ฉะเชิงเทรา – ประเดิม 10 วันอันตรายแปดริ้ว 27 ธ.ค.67 – 5 ม.ค.68 วันแรกยักษ์โหม่งยักษ์ดับ 1 คามอเตอร์เวย์สาย 7 หลังพ่วง 22 ล้อ เกิดอุบัติเหตุพุ่งเฉี่ยวชนท้ายรถยนต์กระบะ ก่อนจอดลงเจรจาเคลมประกัน แต่ถูกพ่วง 18 ล้ออีกคันขับพุ่งเข้ามาเสยท้ายขณะคนขับคันแรกกำลังลงไปตรวจสอบสภาพความพร้อมก่อนออกรถ หลังทำการเคลมประกันเสร็จสิ้น จนถูกพุ่งชนอัดก็อปปี้ติดคาใต้ซากดับอนาถคาที่
วันที่ 27 ธ.ค.67 เวลา 05.15 น. พ.ต.ท.ภครพล สิริวุฒิกะประภา สารวัตรเวรสอบสวน สทล.1 กก.8 บก.ทล.หน่วยสอบสวนจุดพักรถเขาดิน ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์พ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 22 และ 18 ล้อพุ่งชนกันจนทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย ที่บริเวณทางเบี่ยงเข้าจุดพักรถเขาดินด้านฝั่งขาเข้า กทม. ระหว่างหลัก กม.ที่ 49+800-900 พื้นที่ ม.1 ต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ
ข่าวน่าสนใจ:
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันแรก หัวลากยี่ห้อยูดีสีขาว ทะเบียน 75-1848 ชลบุรี ทะเบียนหางพ่วงหลุดหาย บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์สีแดง มีร่องรอยของการพุ่งชนที่บริเวณกันชนหน้าด้านขวาเล็กน้อย ส่วนหางท้ายพ่วงมีร่องรอยของการถูกพุ่งชนอย่างรุนแรง จนกันชนหลังยุบตัวเข้าไปยังด้านในท้ายรถ และเพลาล้อหลังหลุดบิดเสียรูปทรง โดยมีหัวลากของรถบรรทุกพ่วงอีกคัน หมายเลขทะเบียน 71-4656 ฉะเชิงเทรา ทะเบียนหางพ่วง 71-2771 ฉะเชิงเทรา พุ่งเข้ามาอัดติดแน่นอยู่ที่ท้ายรถ
โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ภายในหัวลากคันหลัง 1 ราย ที่บริเวณเบาะที่นั่งคนขับทราบชื่อ คือ นายวิษณุ วงค์รอด อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 ม.9 ต.บางเคียน อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ โดยมีอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทราได้ทำการช่วยเหลือตัดถ่าง นำตัวออกมาซากรถได้จนสำเร็จ พบมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย มีบาดแผลที่บริเวณหางคิ้วด้านขวาเพียง 1 แผลเท่านั้น ขณะที่บริเวณใต้ท้องรถของหัวลากคันหลัง ซึ่งอยู่ในสภาพเพลาล้อหน้าหลุดบิดเอียงขึ้นไปยังที่ด้านบนเหนือแซสซี
ยังพบร่างของผู้เสียชีวิตถูกคานแซสซีของตัวรถกดทับจนร่างแบนติดอยู่กับพื้นถนนเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อ คือ นายชัยชนะ ใจกล้า อายุ 46 ปี ชาว จ.ชลบุรี นอกจากนี้ในบริเวณพื้นที่โดยรอบยังพบชิ้นส่วนของตัวรถและคราบน้ำมันปลิวกระจัดกระจายเกลื่อนไปทั่วบริเวณ โดยพบรอยเบรกและจุดที่คาดว่าเป็นบริเวณของการพุ่งชนอยู่ห่างออกไปจากจุดที่ตัวรถหยุดนิ่ง ประมาณ 40-50 เมตร และยังทำให้การจราจรในบริเวณดังกล่าวชะลอตัวมีท้ายแถวยาวออกไปไกลหลาย กม.
จากการสอบถามผู้อยู่ในเหตุการณ์เบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุรถยนต์บรรทุกพ่วงคันแรก ได้เกิดอุบัติเหตุพุ่งเฉี่ยวชนท้ายของรถยนต์กระบะอยู่ก่อนหน้าแล้ว และได้มีการนำรถเข้าจอดในช่องทางด้านซ้ายสุดเพื่อเจรจาตกลงกัน โดยมีการเรียกเคลมประกันภัยกันจนเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว รถยนต์กระบะจึงได้แยกตัวออกไป ส่วนนายชัยชนะ ได้ลงมาเดินวนดูรอบรถเพื่อตรวจสอบสภาพของตัวรถก่อนที่จะออกรถเดินทางต่อไป แต่ขณะนั้นได้มีรถยนต์บรรทุกพ่วงอีกคันได้พุ่งเข้ามาชนที่ด้านท้ายอย่างแรง จนร่างของนายชัยชนะ ถูกอัดติดไปกับด้านหน้ารถคันที่ขับพุ่งมาชนและเสียชีวิตลงอย่างอนาถในที่เกิดเหตุ
สอบถามนายวิษณุ เล่าว่า ได้ขับรถไปรับตู้คอนเทนเนอร์มาจากแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เมื่อเวลา 03.00 น. ได้เริ่มเดินทางขับรถออกมาเพื่อที่จะนำไปส่งยังที่ จ.สมุทรสาคร เมื่อมาถึงยังในที่เกิดเหตุ นายวิษณุ อ้างว่ามองไม่เห็นท้ายรถของรถยนต์พ่วงอีกคันเพราะยังเป็นช่วงเช้ามืด แต่มาเห็นในระยะใกล้แล้วจึงได้พยายามเบรกเพื่อจะหยุดรถแต่ไม่ทัน เพราะรถมีน้ำหนักมากจนเกิดการพุ่งชนขึ้น เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีพระเครื่องหรือของดีอะไรจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ หรือมีอันตรายเกิดขึ้นกับร่างกายเลยทั้งที่เป็นอุบัติเหตุที่รุนแรง
นายวิษณุ ตอบว่าไม่ได้แขวนพระเครื่อง แต่แขวนตะกรุด ที่ไม่ทราบแหล่งที่มาว่าเป็นของสำนักไหน เพราะได้นำมาจากหิ้งพระของปู่จากบ้านเกิดแขวนคอติดตัวมาขณะเกิดเหตุ ซึ่งมีลักษณะเป็นแผ่นทองเหลืองม้วนสอดอยู่ในหลอดสแตนเลสสำหรับแขวนคอกับสายถักไนล่อนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม จนท.ตำรวจได้เชิญตัว นายวิษณุ ไปทำการเป่าเพื่อตรวจวัดค่าปริมาณแอลกอฮอล์ยังที่สถานีตำรวจทางหลวงหน่วยสอบสวนเขาดินด้วย ว่ามีอาการเมาแล้วขับหรือไม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: