ฉะเชิงเทรา – มีแค่สองล้อขับต้องระวัง หนุ่มสาวควบซุปเปอร์ไบค์ถูกกระบะขับเฉื่อยออกจากซอยสู่ถนนใหญ่ตัดหน้าพุ่งชนท้ายเจ็บสาหัสคู่ เผยฝ่ายชายต้องใส่ระบบท่อยื้อชีวิต ขณะทาง รพ.รอประสานญาติหาคนเซ็นยินยอมก่อนทำการรักษาอาการถึงขั้นวิกฤตแต่ยังติดต่อไม่ได้ พบข้อมูลเบื้องต้นมารดาไปต่างประเทศส่วนบิดาเสียชีวิตแล้วทำไร้หนทางควานหาตัวผู้ที่เกี่ยวข้อง
วันที่ 11 พ.ค.67 เวลา 07.54 น. ร.ต.ท.เชษฐญาณิน เนียมเกาะเพ็ชร รองสารวัตรเวรสอบสวนคดีจราจร สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุมีรถจักรยานยนต์บี๊กไบค์พุ่งชนท้ายรถยนต์กระบะทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหนุ่มสาว ชายและหญิงจำนวน 2 ราย เหตุเกิดขึ้นบนถนนสุวินทวงศ์ สาย 304 (ฉะเชิงเทรา-มีนบุรี) ด้านฝั่งขาเข้า กทม. บริเวณหลัก กม.ที่ 61+300 จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ
ข่าวน่าสนใจ:
ที่เกิดเหตุอยู่ในเขตพื้นที่ ม.17 ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา พบรถยนต์กระบะแบบตอนเดียวด้านหลังมีคอก บรรทุกถุงกระสอบใส่ขวดแก้วเก่ามาจนเต็มคัน ยี่ห้อนิสสันสีขาวสภาพเก่าจนสีหลุดลอกออกมาจากตัวรถ หมายเลขทะเบียน บพ-4682 ฉะเชิงเทรา จอดอยุ่บนเลนด้านขวาสุดของถนนจากทั้งหมด 3 ช่องจราจรทางด้านฝั่งขาเข้า ห่างกันออกมาประมาณ 20 เมตร พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่ารุ่น R15 ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนสีดำคาดน้ำเงิน (ซึ่งเป็นเพียงรถขนาดสปอร์ตไบค์หรือซุปเปอร์ไบค์เท่านั้นไม่ใช่บิ๊กไบค์ตามที่ได้รับแจ้ง) นอนล้มตะแคงติดอยู่กับแนวแบริเออร์กั้นเกาะกลางถนน
สภาพด้านหน้าตัวรถและด้านข้างฝั่งทางขวาพังยับเยิน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทราบชื่อต่อมา คือ นายวรวัฒน์ ชัยฉลอง อายุ 31 ปี เป็นชาว ม.4 ต.โนนสะอาด อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ ได้รับบาดเจ็บสาหัสมีบาดแผลเป็นหลุมลึกที่หน้าผากเหนือคิ้วขวากว้าง 3 ซม. พร้อมมีเลือดไหลออกจากปากและจมูก ได้มีรถกู้ชีพฉุกเฉินจาก รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ใกล้ในเขตตัวเมืองฉะเชิงเทรา เดินทางมารับตัวนำส่งไปยังโรงพยาบาลก่อนหน้าแล้ว ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีกรายเป็นหญิงวัยประมาณ 29 ปี มีบาดแผลถลอกตามร่างกาย และมีอาการเจ็บที่ต้นคอและกระดูกขา ถูกนำตัวส่งไปยัง รพ.พุทธโสธรในเวลาต่อมา
สอบถาม นายนรเชฏฐ์ ลายประดิษฐ์ อายุ 52 ปี และ นางอัจฉรา ลายประดิษฐ์ อายุ 48 ปี ชาว ม.1 ต.วังตะเคียน อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา สองสามีภรรยาเจ้าของรถยนต์กระบะ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุได้ขับรถออกมาจากซอยเส้นทางโรงงานไมโครชิพ ซึ่งขณะนั้นถนนยังโล่งอยู่ จึงได้ขับเปลี่ยนเลนเบียดเข้ามาทางเลนขวาสุดจากทั้งหมด 3 ช่องจราจรเพื่อจะเข้าจุดกลับรถด้วยความเร็วประมาณ 50 กม./ชม. เนื่องจากรถมีน้ำหนักมากเพราะบรรทุกขวดแก้วมาจนเต็มคัน เพื่อที่จะนำไปส่งยังโรงงานรีไซเคิลใน อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี
แต่เมื่อขับเข้ามาในเลนขวาสุดได้ประมาณ 200-300 เมตรแล้ว ได้มองเห็นว่ามีรถยนต์ขับตามหลังมาตามเส้นทางอีกจำนวนหลายคัน โดยมีรถ จยย.รูปทรงบิ๊กไบค์ขับไล่แซงรถที่อยู่ด้านหลังมาด้วยความเร็วในเลนด้านขวาบนช่องทางเดียวกับตน จึงได้พยายามขับชิดเส้นแบ่งเลนสีขาวทางซ้ายของตัวรถเพื่อที่จะให้ จยย.ที่ขับไล่แซงตามมานั้นแซงขึ้นทางขวาไป แต่สุดท้ายกลับได้ยินเสียงการพุ่งชนที่ด้านท้ายรถคันที่ตนขับมา โดยครั้งแรกติดว่าเป็นเสียงของยางรถระเบิด เมื่อหยุดรถลงมาดูจึงพบว่ามีรถพุ่งชนที่หัวมุมไฟท้ายขวาของรถตนที่ขับมา สองสามีภรรยาระบุ
ด้าน ร.ต.ท.เชษฐญาณิน กล่าวว่า ขณะนี้ได้พยายามติดต่อหาญาติของผู้ได้รับบาดเจ็บฝ่ายชาย เพื่อให้มาเซ็นชื่อยินยอมให้ทาง รพ.ทำการรักษา เนื่องจากได้รับบาดเจ็บสาหัส และต้องใส่ท่อเครื่องช่วยชีวิตแต่ยังไม่สามารถติดต่อใครได้ เนื่องจากทราบเบี้ยงต้นว่ามารดาได้เดินทางไปยังต่างประเทศ ส่วนบิดานั้นทราบว่าได้เเสียชีวิตไปแล้ว ขณะนี้จึงยังติดต่อหาญาติหรือให้ใครมาเซ็นรับทราบยินยอมตามที่ทาง รพ.ร้องขอได้ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีกราย ซึ่งเป็นหญิงนั้นอาการไม่สาหัส ร.ต.ท.เชษฐญาณิน กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: