ฉะเชิงเทรา – เครื่องบินตกครบ 2 เดือนเต็ม ชาวบ้านยังคงสนใจขับรถวนเวียนเข้ามาดูถึงยังในที่เกิดเหตุ ส่วนฝ่ายทาง จนท. และผู้เกี่ยวข้องกลับเงียบหาย ทำสังคมค้างคาอยู่ในใจถึงสาเหตุการตก ขณะหลุมจุดเครื่องตกเริ่มมีตะไคร่น้ำและสาหร่ายขึ้นปกคลุมจนกลายเป็นบ่อน้ำสีเขียวสด พร้อมยังพบมีชิ้นส่วนเศษซากตัวเครื่องและของใช้ผู้มาบนเครื่อง ยังคงหลงเหลือผุดโผล่ขึ้นมาให้เห็นจากดินโคลนหลังถูกฝนชะล้าง
วันที่ 23 ต.ค.67 เวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายสำราญ สุดศักดิ์ดา อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 ม.6 ต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ชาวบ้านอยู่ใกล้เคียงกับจุดเครื่องบินเล็กยี่ห้อเชสนา รุ่นคาราวาน C208 เที่ยวบิน TFT209 สุวรรณภูมิ-เกาะไม้ชี้ ตกในพื้นที่ ม.6 ต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 22 ส.ค.67 ที่ผ่านมา ตามที่ได้มีการรายงานข่าวต่อเนื่องเมื่อกว่า 2 เดือนที่ผ่านมาว่า หลังจากที่ได้มีเจ้าหน้าที่ AAIC หรือคณะกรรมการสอบสวนกรณีเกี่ยวกับอุบัติเหตุของอากาศยาน สำนักปลัดกระทรวงคมนาคม
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง ทดลองล้อมคอกหญ้าทะเล เร่งหาทางออกฟื้นฟูหญ้าทะเล ภาระกิจด่วนทำแข่งกับเวลาที่เหลืออยู่กับความอยู่รอดของพะยูน
- ท่องเที่ยว ประจวบฯ-เพชรบุรี เติบโตต่อเนื่อง คาดคริสต์มาส และเทศกาลปีใหม่ ท่องเที่ยวคึกคักส่งท้ายปี
- กระบะชิ่งอัดท้าย 18 ล้อร่างติด คาซากรถ จนท เร่งใช้อุปกรณ์ตัดถ่างช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย
- ฝูงปลาแหวกว่ายบนถนนบางนาตราด หลังน้ำทะเลหนุนสูงท่วมบางปะกง
พร้อมกับทางบริษัทไทยฟลายอิ้งเซอร์วิส จำกัด ผู้เป็นเจ้าของเครื่องบิน ได้เดินทางลงพื้นที่มาเก็บซากชิ้นส่วนเพิ่มเติมเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 6 ก.ย.67 ภายในป่าแสมหลังวัดเขาดินแล้ว จากนั้นไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานใดลงมาในพื้นที่อีกเลย มีเพียงชาวบ้านผู้สนใจที่ขับรถวนเวียนเข้ามาดูถึงยังในที่เกิดเหตุจุดเครื่องบินตกเป็นระยะเท่านั้น โดยยังเป็นจุดสนใจของผู้ที่ขับรถผ่านมา ที่ส่วนใหญ่มักจะพากันชะลอรถแล้วหันมามองดูก่อนที่จะขับเลยไป
นอกจากนี้ยังพบว่าในที่เกิดเหตุ ยังคงมีชิ้นส่วนที่แตกละเอียดกระจัดกระจายเกลื่อนอยู่ทั่วบริเวณ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นซากชิ้นส่วนของตัวเครื่อง ชิ้นเล็กชิ้นน้อย โดยทราบว่าในส่วนของหัวเครื่องบินที่จมลึกอยู่ภายในบ่อโคลนนับ 10 เมตรนั้น ยังไม่ได้มีการขุดนำขึ้นมาจากหลุม และไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาเอาขึ้นออกไปจากพื้นที่หรือไม่ นายสำราญ กล่าว
ขณะที่ นายกัญจน์กนก สว่างแจ้ง อายุ 56 ปี เจ้าของบ้านที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเต็นท์กองอำนวยการอุบัติเหตุฉุกเฉินเครื่องบินตก กล่าวว่า นับจากเมื่อวันที่เจ้าหน้าที่ AAIC ลงพื้นที่มาเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 6 ก.ย.67 ที่ผ่านมา ในพื้นที่ไม่ได้มีความเคลื่อนไหวใดๆ เกิดขึ้นอีกเลย จึงไม่ทราบถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้อีก และยังไม่รู้สาเหตุของการตกหรือมีการชดใช้ค่าเสียหายกันอย่างไรไปบ้างแล้วหรือไม่ โดยในพื้นที่คงมีแต่ความเงียบสงบ นายกัญจน์กนก กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า บริเวณจุดเกิดเหตุเครื่องบินเล็กตกนั้น เริ่มมีหญ้าขึ้นรกปกคลุมพื้นดินแล้วโดยเฉพาะจุดตั้งเต็นท์กองอำนวยการศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ฉุกเฉินนั้น มีวัชพืชขึ้นยาวมากถึงกว่า 50 ซม.แล้ว ขณะที่ภายในหลุมบ่อโคลนที่มีการขุดคุ้ยค้นหาซากเครื่องบินนั้น ได้มีวัชพืชน้ำ เช่น สาหร่าย และตะไคร่น้ำ ขึ้นปกคลุมผิวน้ำจนดูเขียวขจีไปทั่วทั้งบ่อ
นอกจากนี้ยังพบชิ้นส่วนเศษซากของตัวเครื่องบิน และอุปกรณ์ภายในตัวเครื่องที่แตกละเอียดกระจัดกระจายไปบนพื้นดินจนทั่วบริเวณ หลังจากถูกน้ำฝนชะล้างเศษดินโคลนจนหลุดร่อนออก ทำให้สามารถมองเห็นเศษซากได้อย่างชัดเจน ว่าเป็นชิ้นของส่วนใดบ้าง อีกทั้งยังพบสิ่งของเครื่องใช้ เช่น เสื้อผ้ารองเท้าสิ่งของที่ติดตัวมากับคนบนเครื่องรวมถึงอุปกรณ์เซฟตี้ประจำเครื่อง ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ และยังมีกล่องพลาสติก ตะกร้าสำหรับรวบรวมใส่เศษชิ้นส่วนมนุษย์ระหว่างการค้นหา วางทิ้งไว้ในบริเวณที่เกิดเหตุด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: