ฉะเชิงเทรา-“ลองของ” เพลิงปริศนาลุกพรึบต่อหน้าเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลตำบลพนมสารคาม ขณะกำลังเข้าตรวจสอบถังเคมีดับเพลิงประจำชุมชน แต่กลับเอาไม่อยู่ก่อนระดมรถน้ำดับเพลิงจำนวน 6 คันเข้าควบคุมเพลิงไว้ได้ เสียหายรวม 4 คูหา ในตลาดเก่าแก่ปลูกสร้างด้วยไม้มานานกว่า 50 ปี ด้าน จนท.ยังไม่สรุปสาเหตุ
วันที่ 16 ม.ค.61 ร.ต.ท.สรสิช นิลลาภานนท์ รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ตลาดเก่าแก่ ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ปลูกสร้างด้วยไม้ แบบ 2 ชั้น อายุกว่า 50 ปี บริเวณปากทางเข้าตลาดท่าเกวียน ริมถนนพนมพัฒนา พื้นที่ ม.1 ต.พนมสารคาม อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้อยู่ที่บริเวณชั้น 2 ของร้านรับจ้างตัดเย็บทำเบาะรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเบาะนั่งทุกชนิดตามสั่ง ขนาด 2 คูหา ของนายเฟื่อง แซ่ซื้อ อายุ 72 ปี เลขที่ 1044 เทศบาลตำบลพนมสารคาม ก่อนที่จะลุกลามเข้าไปลุกไหม้ยังบริเวณชั้นบนของร้านค้าก๋วยเตี๋ยวปากหม้ออีก 2 คูหาที่ปลูกสร้างเชื่อมต่อติดกัน ส่วนอีกด้านเป็นอาคารพาณิชย์ผนังคอนกรีตเพลิงจึงยังไม่ลุกลามเข้าไปจนถึงตัวอาคารได้ โดยมีรถน้ำดับเพลิงจากเทศบาลตำบลพนมสารคาม และพื้นที่ข้างเคียงจำนวน 6 คัน เดินทางมาช่วยกันระดมฉีดน้ำควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ โดยใช้เวลาประมาณกว่า 15 นาทีเพลิงจึงสงบลง
สอบถามนายเฟื่อง ซึ่งเป็นผู้เช่าอยู่อาศัยและเปิดร้านรับทำเบาะหนังมาตั้งแต่ เมื่อปี พ.ศ.2546 บ้านต้นเพลิง กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ที่ชั้นบนของตัวบ้าน โดยมีทางเจ้าหน้าที่ของทางเทศบาลได้เดินทางเข้ามาตรวจสอบถังเคมีดับเพลิงประจำชุมชนอยู่ที่บริเวณด้านหน้าบ้าน ในขณะที่ตนเองกำลังนั่งตัดผ้าหนังหุ้มเบาะอยู่ที่ชั้นล่าง
ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้กลิ่นเหม็นของควันไฟ ก่อนที่จะชี้บอกว่าที่ชั้นบนของบ้านตนนั้นมีเหตุเพลิงลุกไหม้ จึงได้พยายามช่วยกันดับ แต่ดับไม่ทัน จึงทำให้เพลิงลุกลามต่อไปยังบ้านข้างเคียง ก่อนที่รถน้ำดับเพลิงจะมาถึงและช่วยกันฉีดน้ำสกัดเอาไว้ได้เพลิงจึงสงบลงอย่างรวดเร็ว แต่ข้าวของที่ชั้นบนนั้นเสียหายหมด ส่วนสาเหตุนั้นเชื่อว่าไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องเป็นอาคารไม้เก่าแก่และไม่เคยมีการเปลี่ยนสายไฟฟ้ามานานถึงกว่า 50 ปีแล้ว อีกทั้งในขณะเกิดเหตุก็ไม่ได้มีใครอยู่ที่ชั้นบนของตัวบ้านด้วย นายเฟื่อง กล่าว
ขณะที่นายนิกร จันธรรมาพิทักษ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลพนมสารคาม ซึ่งเดินทางมาช่วยอำนวยความสะดวกในการควบคุมเพลิงด้วยตนเองในที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุของเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นอาคารไม้ที่ค่อนข้างเก่าแก่ และเหตุเกิดขึ้นที่บริเวณชั้นสองของตัวบ้าน โดยที่ผู้พบเห็นเหตุการณ์นั้นก็เป็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของทางเทศบาล ที่พบเห็นเหตุการณ์เป็นคนแรกในขณะที่กำลังเดินทางเข้ามาตรวจสอบถังเคมีดับเพลิงวงรอบประจำสัปดาห์ในชุมชนที่แขวนไว้อยู่ใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ
หลังพบเห็นเหตุการณ์ในทันทีจึงได้รีบบอกกับทางเจ้าของบ้านให้ทราบ ถึงเหตุเพลิงไหม้ที่กำลังจะเกิดขึ้น ก่อนที่จะประสานแจ้งกลับมายังทางสถานีดับเพลิงของทางเทศบาลให้นำรถน้ำดับเพลิงเข้ามาควบคุมเพลิง ซึ่งสถานีดับเพลิงอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กม.เศษ จึงสามารถเดินทางมาได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาแค่ 2 นาที แต่เนื่องจากสภาพที่เกิดเหตุนั้นเป็นบ้านไม้เก่าแก่ และยังเป็นบ้านที่รับทำเบาะรถยนต์และเบาะโซฟาที่นั่งอีก จึงเป็นเชื้อไฟอย่างดีที่กองอยู่เป็นจำนวนมาก
ฉะนั้นเมื่อเพลิงลุกไหม้เพียงแค่ 1 นาที ก็สามารถทำให้บริเวณชั้นบนบ้านนั้นได้รับความเสียหายไปอย่างมากได้แล้ว เท่าที่มองเห็นพบว่าบ้านต้นเพลิงนั้นเสียหายไปจำนวน 1 คูหาครึ่ง และยังลุกลามไปยังบ้านเรือนข้างเคียงที่ลุกไหม้ไปอีก 1 คูหาด้วย นายกนิกร กล่าว
ร.ต.ท.สรสิช กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเหตุเพลิงไหม้นั้น เกิดจากสาเหตุใด ต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบในที่เกิดเหตุอีกครั้ง ส่วนความเสียหายนั้นเกิดขึ้นกับร้านค้าจำนวน 2 ร้านเสียหายทั้งหมดรวม 4 คูหา โดยส่วนใหญ่เสียหายที่บริเวณชั้น 2 ของทั้ง 4 คูหา ร.ต.ท.สรสิช กล่าว กล่าว
