ฉะเชิงเทรา – ล่าจระเข้ยาว 3 เมตรหมกสวนปาล์มคนตกปลาร่องเรือพบถึงผงะ ก่อนถ่ายคลิปจับภาพไว้ได้เป็นหลักฐานยืนยัน ด้านประมงพร้อมปลัดอำเภอบางคล้าลงพื้นที่ติดตามการไล่ล่าอย่างใกล้ชิดจนก่อนถึงช่วงพลบค่ำ แต่ยังไร้วี่แวว ด้านชาวบ้านแฉมีฟาร์มอยู่ใกล้แอบทำหลุดบ่อย หวั่นถูกงับขณะลงน้ำหาเลี้ยงชีพ ชี้ช่วงปี 2554 เกิดน้ำท่วมใหญ่มีหลุดออกมาจำนวนมาก เชื่อตัวที่พบในครั้งนี้อยู่มานานแล้วจนลำตัวเขื่องใหญ่ โตกว่าที่เคยพบเห็นในพื้นที่มาก่อน
วันที่ 1 มี.ค.67 เวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายกอบกฤต เกตุโชติทวีกิจ ผู้ใหญ่บ้าน ม.5 ต.หัวไทร อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 06.00-07.00 น. วันนี้ได้มีนักตกปลาจากในพื้นที่ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ร่องเรือตกปลามาพบจระเข้ตัวขนาดใหญ่ ซึ่งคาดว่ามีความยาวถึงกว่า 3 เมตร ภายในบริเวณสวนปาล์มบนพื้นที่ประมาณ 20-30 ไร่ โดยผู้ที่พบเห็นสามารถถ่ายคลิปวีดีโอเอาไว้ได้ เพื่อยืนยันว่าเป็นจระเข้จริงๆ
โดยจุดที่พบนั้น อยู่ภายในคลองผักกระเฉด พื้นที่ ม.5 ต.หัวไทร ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่าง อ.บางคล้า กับฝั่งตรงข้ามนั้นเป็นพื้นที่ ม.10 ต.ดงน้อย อ.ราชสาส์น จ.ฉะเชิงเทรา เชื่อมระหว่างประตูน้ำหัวไทรที่แยกสาขาออกมาจากแม่น้ำบางปะกง ไปยังลำคลองสาธารณะใน อ.ราชสาส์น ขนาดลำคลองกว้างประมาณ 10 เมตร ซึ่งจระเข้ที่พบเห็นในครั้งนี้เชื่อว่าเป็นจระเข้ที่หลุดออกมาจากฟาร์มเลี้ยง ที่อยู่ใกล้บริเวณนี้ตั้งแต่เมื่อช่วงปี พ.ศ.2554- 2556 ระหว่างที่เกิดภาวะน้ำท่วมใหญ่
โดยในครั้งนั้นเป็นเพียงลูกจระเข้ ที่หลุดออกมาเป็นจำนวนมาก โดยทางฟาร์มได้มีการออกมาไล่จับนำกลับคืนไปแล้ว แต่เชื่อว่ายังคงมีหลงเหลืออยู่บางส่วน ตั้งแต่ยังตัวเล็กๆ จนมีคนมาพบว่าตัวใหญ่โตขึ้นถึงขนาด 3 เมตรนี้ แต่ตนเองก็ยังไม่ได้เห็นด้วยตาตนเองว่าใหญ่ขนาดไหน โดยเห็นจากคลิปวีดีโอที่เขาถ่ายไว้เช่นเดียวกัน นายกอบกฤต กล่าว
