ฉะเชิงเทรา – เปิดปลาหมอคางดำทิ้งทะเล หลังกรมชลประทานสูบระบายน้ำในพื้นที่พบการระบาดของสัตว์น้ำเอเลี่ยนสปีชีส์ทิ้งลงสู่ทะเลชายฝั่ง ใกล้ปากอ่าวแม่น้ำบางปะกง ขณะชาวบ้านเผยพบปลาหมอสีอีกอื้อในลำน้ำคลองขุดใหม่ ลำคลองสายใหญ่เลียบถนนสุขุมวิทสายเก่า ระบุมีเขี้ยวคมดุร้ายยิ่งกว่าไอ้ดางดำ ไล่กวดขย้ำปลาชนิดอื่นในพื้นถิ่นจนเนื้อกระจุย
วันที่ 1 ส.ค.67 เวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้เดินทางเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมีชาวบ้านระบุว่าทางกรมชลประทานได้มีการยกเปิดบานประตูระบายน้ำทิ้งออกจากคลองขุดใหม่เลียบชายถนนสุขุมวิทสายเก่า (ทางหลวงแผ่นดินสาย 3) จำนวนหลายจุดเพื่อระบายน้ำฝนที่ตกลงมาต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวันในพื้นที่ลุ่มน้ำภาคกลางรวมถึง กทม. ลงสู่ทะเลบริเวณใกล้กับปากอ่าวแม่น้ำบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นพื้นที่พบการระบาดเข้ามาของปลาหมอคางดำ ตามที่มีชาวบ้านใช้เครื่องมือประมงจับขึ้นมาได้เกือบทุกวัน
ซึ่งพบว่าที่บริเวณประตูระบายน้ำคลองผีขุด ในพื้นที่ ม.15 ต.บางปะกง นั้นมีการเดินเครื่องสูบระบายน้ำทิ้งขนาดปากท่อระบายประมาณ 1 เมตรไว้จำนวน 1 เครื่อง ส่วนที่สถานีสูบน้ำปากคลองพระยาวิสูตร ได้มีการหยุดเดินเครื่องสูบระบายน้ำทิ้งไปแล้วเมื่อเวลาประมาณ 08.30 น. ที่ผ่านมา สอบถาม นายสมชาย บุญเทศ อายุ 59 ปี ชาวบ้าน ม.3 ต.สองคลอง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงทรา ผู้มีบ้านเรือนพักอาศัยอยู่ติดริมคลองใหม่ใกล้กับประตูระบายน้ำพระยาวิสูตร กล่าวว่า
ทางชลประทานได้มีการระบายน้ำทิ้งออกจากคลองใหม่ ซึ่งเป็นคลองที่เชื่อมต่อมาจากคลองด่าน จ.สมุทรปราการ และลำคลองทางตอนบนหลายสาย ที่ถูกใช้เป็นเส้นทางระบายน้ำจากทางภาคกลางและภาคเหนือลงสู่ทะเล เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา และได้มีการหยุดเดินเครื่องสูบน้ำลงเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งคลองสายนี้ชาวบ้านใช้เครื่องมือประมงพื้นบ้าน ทั้งตาข่ายและลอบดักปลา ดักได้ปลาหมอคางดำเข้ามาติดอยู่ในลอบปนกับปลานิลและปลาชนิดอื่นเกือบทุกครั้ง อย่างน้อย 1-3 ตัว ขนาดประมาณ 2-3 นิ้ว
จึงเชื่อว่าการสูบระบายน้ำในคลองทิ้งออกสู่ทะเล ตลอด 2 วันที่ผ่านมานั้น น่าจะมีปลาหมอคางดำถูกระบายทิ้งลงสู่ทะเลไปกับน้ำด้วย และอาจจะไปแพร่ระบาดต่อยังที่แนวป่าชายเลนใกล้กับแนวชายฝั่งหรือไม่ นอกจากนี้ในลำคลองสายนี้ยังพบปลาหมอสีคางลาย ที่มีการระบาดเข้ามานานแล้ว และมักจะดักลอบติดได้ขึ้นมาทุกครั้งด้วยเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังพบลูกปลาหมอสีขนาดเล็กชุกชุมอยู่ในลำคลองสายนี้เป็นจำนวนมากด้วย ทั้งยังพบได้บ่อยกว่าปลาหมอคางดำ ตัวขนาดประมาณ 3-4 นิ้ว
ปลาหมอสีจะมีลักษณะส่วนหัวที่โหนกกว่าปลานิลหรือปลาหมอคางดำ ส่วนใหญ่จะอยู่กันเป็นคู่จับได้ครั้งละประมาณ 3 คู่ หากดักตาข่ายหรือลอบทิ้งเอาไว้ข้ามคืน จะกู้ได้ปลาหมอสีทุกวัน โดยปลาหมอสีนั้นยังมีนิสัยที่ดุร้ายมากยิ่งกว่าปลาหมอคางดำอีกหลายเท่าตัว ทั้งยังมีเขี้ยวที่ยาวและแหลมคมกว่า สามารถกัดกระชากปลาช่อน ปลานิลจนเนื้อขาดกระจุยหลุดลุ่ยลอยตายในน้ำได้ด้วย หากนำมาขังรวมกัน หรือปนอยู่ในลอบ อยู่ในกระชังเดียวกัน
ชาวบ้านส่วนใหญ่เมื่อจับได้จะนำไปสับใช้เป็นอาหารเลี้ยงปลา และเลี้ยงกุ้งก้ามกราม และหากตัวใหญ่มาก ประมาณ 3 นิ้วขึ้นไป จึงจะนำไปทำเป็นอาหารบริโภคกันในครัวเรือน นายสมชาย กล่าว
ขณะที่ นายสมศักดิ์ บุตรโสภา อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/2 ม.2 ต.สองคลอง กล่าวว่า ตนเองดักลอบในคลองขุดใหม่จำนวน 3 ใบและมักจะดักได้ปลาหมอคางดำติดมาด้วยทุกครั้ง อย่างน้อยวันละ 1-2 ตัวขนาดประมาณ 2 นิ้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะนำไปต้มให้แมวกิน และหากได้ตัวใหญ่ 3-4 นิ้วจึงจะนำมาใส่เกลือทอดกินกันในครอบครัว นอกจากนี้ยังได้ปลาหมอสีติดมาด้วย วันละประมาณ 3-5 ตัว ซึ่งหากตัวไม่ใหญ่ขนาดไม่เกิน 2 นิ้ว จะนำไปต้มให้แมวกินเช่นกัน
หากได้ตัวใหญ่ ขนาด 3-4 นิ้วจึงจะนำไปทอดกินเป็นอาหาร โดยตัวปลาหมอสีและปลาหมอคางดำนั้น ลำตัวจะหนากว่าปลานิลและเนื้อจะแข็งกว่าปลานิล ส่วนใหญ่จะนำไปใส่เกลือทอดกินเพียงอย่างเดียวไม่ได้ปรุงเป็นอาหารในรูปแบบอื่น รสชาติจึงออกมาเค็มๆ มันๆ แต่หลังทางชลประทานมีการเปิดระบายน้ำทิ้ง จึงดักปลาไม่ได้เพราะน้ำไหลแรง โดยเห็นทางชลประทานเปิดระบายน้ำออกลงสู่ทะเลเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.เมื่อวานนี้ และปิดในช่วงกลางดึก และเมื่อเช้าก็ยังเห็นว่ามีการเปิดระบายน้ำอยู่ และเพิ่งจะมาปิดการระบายน้ำเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ กล่าว
