ฉะเชิงเทรา – น้องน้ำค้างเผย หนุ่มไล่บีบแตรสาวงานบั้งไฟพุ่งเป้าเล็งศรหื่นใส่น้องมีนา เหตุจากมีเชื้อสายคนภาคเหนือจากมารดา ทำร่างกายดูเปล่งปลั่งผิวพรรณดูขาวนวลในวัยกำลังที่จะเข้าสู่ความเบ่งบาน ยอมรับยังไม่ได้ถูกถีบแต่ตกใจที่หลังจากถูกไล่ตาม จนทำให้รถเสียหลักล้มลงก่อน ขณะคนร้ายรีบคว้าตัวสาวรุ่นหน้าตาดีก่อนขอลวนลามจับของสงวนและขู่รีดทรัพย์
วันที่ 19 มิ.ย.67 เวลา 07.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับการเปิดเผยเหตุการณ์ซึ่งเป็นข้อเท็จจริง จากปากคำของ น.ส.น้ำค้าง สาววัย 18 ปี ซึ่งเป็นคนขับขี่รถจักรยานยนต์ คันที่ถูกคนร้ายตามประกบ หลังออกมาจากเที่ยวงานบุญบั้งไฟ ที่ริมอ่างเก็บน้ำคลองสียัด ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทราว่า ในวันเกิดเหตุ (15 มิ.ย.67) พวกตนจำนวน 4 คนได้เดินทางออกจากบ้านเพื่อไปเที่ยวในงานเทศกาลบุญบั้งไฟ เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ด้วยรถ จยย. 2 คันพร้อมด้วยเพื่อนรุ่นน้องวัย 15 ปีทั้ง 3 คนรวม 4 คน
และเดินทางไปถึงในงานก่อนเวลา 22.00 น. จากนั้นได้เดินแยกย้ายกันไป โดยต่างคนต่างไปเดินเที่ยวงานกับกลุ่มเพื่อนในวัยเดียวกัน ที่ได้นัดมาพบเจอกันภายในงาน ซึ่งการเข้าไปในเดินอยู่ในงานนั้นส่วนใหญ่จะเป็นการเข้าไปซื้อของกินมากกว่า โดยที่ไม่ได้ไปดูมโหรสพ หรือไปเข้าร่วมกิจกรรมอะไรที่จัดขึ้น จนถึงเวลาประมาณเที่ยงคืน จนงานเลิก จึงได้กลับมารวมตัวกันที่บริเวณด้านหน้าเวทีการแสดงของนักร้องและวงตนตรี ตามที่ได้มีการนัดพบกันไว้ และไม่ได้สังเกตหรือทราบมาก่อนว่าจะมีคนคอยตามดูอยู่หรือไม่
จากนั้นจึงได้พากันขับรถ จยย.ออกมาจากงานเพื่อเดินทางกลับบ้าน และเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ในขณะที่กำลังจะพากันเลี้ยวรถลงไปยังในทางลูกรัง เพื่อที่จะลัดกลับเข้าบ้านไปยังเส้นทางด้านหลังวัดประชานิมิตร น้องมีนา เด็กสาววัย 15 ปีที่นั่งซ้อนท้ายรถคันของตนมาได้หันไปเห็นว่ามีคนขับรถตามหลังมา จึงร้องถามว่า “ใครอ่ะ” ก่อนที่จะใช้โทรศัพท์ถ่ายคลิปไว้ และตนเองได้หันไปมองตามด้วย หลังจากคนร้ายขับรถเข้ามาประกบข้างๆ ตนเอง ด้วยความตกใจจึงทำให้รถคันของตนเสียหลักล้มลง
จากนั้นคนร้ายได้รีบจอดรถแล้ววิ่งเข้ามากระชากแขน คว้าเอาตัวน้องมีนาไว้ และใช้ท่อนแขนคล้องรัดที่คอ ขอลวนลามจับหน้าอกของสงวน พร้อมกับข่มขู่ให้เอาเงินมา แต่พอตนบอกว่าไม่มีเงิน ให้ตามไปเอาที่บ้าน หรือไปรอเอาที่ข้างวัด คนร้ายจึงได้ปล่อยตัวน้องมีนา และขับรถหลบหนีไป โดยที่ครั้งแรกคนร้ายขับรถมุ่งหน้าเข้าไปยังในซอย แต่ได้กลับรถวนออกไปขึ้นถนนใหญ่ตามเดิม ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่นายเดื่อ ชาวบ้านในหมู่บ้าน คนกรีดยางขับรถออกมาจากสวนยางพร้อมกับเพื่อน คือ นายสุนทร พอดี
ซึ่งน้องมีนานั้นสติหลุดตั้งแต่คนร้ายขับรถเข้ามาใกล้แล้ว จึงตกใจกรีดร้องและทำให้รถล้ม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงเชื่อว่าคนร้ายตั้งใจจะเข้ามาลวนลามน้องมีนา ก่อนที่จะข่มขู่เรียกเอาเงิน เพราะน้องมีนาเป็นคนผิวขาวหน้าตาน่ารัก เนื่องจากมารดาของน้องมีนาเป็นคนภาคเหนือ ส่วนตนเองนั้นไม่ได้ถูกคนร้ายลวนลามอะไร และไม่ได้ถูกคนร้ายจับตัวไว้ ยังมีอิสระที่จะเคลื่อนไหวหรือต่อสู้ได้ จึงได้พยายามคุมสติพูดคุยกับคนร้าย และดึงน้องมีนาที่ล้มลงอยู่กับพื้นให้ลุกขึ้นมา
และหลังจากคนร้ายปล่อยตัวน้องมีนา และขับรถหนีไปแล้วนั้น พวกตนจึงได้พากันขับรถเดินทางกลับบ้าน และยังไม่ได้บอกใคร เนื่องจากคนในบ้านพากันหลับนอนหมดแล้ว จนกระทั่งในช่วงรุ่งเช้า (16 มิ.ย.67) ผู้เป็นย่าจึงได้เข้ามาถาม เนื่องจากมีคนในหมู่บ้านพูดคุยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกันทั่ว หลังเกิดเหตุการณ์ขึ้นก็อยากจะให้ทางเจ้าหน้าที่จับกุมตัวคนร้ายให้ได้ เพราะเกรงว่าจะไปก่อเหตุกับคนอื่นอีก และเชื่อว่าคนร้ายน่าจะก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง
ขณะที่ทางโรงเรียน และทางอำเภอก็ได้เข้ามาพูดคุยสอบถาม และมีความเป็นห่วง โดยที่ทางอำเภอได้บอกว่าจะตามจับตัวคนร้ายมาให้ได้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าหากทาง จนท.จับตัวคนร้ายได้ อยากจะบอกอะไรกับเขาไหม น.ส.น้ำค้าง บอกไม่มีอะไรจะพูด และอยากจะเตือนสาวๆ วัยรุ่นที่จะออกไปเที่ยวนอกบ้านในเวลากลางคืน ขอให้พากันไปเป็นกลุ่มใหญ่ๆ หรือพาเพื่อนไปกันมากๆ เมื่อถามว่าหยากจะสั่งสอนคนร้ายหรืออยากจะตบตีเขาบ้างไหม น้ำค้างบอกว่า “หนูไม่อยากจะทำเขาหรอก ค่ะ แต่ไม่ได้ให้อภัย แต่ไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวด้วย” น.ส.น้ำค้าง กล่าว