ด้านนายประมวล เอี่ยมอาภรณ์ ประมง อ.บางคล้า กล่าวว่า ขณะนี้ได้ให้ทางพื้นที่ คือ กำนันผู้ใหญ่บ้าน ทำการแจ้งเตือนประชาชนไปว่า ในขณะนี้มีการพบจระเข้ในแหล่งน้ำสาธารณะ ขณะที่จะลงไปทำกิจกรรมทางน้ำหรือลงไปในน้ำนั้น ขอให้ใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากจระเข้ตัวที่พบครั้งนี้ มีขนาดใหญ่ไม่น้อยกว่า 2 เมตรขึ้นไป และยังคงอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำในพื้นที่ ซึ่งอาจจะทำอันตรายต่อประชาชนที่อยู่ในน้ำได้
นอกจากนี้ขอให้ระมัดระวังสัตว์เลี้ยงด้วย เช่น สุนัขที่อยู่ใกล้กับแหล่งน้ำ หรือหากมีการพบเห็นก็ขอให้รีบทำการแจ้งไปยังสำนักงานประมง อ.บางคล้า เพื่อที่จะได้รีบลงมายังในพื้นที่ในทันที เนื่องจากยังไม่ทราบแน่ชัดว่า จระเข้ตัวนี้ได้หลุดออกมาจากฟาร์มนานแล้วหรือยัง มีการอยู่อาศัยดำรงชีพด้วยตนเองแล้วหรือยัง นายประมวล กล่าว
ขณะที่ นายอนุชิต โมพันตุง ปลัดอำเภอบางคล้า ได้รับมอบหมายจาก นายสุพจน์ ตรีรัตนนุกูล นายอำเภอบางคล้า กล่าวว่า ได้รับแจ้งว่ามีชาวบ้านมาตกปลาภายในบริเวณลำคลองแห่งนี้ แล้วพบเห็นจระเข้โผล่ขึ้นมาจากน้ำ โดยมีคลิปวีดีโอเป็นภาพของจระเข้จริงๆ ขึ้นจากคลองไปบนฝั่งในสวนปาล์ม ในพื้นที่ ม.5 ต.หัวไทร อ.บางคล้า ก่อนที่จะลงไปอาศัยอยู่ภายในคูน้ำ ซึ่งเป็นลักษณะของคูแบบปิด ไม่เชื่อมต่อกับแหล่งน้ำภายนอกรูปแบบตัวยูภายในสวนปาล์ม
เบื้องต้นได้ให้เจ้าหน้าที่และชาวบ้านได้ร่วมกันค้นหา และให้ทำการเฝ้าระวัง พร้อมให้กำนันผู้ใหญ่บ้านได้ทำการประชาสัมพันธ์ต่อชาวบ้านได้ทราบ และแจ้งไม่ให้ชาวบ้านลงไปยังในแหล่งน้ำในช่วงเวลานี้ เนื่องจากจระเข้ที่พบในครั้งนี้มีขนาดใหญ่ ส่วนมาตรการอื่นๆ นั้น จะทำการค้นหาต่อไปและจัดทีมเวรยาม ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ใหญ่บ้านมาเฝ้าระวังในพื้นที่ต่อไป นายอนุชิต กล่าว
ส่วนนายศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี ชาวบ้านในที่เกิดเหตุ ระบุว่า ชาวบ้านในพื้นที่ล้วนต่างพากันหวาดกลัว และหวั่นเกรงว่าจะถูกจระเข้งับจนไม่มีใครกล้าที่จะลงไปในน้ำ ส่วนตนนั้นไม่กลัวเนื่องจากเกิดอยู่ที่นี่และโตมากับพื้นที่แห่งนี้ และเคยลงไปในน้ำอยู่เป็นประจำโดยที่ไม่เคยพบเจอกับจระเข้มาก่อน แม้จะเคยไปทำงานยังที่อื่น ก่อนที่จะกลับมาอยู่ยังที่บ้านเกิดอีกครั้งก็ตาม จนชาวบ้านต่างพากันถามว่าลงไปได้อย่างไรในน้ำ แต่ตนเองนั้นรู้สึกเฉยๆ เพราะไม่ได้ตื่นกลัวอะไรไปตามพวกเขา นายศักดิ์ กล่าว
