รวบหมอดูหื่น ลวงเด็กสาววัย 16 ปีและ 18 ปี กระทำอนาจาร 2 รายซ้อนคาโรงแรมย่านบางปะกง ขณะผู้ต้องหารับสารภาพก่อเหตุล่อลวงและล่วงละเมิดทางเพศจริง อ้างเพิ่งทำแค่เพียง 2 ครั้ง ด้านตำรวจยังไม่เชื่อระบุน่าจะก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง จึงนำตัวมาแถลงข่าวเพื่อให้ผู้เสียหายรายอื่น เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติม พร้อมตั้ง 2 ข้อหาหนักดำเนินคดี 2 กรรมต่างวาระ
วันที่ 23 ก.พ.62 เวลา 10.40 น. ที่ห้องประชุมชั้น 3 กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ฉะเชิงเทรา พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง ผบก. ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ได้นำตัว นายบุญธรรม (เงาะ) เจริญศิริ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 456/21 ม.12 ต.หนองเหียง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ผู้ต้องหาก่อเหตุอนาจารโดยใช้อุบายล่อลวงขู่เข็ญ มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางปะกง ทำการจับกุมตัวได้คารีสอร์ทขณะกำลังก่อเหตุอนาจารเหยื่อหญิงสาว
โดย พล.ต.ต.ธีรพล กล่าวว่า เมื่อวันที่ 21 ก.พ.62 เวลา 08.30 น.ที่ผ่านมาได้มีมารดาของเด็กสาววัย 16 ปี ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางปะกง ว่าได้สังเกตเห็นบุตรสาวมีความผิดปกติ จึงได้คาดคั้นสอบถามจนทราบว่าบุตรสาวได้ถูก นายบุญธรรม ซึ่งเป็นพ่อค้าตระเวนรับซื้อของเก่าตามบ้านเรือนประชาชนทั่วไป ทำการหลอกลวงไปล่วงละเมิดทางเพศ ที่โรงแรมวังไพรรีสอร์ท ตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.7 ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา
โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นสืบเนื่องจาก นายบุญธรรม ได้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อ อีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน ผษ-3195 ชลบุรี ตระเวนเข้ามารับซื้อของเก่าถึงยังที่บ้านพักของผู้เสียหาย โดยได้หลอกลวงบุตรสาวว่าเป็นหมอดู และทักว่า “ดวงไม่ดีนะ หัวขาด มีผีตามอยู่และมีของเขมรอยู่ในตัว ต้องทำพิธีปัดเป่า” จากนั้นได้มีการขอหมายเลขโทรศัพท์และแชทไลน์พูดคุยกัน
จนถูกผู้ต้องหาหลอกลวงไปล่วงละเมิดทางเพศ จนสำเร็จความใคร่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปะกง จึงได้ออกไปติดตามหาเพื่อจับกุมตัว ต่อมาในวันที่ 22 ก.พ.62 เวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปะกง ได้รับแจ้งจากมารดาของ เหยื่อรายที่ 2 ซึ่งเป็นหญิงสาววัย 18 ปี ว่าเกิดเหตุในลักษณะเดียวกันขึ้นอีก และจากการสอบสวนพบว่าตำหนิรูปพรรณคนร้าย ยานพาหนะ ตลอดจนพฤติกรรมที่อ้างว่าจะพาไปปัดเป่าเคราะห์กรรมในทำนองเดียวกันนี้ตรงกันกับเหยื่อรายแรก
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางปะกง จึงเดินทางไปตรวจสอบยังที่รีสอร์ทแห่งเดิม และเมื่อไปถึงได้พบรถยนต์ของกลางคันที่ใช้ก่อเหตุนั้นจอดอยู่ที่ห้องหมายเลข A10 และเมื่อเปิดห้องออกมา พบว่าผู้ต้องหากำลังอยู่ด้วยกันกับเหยื่อรายที่ 2 ในสภาพที่ทั้งคู่นั้นถอดเสื้อผ้าออกและนุ่งผ้าเช็ดตัวอยู่เพียงผืนเดียว โดยเหยื่อรายที่สองแจ้งว่า นายบุญธรรม ได้ขับรถคันที่ใช้ก่อเหตุมารับเข้ามายังที่โรงแรม
โดยนายบุญธรรม ได้พูดล่อลวงบอกว่าจะพามาทำพิธีปัดเป่าโชคร้าย เมื่อมาถึงนายบุญธรรม ได้ให้ถอดเสื้อผ้าออกและนุ่งผ้าเช็ดตัวเพียงผืนเดียวเพื่อทำพิธีกรรม และยังได้ทำการหอมแก้มผู้เสียหายอีกด้วย โดยนายบุญธรรม ได้ยอมรับสารภาพว่าได้ขับรถไปหลอกลวงรับเหยื่อเพื่อจะพามากระทำอนาจารจริง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกเข้ามาตรวจค้นจับกุมเสียก่อนยังไม่ได้ทำอะไร
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นหมอดูหรือดูดวงได้จริงไหม และสามารถปัดเป่าเคราะห์ได้จริงไหม นายบุญธรรมยังอ้างว่า เป็นหมดดูจริง และเคยปัดเป่าผู้คนแล้วหายได้จริงมาหลายราย จากนั้นผู้สื่อข่าวถามว่ามีวิธีทำการรักษาหรือปัดเป่าอย่างไร นายบุญธรรม ระบุว่าต้องทำการปัดเป่าเป็นจุดด้วยวิธีการเป่าคาถาตรงที่มีของไม่ดีอยู่ เมื่อผู้สื่อข่าวว่าแล้วเหยื่อรายแรกมีของไม่ดีตรงไหน นายบุญธรรมบอกว่าตรงปีกมดลูกจึงต้องทำการเข้าไปปัดเป่าตรงนั้น
ขณะเดียวกันเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามว่า ได้เคยกระทำการลักษณะนี้มากี่ครั้งแล้ว นายบุญธรรม อ้างว่าเพิ่งกระทำมาแค่เพียง 2 ครั้ง แต่เจ้าหน้าที่พบว่ามีประวัติการแชทไลน์กับผู้ที่อาจตกเป็นเหยื่ออีกจำนวนมากถึงกว่า 10 ราย จึงยังไม่เชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา
โดย พล.ต.ต.ธีรพล กล่าวว่า หลังจากนำตัวผู้ต้องหามาแถลงข่าวแล้วจะนำตัวไปส่งศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ฝากขังทันที ในข้อกล่าวหา “พรากผู้เยาว์หญิงอายุมากกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี และกระทำอนาจารหญิงอื่นที่มิใช่ภรรยาของตนอายุไม่เกิน 18 ปีรวม 2 ข้อหา โดยจะดำเนินคดีในลักษณะต่างกรรมต่างวาระกันรวม 2 คดี พล.ต.ต.ธีรพล กล่าว
