ฉะเชิงเทรา – สจ.เปี๊ยกไม่ปลื้ม “นายกไก่เปลี่ยนใจ ยอมสยบฉายแสง” ยกทัพทีม ส.อบจ.กว่า 10 คนเข้าทวงถามความชัดเจน ก่อนถูกชวนเข้าห้องเจรจาจบด้วยดี สุดท้ายกลับออกมาอ้อมแอ้มเปลี่ยนเป็นการมาให้กำลังใจ “นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์” แทน บอกทีมงาน “แปดริ้วโฉมใหม่” ยังคงอยู่เหมือนเดิม เผยการทำงานหลังจากนี้ให้เป็นหน้าที่ผู้ใหญ่ไก่คอยจัดการประสานความร่วมมือระหว่างกัน
วันที่ 16 ธ.ค.67 เวลา 11.20 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณห้องโถงชั้น 2 หน้าสำนักงาน ห้องนายก อบจ.ฉะเชิงเทรา ได้มีกลุ่ม ส.อบจ.จากในพื้นที่ต่าง ๆ ในหลายอำเภอจำนวนกว่า 10 คนที่ใกล้จะครบวาระลงในวันที่ 19 ธ.ค.67 นี้ ได้เดินทางบุกเข้ามาทวงถามถึงความชัดเจนในการจัดสรรหรือแบ่งพื้นที่การลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.อบจ. จากนายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ (นายกไก่) นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา ที่กำลังจะหมดวาระลงพร้อมกันนี้
ข่าวน่าสนใจ:
- เพชรบูรณ์ - ปชช.ใช้สิทธิเบาบาง เหตุเลือกแค่นายกฯ ไม่ได้เลือก ส.อบจ.ควบคู่ ขาดแรงจูงใจ
- น้องขวัญ นายก อบจ.นครพนม ลาออก ก่อนครบวาระ 3 วัน จ่อลงชิงป้องกันแชมป์
- ยกสุดท้าย! "อัคร" ส.ส.เพชรบูรณ์ ช่วยพ่อเคาะประตูขอคะแนน ชิงนายก อบจ.เพชรบูรณ์
- ขอโทษที่เปลี่ยนใจ นายกไก่หวั่นผิดคำพูดเคยลั่นหาก “ฉายแสง” ลงแข่งจะไม่ขอสู้
หลังจากต่างพากันทราบข่าวตามกระแสสื่อ ทั้งสื่อกระแสหลักและสื่อโซเชียล จากการที่นายกไก่ ได้มีการอัดคลิบวีดีโอ ประกาศสนับสนุน นายกลยุทธ ฉายแสง นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ให้มาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.ฉะเชิงเทรา ในสมัยต่อไป พร้อมกับยังมีภาพของการจับมือกันถูกเผยแพร่ออกมาทางสื่อโซเชียลอย่างชัดเจน จนทำให้ ส.อบจ.ในเขตพื้นที่เกิดความหวั่นไหวกันว่า จะได้รับการจัดสรรให้ลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตพื้นที่ของตนเองต่อไปอีกหรือไม่ เพราะหากมีการรวมตัวกันแล้ว ต่างฝ่ายก็ต่างมีคนของตนเองอยู่ในพื้นที่
โดยในทันทีที่นายกิตติ ได้เดินทางเข้ามายังสำนักงานเมื่อเวลา 11.35 น. นายวรรณา รอดพิทักษ์ (สจ.เปี๊ยก) รองนายก อบจ.ฉะเชิงเทรา ได้เดินตรงเข้าไปสอบถามเพื่อขอพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว พร้อมกับมีกลุ่ม ส.อบจ. ที่ต่างพากันลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งรอคอยอยู่ก่อนหน้า เดินตามมาเพื่อสอบถามถึงความชัดเจนด้วยท่าทีที่เคร่งเครียด ก่อนที่ นายกิตติ จะรีบเชิญชวนกลุ่มของ สจ.เปี๊ยก เข้าไปพูดคุยร่วมกันภายในห้องประชุมขุนสมาน
โดยที่นายกไก่ ได้ชี้แจงให้กลุ่ม ส.อบจ.ทราบว่า หาก ส.อบจ.รายใดได้มีการประกาศเปิดตัวที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งไว้ก่อนหน้าแล้ว ก็ให้ลงสมัครรับเลือกตั้งต่อไปได้ และยังจะมีการสนับสนุนกันต่อไปโดยที่จะไม่ทอดทิ้งกัน ส่วนพื้นที่ไหนที่อีกฝ่ายหนึ่งมีคนที่กำลังจะลงสมัครรับเลือกตั้งด้วย จะมีการช่วยไปเจรจาให้ ซึ่งจะยินยอมหรือไม่นั้นไม่แน่ชัด โดยได้มีการพูดคุยกันอยู่ภายในห้องประชุมเป็นเวลานานกว่าครึ่ง ชม. ก่อนที่ทั้งหมดจะพากันเดินออกมาจากภายในห้องประชุม
ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามจากนายวรรณา รอดพิทักษ์ หรือ สจ.เปี๊ยก คนดังถึงรายละเอียดในการรวมตัวและพากันเดินทางมาพบกับ นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ ในวันนี้รวมถึงการพูดคุยเจรจาตกลงกันนั้น ว่าได้ข้อยุติอย่างไรบ้าง สจ.เปี๊ยก ได้บ่ายเบี่ยง ให้ไปถามจากทางนายกไก่ ที่จะเป็นผู้ตอบคำถามแทน โดยระบุว่าทั้งหมดนั้นอยู่ที่นายกไก่ ว่าจะจัดการอย่างไร เพราะทีมงาน “แปดริ้วโฉมใหม่” ก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม มีอะไรให้สอบถามโดยตรงจากทางนายกไก่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดจึงนัดมารวมตัวกันในวันนี้ นายวรรณา ตอบว่า ไม่ได้นัดมารวมตัวกัน เขามากันเอง เพื่อมาสอบถามและมาให้กำลังใจนายกไก่ วันนี้การเมืองก็คือการมาสอบถามเรื่องการเลือกตั้งหมายถึงทีมงานแปดริ้วโฉมใหม่ ทางนายกกิตติ ก็ยังดูแลทีมงานของท่านตลอดไป ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า อย่างนี้จะปรับการทำงานอย่างไร สจ.เปี๊ยกตอบว่า เมื่อถึงเวลาเมื่อเขาไปรวมกันแล้ว หลังจากเลือกตั้งเสร็จจึงจะมารวมกัน
เพราะทางนายกไก่ เขาจับมือกันแล้วก็คงจับมือกัน ถึงเวลาทุกคนก็มาทำงานด้วยกัน เมื่อถามว่าจะลำบากใจไหม ในการทำงานต่อไปเพราะเคยอยู่คนละทีมกัน นายวรรณา ตอบว่าคงไม่มีอะไร เพราะอยู่ที่ฝ่ายบริหาร โดยนายกไก่ท่านรับผิดชอบ ท่านดูแลคอยกำกับประสานงานให้อยู่แล้ว จึงไม่น่ามีปัญหาอะไร นายวรรณา กล่าว
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามจากนายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา ว่า หลังจากนายกไก่มีการประกาศจับมือกับทางนายกลยุทธ ฉายแสง และจะสนับสนุนให้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.คนต่อไปนั้นทางกลุ่ม ส.อบจ.ที่เคยอยู่ร่วมกันในทีมงานแปดริ้วโฉมใหม่ได้ยินยอมหรือไม่ นายกิตติ ตอบว่า ส.อบจ.นั้นให้เขาลงสมัครแข่งขันรับเลือกตั้งเหมือนเดิม หากอีกฝ่ายมี ส.อบจ.อยู่ในพื้นที่ด้วยก็ต้องต่างคนต่างลงสู้กัน หากเจรจายุติกันได้ก็ไม่ต้องลงแข่งกัน
หากยุติกันไม่ได้ ก็ให้แข่งขันกันไป แล้วแต่พี่น้องประชาชนจะตัดสินใจว่าจะเลือกใครรักใครก็ลงคะแนนให้คนนั้น เราต่างคนต่างทำงานร่วมกัน ต่างคนต่างอยากที่จะลงสมัครเหมือนกัน เราก็ห้ามกันไม่ได้จึงต้องปล่อยให้ลงกันไปว่ากันไป แล้วแต่ใครจะได้รับชัยชนะ จากนั้นจึงค่อยมาทำงานร่วมกัน เมื่อถามว่าประชาชนที่ยังรักหรืออยากจะเลือกที่ตัวนายกไก่อยู่ เขาจะมองว่าเขาถูกมัดมือชกให้เลือกบุคคลที่ถูกกำหนดมาให้เลือกไว้หรือไม่
นายกิตติ ตอบว่า เราไปทำงานร่วมกันแล้วจะไปคิดอย่างนั้นไม่ได้ ตอนนี้ต้องบอกว่าถ้ารักผมก็ช่วยนายกลยุทธ ฉายแสง หากถ้าไม่รักผมก็อยู่เฉย ๆ ก็ได้ แล้วแต่พี่น้องประชาชน แต่เราใช้ระบบประชาธิปไตยช่วยลงคะแนนให้กันจะดีกว่า เพราะผมจะทำงานร่วมกันอย่างมีความสุขเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันแล้วไม่ต้องกังวลอะไร เพราะเราทำเหมือนกันหมดเพื่อประชาชนชาว จ.ฉะเชิงเทรา นายกิตติ ยังกล่าวต่ออีกว่า หลังจากนี้จะไปทำหน้าที่คอยช่วยดูแลทุกข์สุขของพี่น้อง ปชช.ชาว จ.ฉะเชิงเทราเหมือนเดิม ไม่ว่าจะมีตำแหน่งหรือไม่มีก็ตาม ซึ่งแล้วแต่นายกลยุทธ ฉายแสง
โดยในวันนี้ที่มีกลุ่ม ส.อบจ.เดินทางมาพบนั้น ไม่ได้มีอะไรเป็นการเดินทางมาให้กำลังใจแก่ตนเอง และขอเป็นกำลังใจให้แก่ทาง ส.อบจ.ทุกคน ที่กำลังจะลงสมัครรับเลือกตั้งโดยไม่ได้มีปัญหาอะไร หากตั้งใจจะลงแล้วก็ขอให้ลงต่อไป และหากไม่ตั้งใจลงก็ไม่เป็นอะไร เพราะทุกคนก็อยากที่จะมีตำแหน่งหน้าที่ เป็นสมาชิกสภาจังหวัด เพื่อที่จะได้รับใช้พี่น้องประชาชน
สำหรับการที่ตนไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ. เพื่อรับใช้พี่น้องประชาชนชาว จ.ฉะเชิงเทรานั้น เนื่องจากปัญหาสุขภาพเพราะอายุเริ่มมากขึ้น และยังคงนึกถึงบุญคุณของ นายอนันต์ ฉายแสง ซึ่งบุตรชายของท่าน นายกลยุทธ ฉายแสง จะมาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ. จึงได้ตัดสินใจว่า เมื่อ ฯพณฯ อนันต์ ฉายแสง มีบุญคุณกับตนในการสนับสนุนให้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.ฉะเชิงเทรา เมื่อปี พ.ศ.2547 ครั้งนี้จึงได้ตัดสินใจให้ นายกลยุทธ ฉายแสง ได้รับใช้พี่น้องชาว จ.ฉะเชิงเทรา และทำงานร่วมกันในแนวทางเดียวกันต่อไป นายกิตติ กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: