ฉะเชิงเทรา – มะม่วงแปดริ้ว ทำเงินสะพัดเข้าสู่ จ.ฉะเชิงเทรา ช่วงก่อนถึงเทศกาลสงกรานต์ปีละกว่า 10 ล้านบาท พร้อมเตรียมจัดงานขายสินค้าและผลผลิตตามฤดูกาลต่อเนื่องเป็นปีที่ 53 ขณะผู้ผลิตยันผู้มาเยือนในงานตลอด 10 วัน จะได้สินค้าในราคาถูกกว่าที่มีวางจำหน่ายในท้องตลาด ขณะมูลค่าการส่งออกต่างประเทศยังทรงตัวที่ 400 กว่าล้านบาทต่อปี
วันที่ 20 มี.ค.67 เวลา 14.00 น. ที่บริเวณลานกิจกรรมด้านหน้าโรงภาพยนตร์ SF CINEMA ชั้น 2 ภายในห้างสรรพสินค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ฉะเชิงเทรา นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา ร่วมกับ นายดนัย ปัญจพิทยากุล เกษตร จ.ฉะเชิงเทรา นายมานพ แก้ววงษ์นุกูล ประธานวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมะม่วงส่งออก จ.ฉะเชิงเทรา นายกระจ่าง จำศักดิ์ ประธานสหกรณ์ชมรมชาวสวนมะม่วง จ.ฉะเชิงเทรา จำกัด และนางบุญมี ศรีสุข นายกสมาคมธุรกิจการอาหาร จ.ฉะเชิงเทรา ได้ร่วมกันแถลงข่าว
ข่าวน่าสนใจ:
การจัดงาน “วันมะม่วงและของดีเมืองแปดริ้ว” ครั้งที่ 53 ประจำปี 2567 ซึ่งจะมีการจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 มี.ค.67 – 7 เม.ย.67 ภายในโรงเรียนวัดโสธรวรารามวรวิหาร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา โดยนายชลธี ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดงาน เพื่อเป็นการส่งเสริมการตลาดเปิดโอกาสให้เกษตรกรผู้ผลิตมะม่วงได้ขายสินค้าโดยตรงต่อผู้บริโภค โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง และเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนมะม่วงใน จ.ฉะเชิงเทรา ให้สามารถจําหน่ายผลผลิตที่ออกมามากตามฤดูกาลได้
ขณะเดียวกันยังเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลผลิตมะม่วงของชาวสวน จ.ฉะเชิงเทรา ที่มีรสชาติดีเยี่ยมคุณภาพส่งออกและมีชื่อเสียงระดับประเทศ เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด โดยในปีที่ผ่านมาการจัดงานวันมะม่วงและของดีเมืองแปดริ้ว สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจก่อให้เกิดรายได้เข้าสู่ จ.ฉะเชิงเทรา คิดเป็นมูลค่ามากถึง 10.7 ล้านบาท ขณะเดียวกันในปีนี้ ยังได้มีการประสานงานกับทางการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ให้จัดรถไฟขบวน KIHA 183 เดินทางจากกรุงเทพมายัง จ.ฉะเชิงเทรา ในวันที่ 30 – 31 มี.ค.67
เพื่อพานักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในงานแบบ One Day Trip หรือการเดินทางไปกลับในวันเดียวกัน ด้วยการพามาชิมข้าวเหนียวมูลมะม่วง โดยกิจกรรมนี้ถือเป็นการโปรโมทเส้นทางการท่องเที่ยวของ จ.ฉะเชิงเทรา ที่ทุกภาคส่วนจะได้ประโยชน์ร่วมกัน เกษตรกรอยู่ได้ ผู้ซื้อถูกใจ ผู้ขายมีรายได้ สร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนภายใน จ.ฉะเชิงเทรา นายชลธี กล่าว
