ฉะเชิงเทรา – หมาเศร้า เจ้าของไม่กลับบ้านบ่อยครั้ง ถูกปล่อยทิ้งจนหิวโซอดตายคาโซ่ที่ล่ามขังทิ้งไว้ภายในบ้าน ทำชาวบ้านสุดทนร้องสื่อช่วยตัวที่ยังเหลือรอดชีวิต ขณะหลายองค์กรพยายามยื่นมือหาทางออก จนมีผู้ใจดีอยากขอซื้อออกไปจากแดนเวทนา ให้ผู้ใจบุญและมีความพร้อมเลี้ยงดูแลต่อ แต่เจ้าของยื้อยันไม่ขายทำคนรักสุนัขและอยากช่วยเหลือเอาบุญถึงกับน้ำตาตกต่อหน้า จนท.ตำรวจ
วันที่ 16 ก.ย.67 เวลา 07.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก ดร.ปาณิสรา จันทร์แจ้ง ซึ่งเป็นตัวแทนชาวบ้านกลุ่มผู้รักสุนัข ภายในหมู่บ้านวงศกรเพลส พื้นที่ ม.3 ต.บางตีนเป็ด อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ว่าได้มีเจ้าของบ้านหลังหนึ่ง ตั้งอยู่กลางหมู่บ้านใกล้กับสวนสาธารณะ เลี้ยงสุนัขเพศผู้สายพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้เอาไว้จำนวน 2 ตัว แต่ถูกปล่อยปละละเลยให้อดอาหารและน้ำ เนื่องจากเจ้าของไม่ค่อยได้เดินทางกลับมาอยู่ที่บ้าน
ข่าวน่าสนใจ:
- เปิดสะพานข้ามแยกสระขวัญชั่วคราวช่วงเทศกาลปีใหม่ จ.สระแก้ว ส่วนเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอ่างฤาไนเปิดใช้เส้นทางช่วงกลางคืน
- ปราจีนบุรี สาวแม่ลูกอ่อนผวา ช้างป่าพี่งาเดียว เดินในหมู่บ้านตอนเที่ยง
- กองเชียร์นายกก้อยคึก แม้ไม่มีคู่แข่งดีกรีพอทาบบารมีได้ ในสนามชิงนายก อบจ.แปดริ้ว
- พบลูกหลาน “ตันเจริญ” โผล่สมัคร ส.อบจ.ใน 2 เขตเลือกตั้ง
จนทำให้สุนัขนอนทนรอคอยเจ้านาย หรือเจ้าของเป็นเวลายาวนานหลายวันไม่ไหว ประกอบกับความอดอยากและหิวโซ จึงได้พากันปีนรั้วออกไปหาอาหารกินตามบ้านเรือนของชาวบ้าน และด้วยความสงสารตนเองจึงได้ให้อาหารและน้ำและโอบกอดเลี้ยงดูเขาทั้งสองตัว เมื่อเห็นเขาเข้ามาในบ้าน และติดตามหาเจ้าของจนทราบจากชาวบ้านในหมู่บ้านเดียวกันว่าสุนัขทั้งสองตัวนี้เป็นของชายหนุ่มรายหนึ่งวัย 27 ปีในหมู่บ้านเดียวกัน และได้ให้เขาเข้ามารับสุนัขกลับไปเลี้ยง เมื่อประมาณเดือน พ.ค.67 ที่ผ่านมา
แต่ต่อมาเจ้าของก็ยังคงปล่อยสุนัขทิ้งไว้ในบ้านอีก และไม่ได้กลับมาดูแลเป็นเวลาหลายวัน จนทำให้สุนัขมักจะปีนรั้วออกมาจากบ้านอีกหลายครั้ง และได้ปีนขึ้นไปนอนบนฝากระโปรงรถของชาวบ้านที่จอดทิ้งไว้ริมข้างทาง จนได้รับความเสียหาย จนมีคนเห็นถึงความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นที่ชาวบ้านอาจจะได้รับผลกระทบอีก จากการปล่อยปละละเลยให้สุนัขอดหิวโซ และปีนออกมาสร้างความเดือดร้อนอยู่ภายนอกบ้าน จึงได้ให้เงินจำนวน 500 บาทแก่ทางเจ้าของสุนัขเมื่อเขากลับมา ให้นำไปซื้อโซ่มาล่ามไว้
ต่อมาสุนัขทั้งสองตัวจึงได้ถูกนำมาล่ามทิ้งไว้ที่บริเวณลานหน้าบ้าน ตากแดดตากฝนมีเพียงร่มเงากิ่งไม้ ยื่นมาบังไอแดดที่ร้อนจัดให้เท่านั้นในเวลากลางวัน และส่งเสียงร้องโหยหวนในเวลากลางคืนด้วยความอดอยากหิวโซ รบกวนชาวบ้านไปทั่วโดยรอบบริเวณ จนชาวบ้านทนไม่ไหว ต่างต้องพากันมาช่วยนำอาหาร ข้าวและน้ำมาให้สุนัขกินอีก และในบางครั้งสุนัขถูกล่ามโซ่ที่สั้นลงหรือโซ่พันติดกัน และอยู่ลึกเข้าไปไกลจากแนวรั้วด้านในตัวบ้านมาก ชาวบ้านยังได้พยายามหาท่อนไม้ยาวๆ มาเขี่ยกล่องใส่อาหารเพื่อส่งไปให้สุนัขทั้งสองตัวกินยังด้านใน
ในบางวันสุนัขยื่นปากมาไม่ถึงกล่องอาหาร แต่ด้วยความหิวโซ ถึงกับต้องออกแรงที่ยังเหลืออยู่พยายามลากล้อรถยนต์ขนาดใหญ่ ที่โซ่เกี่ยวคล้องล่ามไว้ออกมาจนสามารถกินอาหารได้ เป็นที่น่าเวทนาต่อสายตาชาวบ้าน แต่เมื่อเจ้าของบ้านรู้ว่าชาวบ้านไม่พอใจที่สุนัขส่งเสียงรบกวน และยังนำอาหารมาให้กินอีก จึงได้ย้ายสุนัขไปล่ามให้ไกลออกไป จึงทำให้สุนัขที่ชื่อ “ไข่เจียว” อดอาหารจนตายไป 1 ตัว และเมื่อเริ่มส่งกลิ่นเหม็นชาวบ้านจึงทราบ จากนั้นได้พยายามร้องขอความช่วยเหลือไปยังองค์กรที่เกี่ยวข้องกับสุนัขให้มาช่วย แต่ยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก เนื่องจากทางเจ้าของไม่ยินยอมให้ความร่วมมือใดๆ
ล่าสุดเมื่อวานนี้ ชาวบ้านได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ลงไปตรวจสอบและขอให้ช่วยเจรจากับทางเจ้าของสุนัข หลังจากที่มีผู้ใจบุญอยากจะขอซื้อสุนัขตัวที่เหลืออีก 1 ตัวคือ “เจ้าไข่ตุ๋น” ที่ยังรอดชีวิตอยู่ในราคา 5 พันบาท เพื่อนำไปให้แก่ผู้ใจบุญ ซึ่งเป็นข้าราชการเกษียณอายุที่อยากจะรับเลี้ยงและดูแลแทนต่อไป แต่ทางเจ้าของสุนัขกลับไม่ยินยอมขายให้ โดยบอกว่าจะกลับมาดูแลเลี้ยงดูเอง และยังอ้างว่าได้ฝากเพื่อนบ้านให้มาช่วยเลี้ยงดูให้
แต่ชาวบ้านต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า เจ้าของไม่ได้ฝากใครให้มาช่วยเลี้ยงดู เพียงแต่มีชาวบ้านที่รู้สึกเวทนาสงสารนำอาหารมาให้กิน และจากการที่ถูกล่ามโซ่ไว้กับล้อยางรถยนต์แบบตากแดดตากฝน จึงทำให้สุนัขพยายามที่จะดิ้นให้หลุดพ้นจากการพันธนาการ จึงทำให้ขาหลังของเจ้า “ไข่ตุ๋น” เดินผิดปกติเสียการทรงตัวไปแล้ว ชาวบ้านจึงแจ้งไปยังปศุสัตว์อำเภอเมืองฉะเชิงเทราแล้ว เมื่อวานนี้ (15 ก.ย.67) แต่ยังไม่มีใครเข้ามาตรวจสอบ
อีกทั้งเจ้าของสุนัขยังได้ต่อว่ากลุ่มชาวบ้าน ที่พยายามจะเข้ามาให้การช่วยเหลือสุนัขต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งนำโดย ดต.วรพจน์ ฤกก์เรืองฤทธิ์ เจ้าหน้าที่สายตรวจประจำตำบลบางตีนเป็ด ต.คลองนา และ ต.บางไผ่ จนทำให้ นางปาลิดา อุ่มจิ้นสา อายุ 46 ปี คนรักสุนัข ซึ่งเป็นชาวบ้านผู้ที่พยายามจะเข้ามาหาทางช่วยเหลือสุนัขทั้ง 2 ตัว จากเจ้าของที่ปล่อยปละละเลยถึงกลับน้ำตาตกกลับบ้านไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: