ฉะเชิงเทรา – ลูกช้างป่า เพศผู้วัย 3 เดือนถูกสังหารโหดตายอย่างน่าเวทนาภายในสวนฝรั่งล้อมรอบด้วยป่าไร่มันของชาวบ้าน บริเวณพื้นที่หน้าอ่างเก็บน้ำคลองระบม เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุ หลังพบบาดแผลฉกรรจ์ขนาดใหญ่ที่แก้มด้านขวาคล้ายถูกสัตว์ป่าด้วยกันเองทำร้าย
วันที่ 20 ก.พ.62 เวลา 09.00 น. พ.ต.ท.บันเทิง เกาไศยนันท์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุมีชาวบ้านพบซากช้างป่านอนตายอยู่ในสวนฝรั่งของชาวบ้าน พื้นที่บริเวณใต้อ่างเก็บน้ำคลองระบม หมู่บ้านชำป่างาม พื้นที่ ม.8 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบซากลูกช้างป่าเพศผู้วัยประมาณ 3 เดือน นอนตายอยู่ริมทางใกล้กับกระท่อมที่พักเฝ้าไร่ของ นายจำเนียร ผ่องแผ้วฉาย อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 220 ม.1 ต.ลาดกระทิง อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นผู้เช่าที่ดินจำนวน 60 ไร่ ปลูกมันสำปะหลัง และแบ่งทำสวนฝรั่งจำนวน 6 ไร่ เป็นผู้มาพบซากช้างตัวดังกล่าวเป็นคนแรก เมื่อเวลา 08.30 น. ของวันนี้
โดยนายจำเนียร เล่าว่า เมื่อวานนี้ไม่ได้เข้ามายังที่ไร่ ในวันนี้เมื่อมาถึงในช่วงเช้าเวลาประมาณ 08.30 น. จึงมาพบกับซากช้างตัวดังกล่าวนอนตายอยู่ ก่อนที่จะแจ้งให้แก่ทางเจ้าหน้าที่ทราบ โดยที่ผ่านมายังไม่เคยพบเห็นช้างป่าเข้ามาอยู่ภายในไร่มาก่อน แต่เคยพบมีเพียงรอยเท้าช้างป่าเดินผ่านไร่จำนวนมากเดือนละประมาณ 2-3 ครั้ง
ก่อนที่จะมาพบซากลูกช้างนอนตายอยู่ใกล้กับกระท่อมเฝ้าไร่หลังเก่า และกองท่อพีวีซีส่งน้ำในครั้งนี้ โดยเห็นว่าที่แก้มขวาของลูกช้างยังมีร่องรอยบาดแผลเหวอะหวะ ขนาดใหญ่คล้ายกับถูกสัตว์ป่าด้วยกันทำร้ายจนตายอีกด้วย นายจำเนียร กล่าว
หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พ.ต.อ.ณัฐจักร จันลา ผกก. สภ.สนามชัยเขต พร้อมด้วย นายเอนก วงศ์ษา ผู้ช่วยหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จนท.ป่าไม้ จนท.ฝ่ายทหาร และนางอาภรณ์ ใหม่มงคล นายอำเภอสนามชัยเขต ร่วมกันตรวจสอบตามลำตัวของลูกช้างเบื้องตน ไม่พบร่องรอยจากของมีคมทำร้าย โดยพบเพียงบาดแผลฉกรรจ์ขนาดกว้าง 16 ซม. ยาว 30 ซม. ที่แก้มขวาเพียงแผลเดียว
จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจากกองกำกับการพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ให้เดินทางมาตรวจสอบยังในที่เกิดเหตุ พร้อมเตรียมเคลื่อนย้ายซากช้างป่า นำไปให้เจ้าหน้าที่ทีมสัตวแพทย์มาทำการผ่าพิสูจน์ซากช้างเพื่อหาสาเหตุการตายของลูกช้างอีกครั้ง ยังที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน และทำการฝังกลบทำลายซากช้างต่อไป