และกล่าวต่อว่า การจัดงานในปีนี้จะจัดภายใต้คอนเซ็ปต์ “Smart Market No Alcohol No Foam” เน้นการใช้จ่าย ซื้อง่าย ขายคล่อง ที่มีการอำนวยความสะดวกในการรับชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือใช้เงินดิจิทัลในร้านค้าทุกร้าน ทั้งยังงดการจำหน่ายสุราและห้ามดื่ม และงดการใช้ภาชนะโฟมมาใส่อาหาร ที่นำเข้ามาจำหน่ายภายในงาน เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม
โดยจะมีกิจกรรมการให้ความรู้ในด้านเกษตร การประกวดผลผลิตสุดยอดมะม่วงดิบและมะม่วงสุก มะพร้าวน้ำหอม ขนุนเนื้อสีเหลือง สับปะรดปัตตาเวีย รวมทั้งหน่อไม้ ไข่ไก่คุณภาพสูง และปลากัดนักสู้สายพันธุ์ดีที่มีชื่อเสียงของจังหวัด โดยผลผลิตมะม่วงที่จะนำเข้ามาจำหน่ายในงานเป็นสินค้ามาตรฐานส่งออก ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน GAP เกษตรปลอดภัย รวมถึงยังมีสินค้าเกษตรแปรรูป และผลิตภัณฑ์แปรรูปของดีเมืองแปดริ้ว ตลอดจนพันธุ์ไม้ต่างๆ อย่างหลากหลายชนิด
นักท่องเที่ยวจะได้มาสัมผัสกับจุด Check in จากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ที่ได้จัดทำขึ้นมาให้สอดคล้องกับการเป็นเมือง Smart City ของ จ.ฉะเชิงเทรา ให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกและรับของรางวัลจากการร่วมสนุกภายในงาน กิจกรรมการลด แลก แจก แถม และนาทีทองซื้อมะม่วงในราคาถูก ที่จะมีการจัดขึ้นภายในงานทุกวัน จึงขอเชิญชวนให้มาท่องเที่ยว ชิม ช้อป แชร์ ในงานวันมะม่วงและของดีเมืองแปดริ้วในครั้งนี้ ระหว่างเวลา 09.00 – 21.00 น.ตลอด 10 วัน
ขณะที่นายดนัย ได้กล่าวถึงสถานการณ์การส่งออกมะม่วงของ จ.ฉะเชิงเทรา ว่า ปัจจุบันเกษตรกรชาวสวนมะม่วง จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีการส่งออกผลผลิตมะม่วงในปริมาณ 1 ใน 3 ของการผลิตไปยัง 5 ประเทศหลัก ได้แก่ เกาหลี ญี่ปุ่น เวียดนาม มาเลเซีย และสิงคโปร โดยมีมูลค่าการส่งออกประมาณ 400 ล้านบาทต่อปี โดยที่เกษตรกรชาวสวนมีกำลังการผลิตมะม่วงกว่า 19,000 ตันต่อปีบนเนื้อที่กว่า 21,000 ไร่
ที่ผ่านมาได้มีการส่งเสริมให้มีการพัฒนาคุณภาพให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด การดูแลทางวิชาการและมาตรฐานสินค้า ด้วยระบบเกษตรดีที่เหมาะสม หรือระบบการจัดการมาตรฐานการผลิต GAP ที่เราต้องมีต่างประเทศจึงจะรับซื้อสินค้าของเรา โดยอีกส่วนหนึ่งนั้นได้มีการพัฒนา GI อย่างต่อเนื่องที่จะเกิดประโยชน์ให้เป็นสินค้าเชิงอัตลักษณ์ หรือมีสัญลักษณ์เฉพาะของมะม่วงแปดริ้ว นายดนัย กล่าว
ส่วนด้านนายมานพ กล่าวว่า ปีนี้มะม่วงมีผลผลิตค่อนข้างมาก โดยเริ่มมีผลผลิตออกมาตั้งแต่ในช่วงเดือน พ.ย.66 และคาดว่าจะไปหมดลงในช่วงเดือน พ.ค.67 จึงทำให้เกษตรกรมีผลผลิตออกสู่ตลาดได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน และเชื่อว่าในช่วงระหว่างการจัดงานจะมีมะม่วงเข้ามาวางจำหน่ายเป็นจำนวนมาก ในราคาที่ไม่แพง ผู้ที่เดินทางมาท่องเที่ยวจะได้ประโยชน์ ที่จะได้รับประทานมะม่วงที่ดีที่สุดในประเทศไทย และปลอดภัยจากสารพิษตกค้างในราคาที่น่าพึงพอใจ นายมานพ กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: