ฉะเชิงเทรา – ล็อกกุญแจขังหลวงพ่อโสธรเวียนเทียนวันมาฆบูชา พิลึกพิธีอย่างเป็นทางการไม่เดินเวียนไปโดยรอบเขตขันธ์พระอุโบสถหรือวนรอบใบเสมาทั้ง 8 ทิศ ขณะพุทธศาสนิกชนทั่วไปหลายพันคนทยอยเดินทางมาเวียนเทียนเดินอ้อมพระอุโบสถทั้งหลังอย่างเนืองแน่น แม้จะเดินเวียนเทียนได้แต่เพียงภายนอกรั้วกำแพงก็ตาม
วันที่ 24 ก.พ.67 เวลา 20.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการจัดพิธีเวียนเทียนที่บริเวณพระอุโบสถวัดโสธรวรารามวรวิหาร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ว่า ตั้งแต่ในช่วงก่อนเวลาพลบค่ำ 18.00 น. ได้มีประชาชนเริ่มทยอยเดินทางมาร่วมในพิธีเวียนเทียน เนื่องในวันมาฆบูชากันเป็นจำนวนมากหลายพันคน โดยเป็นไปในลักษณะของการเดินทางมาจุดธูปเทียน และเดินวนไปโดยรอบกำแพงของพระอุโบสถหลังใหญ่ด้วยตนเอง ตามแต่ความสะดวกจนถึงในช่วงเวลาประมาณ 21.00 น.
ขณะที่พิธีอย่างเป็นทางการนั้น ได้เริ่มขึ้นในเวลา 18.00 น. ที่บริเวณภายในพระอุโบสถหลังใหญ่ของวัดโสธรวรารามวรวิหาร โดยมีนายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา นางพัทธานันท์ ยังตรง นายกเหล่ากาชาด จ.ฉะเชิงเทรา และประธานแม่บ้านมหาดไทย จ.ฉะเชิงเทรา น.ส.ฉัตรประอร นิยม รองผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ รวมประมาณ 100 คน เดินทางมาร่วมพิธี
โดยผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส มีพระเทพภาวนาวชิรคุณ วิ. เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เจ้าคณะ จ.ฉะเชิงเทรา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมมีพระภิกษุสามเณรประมาณ 80 รูปร่วมในพิธีด้วย ซึ่งระหว่างพิธีได้มีพิธีสวดให้ศีล สวดสรรเสริญพระรัตนตรัย กล่าวคำบูชาดอกไม้ธูปเทียน เนื่องในวันมาฆบูชา จากนั้นจึงได้ร่วมกันเวียนเทียนไปโดยรอบห้องโถงหลัก ซึ่งเป็นแกนของตัวอาคารพระอุโบสถ สถานที่ประดิษฐานองค์หลวงพ่อโสธรและพระบริวารทั้ง 17 พระองค์จำนวน 3 รอบเท่านั้น
โดยไม่ได้มีพิธีการเดินเวียนเทียนไปโดยรอบตัวอาคารของพระอุโบสถหลังใหญ่ทั้งหลัง หรือไม่ได้เดินเวียนเทียนไปโดยรอบเขตขันธ์ ใบเสมาของพระอุโบสถทั้ง 8 ทิศแต่อย่างใด ทั้งที่วัดหลวงพ่อโสธรฯ แห่งนี้เป็นวัดทางพระพุทธศาสนาขนาดใหญ่ระดับประเทศและเป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก และยังเป็นพระอารามหลวงชั้นตรีอีกด้วย
นอกจากนี้การจัดพิธีเวียนเทียนที่วัดแห่งนี้ ยังเป็นการจัดขึ้นแต่เพียงบริเวณภายในตัวพระอุโบสถ ที่มีเพียงเหล่าข้าราชการและหัวหน้าส่วนราชการเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่จะสามารถเข้าไปร่วมยังภายในบริเวณพิธี ด้านในพระอุโบสถได้ โดยที่ประตูรั้วชั้นในของพระอุโบสถนั้น ได้มีการคล้องห่วงโซ่ ใส่แม่กุญแจปิดล็อกเอาไว้อยู่ตลอดเวลา จึงทำให้ผู้ที่ต้องการที่จะเข้าร่วมในพิธีเวียนเทียนอย่างเป็นทางการ ตามจารีตประเพณีที่เคยปฏิบัติมาในรูปแบบของวิถีพุทธที่สมบูรณ์แบบนั้น ไม่สามารถที่จะเข้าไปร่วมในพิธีได้
ขณะที่ความสำคัญของวันมาฆบูชาในทางพระพุทธศาสนานั้น เป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดง “โอวาทปาติโมกข์” แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรก หลังจากตรัสรู้มาเป็นเวลา 9 เดือน โดยมีหลักคำสอนที่เป็นหลักการและวิธีการปฏิบัติโดยสรุปเป็นใจความสำคัญได้ว่า “ให้ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์” ทั้งยังเป็นวันที่มีพระสงฆ์ซึ่งล้วนแต่เป็นพระอรหันต์จำนวน 1,250 รูปเดินทางมาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย เมื่อครั้งพุทธกาล
ซึ่งตรงกับวันพระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์ ในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำกลางเดือน 3 โดยพระสงฆ์ที่เดินทางมาร่วมชุมนุมกันนั้น ล้วนแต่เป็นพระอรหันต์ผู้ได้อภิญญา 6 ที่ได้รับการอุปสมบทโดยตรงจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือ “เอหิภิกขุอุปสัมปทา” จึงถือเป็นเหตุอัศจรรย์ 4 ประการ ที่ปรากฎการณ์ขึ้นในวันจาตุรงคสันนิบาตนี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: