ฉะเชิงเทรา – กุ้ง 6 ตัวแลกกับ 1 ชีวิตคนในกระแสน้ำเชี่ยว หลังหนุ่มร่างยักษ์อาชีพขับรถพุ่มพวงเร่ขายกับข้าวตามชุมชน ถูกกระแสน้ำบางปะกงพัดหายข้ามคืน ใกล้แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังวัดสมานรัตนาราม สถานที่ประดิษฐานพระพิฆเนศองค์นอน ปางเสวยสุขเลื่องชื่อ หน้าสันเขื่อนบางปะกงก่อนพบเป็นศพอึดติดอยู่คาซอกหินใกล้รางช่องระบายน้ำ ท่ามกลางความเศร้าโศกของหมู่ญาติ โดยเฉพาะภรรยาสาวพร้อมลูกน้อยอีก 2 คนต่างร้องไห้ระงม
วันที่ 21 มิ.ย.67 เวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยพนมสารคาม ได้ทำการค้นหาร่างชายหนุ่มวัย 32 ปีจนพบแล้ว หลังรับแจ้งจากทางญาติว่า ได้สูญหายไปภายในน้ำตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ที่บริเวณใต้แนวสันเขื่อนปิดกั้นกลางลำน้ำ ในแม่น้ำบางปะกงสายเก่า ที่ถูกปิดกั้นเพื่อสร้างเป็นช่องประตูพร้อมรางระบายน้ำขึ้นมาปิดขวางไว้ใช้บังคับให้น้ำเปลี่ยนทิศทางการไหลเข้าไปยังลำน้ำบางปะกงสายใหม่อีกด้าน ที่มีการก่อสร้างโครงการเขื่อนทดน้ำบางปะกงเมื่อเกือบ 30 ปีที่ผ่านมา
โดยจุดดังกล่าวเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่าง ม.4 ต.คลองจุกเฌอกับ ม.11 ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา สอบถาม นางต้น โถทอง อายุ 52 ปี ชาว จ.สุรินทร์ เพื่อนบ้านเช่าห้องพักติดกันย่าน รพ.เกษมราษฎร์ฉะเชิงเทรา ในเขตตัวเมือง จ.ฉะเชิงเทรา เล่าว่า ผู้ตายเปรียบเสมือนญาติ ที่มาเช่าห้องพักติดกันและพึ่งพาอาศัยกัน จึงได้มาอยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่และเช่าห้องติดต่อกันอยู่หลายครอบครัว
เมื่อวานนี้ผู้ตาย คือ นายดุสิต นาเจิมทอง อายุ 32 ปี ชาว ต.ศรีสุข อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น ซึ่งมีอาชีพขับรถพุ่มพวงเร่ขายกับข้าว ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ที่มีกระเป๋าและตะกร้าหาบเร่ 2 ข้าง ได้ออกจากห้องพักมาเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. พร้อมกับเพื่อนอีก 1 คนเพื่อที่จะไปลงงมหากุ้งในแม่น้ำบางปะกงสายเก่า จนกระทั่งเวลา 17.00 น. ทั้งสองคนใกล้จะเลิกงมหากุ้งแล้ว โดยผู้ตายงมหากุ้งแม่น้ำ (ก้ามกราม) ได้มาจำนวน 6 ตัว
จึงได้พากันพยายามเดินข้ามร่องน้ำจากบริเวณใกล้กึ่งกลางแม่น้ำ มาข้ามร่องน้ำของบานประตูระบายด้านทิศตะวันออก จากทั้งหมด 3 บาน คือร่องกลางและรองด้านตะวันตกอีก 1 บาน และในขณะนั้นเป็นช่วงที่กระแสน้ำกำลังไหลขึ้น และไหลผ่านเข้าสู่บานประตูที่เปิดไว้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้ผู้ตายเสียหลักเซไปตามกระแสน้ำวน ขณะที่เพื่อนที่มาด้วยกันได้พยายามที่จะหาทางช่วย ด้วยการจะให้ผู้ตายเกาะขาไว้
แต่เนื่องจากตัวของนายดุสิตนั้น มีตุ้มถ่วงน้ำหนักสำหรับถ่วงในเวลาดำลงไปใต้น้ำในขณะงมหากุ้งคาดอยู่ที่เอวจำนวน 3 ตุ้ม น้ำหนักรวมสายโซ่ประมาณกว่า 10 กก. จึงทำให้นายดุสิตจมน้ำหายไป หลังจากนั้นเพื่อนที่มาด้วยจึงแจ้งกลับมาให้ทราบกัน และร้องขอไปยังหน่วยกู้ภัย ให้ส่งชุดประดาน้ำมาช่วยกันลงงมค้นหาไปจนทั่วบริเวณ และกระจายเป็นวงกว้างมาตั้งแต่เมื่อคืนวานนี้จนถึงเวลา 02.00 น. แต่ไม่พบ
จนมาลงงมค้นหาในวันนี้เมื่อช่วงสาย และเพิ่งมาพบศพติดอยู่ที่ซอกของร่องน้ำ ปากประตูระบายน้ำด้านบนฝั่งตรงข้ามกับปากร่องน้ำด้านล่างใต้แนวสันเขื่อนที่สูญหายไปเมื่อช่วงเย็นวานนี้ โดยที่ตัวของนายดุสิต ยังคงมีถุงตาข่ายไนล่อนสำหรับใส่กุ้งติดอยู่ที่เอวพร้อมกุ้งจำนวน 6 ตัว และไฟฉาย โดยที่มือยังคงกำเหล็กแหลมที่ดัดแปลงมาเป็นฉมวกเอาไว้แน่น รวมถึงที่เอวยังคงมีตุ้มถ่วงน้ำหนักรัดติดอยู่ด้วย นางต้น ระบุ
หลัง จนท.อาสากู้ภัยนำร่างของผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากน้ำ ทางฝ่ายภรรยา คือ น.ส.ตา วัย 29 ปี พร้อมด้วยบุตรสาววัย 7 ขวบและ 4 ขวบ 2 คนต่างพากันร้องไห้โฮด้วยความโศกเศร้า โดยนายดุสิต เป็นหนุ่มรูปร่างใหญ่ ตัวอ้วนและมีน้ำหนักมากประมาณ 140 กก. สูงประมาณ 180 ซม. ซึ่งญาติได้เตรียมเคลื่อนย้ายศพไปบำเพ็ญกุศลยังที่บ้านเกิดตามภูมิลำเนาใน ต.ศรีสุข อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น ต่อไป
ขณะที่ชาวบ้านใน ต.คลองจุกเฌอ ต่างเล่าขานกันว่าในบริเวณดังกล่าวมีคนหาปลาหากุ้งมาเสียชีวิตในบริเวณนี้มาแล้วประมาณ 5 คน โดยคนก่อนหน้านี้เป็นคนยิงปลา ที่ถูกเชือกจากปืนยิงปลาที่ยิงพันรัดติดแน่นจนจมน้ำเสียชีวิต ส่วนรายที่เพิ่งมาเสียชีวิตครั้งนี้ วันนี้ยังตรงกับวันพระใหญ่อีกด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: