อีกกว่า 30 ตัวแล้ว จึงอยากวิงวอนไปถึงยัง รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วยว่า ชีวิตคนนั้นมีค่ากว่าจะเกิดและเติบโตกันขึ้นมาได้ถึงขนาดนี้นั้น มีค่ามากกว่าช้างป่า จึงอยากให้เร่งเข้ามาช่วยชาวบ้านแก้ไขปัญหา ด้วยการเข้ามายิงยาสลบนำช้างที่ออกมาเดินเดี่ยวกลับป่าไป
หรือเอาไปตรงไหนก็ได้ ที่ทำให้คนปลอดภัยไม่ใช่ปล่อยให้เป็นปัญหาเรื้อรังอยู่ในขณะนี้ โดยเราก็เข้าใจว่า จนท.ชั้นผู้น้อยนั้นได้ทำไปตามหน้าที่อยู่เต็มที่ไปตามคำสั่งแล้ว แต่ในระดับของผู้บังคับบัญชาที่ใหญ่ที่สุด เช่น ระดับรัฐมนตรี หรืออธิบดีนั้น คุณต้องสั่งการลงมาและเร่งแก้ไขไม่ใช่เห็นชีวิตของชาวบ้าน เห็นคนเป็นผักปลาอยู่อย่างนี้ ทั้งที่ตรงบริเวณนี้ไม่ใช่เขตป่า และอยู่ห่างจากผืนป่ารอยต่อ 5 จังหวัดมาตั้งเกือบ 70 กม.
จึงอยากฝากให้สื่อสารส่งต่อไปให้ถึงยังรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบด้วย เพราะลำพังชาวบ้าน และ อบต. นั้น ทำอะไรไม่ได้ เพราะไม่มีอำนาจหน้าที่ที่จะทำ ในส่วนของการป้องกันและกระบวนการต่างๆ นั้น ต้องเริ่มมาจากต้นน้ำ ในการที่จะเอาช้างกลับป่า ไม่ใช่คิดแต่วิธีที่จะให้ช้างเดินกลับเข้าป่าเองเพียงอย่างเดียว คุณต้องคิดถึงวิธีการอื่นๆ ด้วย นายทรัพย์ทวี กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: