ฉะเชิงเทรา-เจ้าของร้านค้าของชำหอบเอกสารหลักฐานเข้าพบพนักงานสอบสวน ขณะ ผกก. สภ.พนมสารคาม คุย ตามจับแก๊งค์ต้มตุ๋นได้ไม่ยาก แต่ยังให้ทางฝ่ายผู้เสียหายรวบรวมนำพยานหลักฐานมามอบให้แก่ทางเจ้าหน้าตำรวจเพิ่มเติมเองอีก อ้างเป็นคดีแรกที่เพิ่งเคยเกิดขึ้นในพื้นที่
วันที่ 23 ม.ค.60 เวลา 09.30 น. น.ส.วารุณี พุฒหมื่น อายุ 46 ปี เจ้าของร้านค้าของชำในพื้นที่ ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยน้องสาว ได้นำพยานเอกสารหลักฐานพร้อมด้วยแผ่นภาพพิมพ์ ซึ่งปริ้นออกมาจากกล้องวงจรปิด ถึงลักษณะใบหน้า และทะเบียนรถของกลุ่มคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุหลอกลวงต้มตุ๋น ขายสินค้าให้ทางร้านในราคาที่สูงเกินกว่ามูลค่าและจำนวนของสินค้าตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น เข้าพบ ร.ต.อ.สงบ โคตรโย รองสารเวรสอบสวนเจ้าของคดี ยังที่ สภ.พนมสารคาม
ข่าวน่าสนใจ:
- ชาวบ้านยังผวา บ้านสไลด์ตกน้ำบางปะกงตามกัน ไม่กล้าออกไปทำกิน
- บุรีรัมย์ เตือนวัยรุ่นอย่าทำ ขับรถหวาดเสียว ยกล้อโชว์ จับส่งศาล ศาลพิพากษาสั่งปรับและจำคุก
- หญิงไทยเสียชีวิตปริศนา แฟนต่างชาตินอนอยู่กับศพ 3 วัน ตำรวจเร่งสอบหาสาเหตุ
- นครพนม เปิดคลิป วัยรุ่น เหิมหนัก ยกพวกใช้มีดไล่ฟันคู่อริ พร้อมทุบทำลายทรัพย์สินอย่างไม่เกรงกลัวกฏหมาย
โดยหลังการเข้าพบพนักงานสอบสวน น.ส.วารุณี กล่าวว่า การที่เดินหน้านำพยานหลักฐานมามอบให้แก่พนักงานสอบสวนและติดตามความคืบหน้าของคดีในวันนี้ เนื่องจากอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นสามารถทำการจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ เพราะเกรงว่ากลุ่มคนร้ายแก๊งค์นี้จะไปก่อเหตุหลอกลวงร้านค้ารายอื่นๆ อีก โดยที่ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เงินที่สูญเสียไปเป็นจำนวน 13,956 บาทคืน ซึ่งทางพนักงานสอบสวนยังได้ให้ตนนั้นกลับไปนำแฟลชไดร์ฟ ไปทำการก็อปปี้ไฟล์ภาพจากกล้องวงจรปิดนำมาให้ทางพนักงานสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้ง โดยระบุว่าเพื่อให้ได้พยานหลักฐานที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นในการติดตามจับกุมตัวคนร้าย
ขณะที่ ร.ต.อ.สงบ กล่าวว่า คดีต้มตุ๋นในลักษณะนี้ เพิ่งเคยเกิดขึ้นในท้องที่ สภ.พนมสารคาม เป็นคดีแรก ที่ผ่านมายังไม่เคยปรากฏหรือได้รับการร้องเรียนแจ้งความในคดีลักษณะนี้เกิดขึ้นในพื้นที่มาก่อน ร.ต.อ.สงบ กล่าว
ต่อมาในเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.ดุษฎี ศุกรเสพย์ ผกก. สภ.พนมสารคาม ได้กล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ได้ส่งทีมชุดสืบสวนลงพื้นที่เพื่อหาข้อมูลของคนร้ายเพิ่มเติมแล้ว คือ การไล่ตามทะเบียนรถเพื่อสืบหาตัวเจ้าของรถว่าเป็นใครอยู่ที่ไหนอย่างไรก่อน จากนั้นจึงจะสืบต่อไปถึงยังตัวของคนร้าย ส่วนพยานหลักฐานที่ผู้เสียหายนำมายื่นนั้นพนักงานสอบสวนนั้น ก็เห็นใบหน้าของคนร้ายได้อย่างชัดเจนอยู่แล้วว่ามีรูปพรรณหน้าตาเป็นอย่างไรซึ่งไม่น่าจะยากในการติดตามจับกุมตัว
หากได้เลขทะเบียนรถที่แน่นอนแล้วก็จะสามารถติดตามไปที่ตัวเจ้าของรถ หรือผู้ครอบครองรถ เพื่อจะหาตัวว่าผู้ใช้รถคันที่นำมาก่อเหตุในครั้งนี้คือใคร โดยคดีนี้ถือว่าสืบได้ไม่ยากนักโดยฝ่ายสืบสวนกำลังตามอยู่ ส่วนในพื้นที่ สภ.พนมสารคาม นั้น คดีในลักษณะนี้เพิ่งเคยเกิดขึ้นในพื้นที่เป็นคดีแรก พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: