ฉะเชิงเทรา – พ่อร่ำไห้ พาชี้จุดลูกสาวเรียนชั้น ม.2 วัย 15 ปี ถูกเพื่อนคนงานก่อสร้างลวงไปข่มขืนกระทำชำเราคดีไม่คืบหน้า หลังเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.แปลงยาว นานกว่า 10 วัน วอน จนท.ผู้เกี่ยวข้องติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว หวั่นไปก่อเหตุซ้ำกระทำกับคนอื่นอีก ระบุพบประวัติมีพฤติกรรมก่อคดีต่อเนื่อง
วันที่ 26 ธ.ค.61 เวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าวได้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมีผู้โพสต์ข้อความร้องทุกข์ผ่านทางสื่อสังคมโซเชียล ระบุว่าบุตรสาววัย 15 ปีเศษ ถูกคนร้ายซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานของผู้รับเหมาก่อสร้าง ก่อเหตุล่อลวงก่อนพาไปกระทำการข่มขืนในป่าหญ้า หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ยังที่ สภ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา นานกว่า 10 วันแล้ว แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
โดยนายวี (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี ชาว ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ผู้เป็นบิดาของ น้องน้ำเพชร (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.2 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ กล่าวเปิดเผยพร้อมน้ำตาซึมต่อทางผู้สื่อข่าวว่า น้องน้ำเพชร ได้ถูกนายต้อม หรือบาส อายุ 33 ปี ไม่ทราบชื่อจริง ชาว จ.นครนายก
เพื่อนคนงานก่อสร้าง ที่พากันเดินทางมากับทางผู้รับเหมาเข้ามาก่อสร้างบ้านให้แก่ นายเจริญ ภูนาค อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 134 ม.4 ต.หนองไม้แก่น อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา เป็นเวลานานกว่า 3 เดือนเศษแล้ว โดยเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.61 นายตั้ม ได้ออกอุบายลวงน้องน้ำเพชรบุตรสาว ที่กำลังช่วยซักผ้าให้ตนที่บริเวณบ้านของนายจ้างว่า จะพาไปซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญในอีกหมู่บ้านหนึ่งในพื้นที่ อยู่ห่างจากที่พักประมาณ 1 กม.
บุตรสาวซึ่งเห็นว่าเป็นเพื่อนร่วมงานของพ่อ จึงได้ขับรถจักรยานยนต์ติดตามไป แต่คนร้ายกลับพาขับรถวนออกไปยังในพื้นที่เปลี่ยวห่างไกลจากหมู่บ้าน ที่เข้ามาทำงานก่อสร้าง ประมาณ 7 กม. ก่อนที่จะใช้อาวุธมีดจี้บังคับลากลงไปยังในป่าหญ้าที่ขึ้นรกสูงท่วมศีรษะห่างจากถนนประมาณ 100 เมตร และลงมือกระทำการข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จ
ตั้งแต่ช่วงเวลาเกิดเหตุประมาณ 09.00 น. จนกระทั่งถึงเวลา 17.00 น. คนร้ายจึงได้พากลับมาส่งทิ้งไว้ยังที่บ้านญาติ จากนั้นบุตรสาวจึงได้มาเล่าให้ฟัง ก่อนที่จะพาเข้าไปแจ้งความร้องทุกข์ยังที่ สภ.แปลงยาว และมีการตรวจร่างกายจากทางแพทย์ รพ.แปลงยาว จากนั้นตำรวจจึงได้พาไปชี้ยังจุดเกิดเหตุ ในพื้นที่ ม.2 ต.หนองไม้แก่น อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา แต่ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้คดีกลับยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
ตังแต่วันเกิดเหตุจนถึงวันนี้ ตำรวจยังจับกุมตัวคนร้ายไม่ได้ และยังไม่ได้รับการติดต่อประสานงานจากทางเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานใดๆ ที่เกี่ยวข้อง เข้ามาให้การช่วยเหลือเยียวยาทางด้านจิตใจของบุตรสาวและคนในครอบครัวซึ่งคงอยู่ในสภาวะทางด้านจิตใจและตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้นายต้อม ยังมีพฤติกรรมของการก่อเหตุแบบต่อเนื่อง โดยทราบว่าเคยก่อคดีในพื้นที่ จ.นครนายก บ้านเกิดมาแล้ว จนไม่สามารถเดินทางกลับไปยังพื้นที่บ้านเกิดได้ และหลังจากก่อเหตุคดีข่มขืนน้องน้ำเพชรแล้ว ยังได้ไปก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ในพื้นที่ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เพื่อใช้ในการหลบหนีอีกด้วย นายวี กล่าว
