ฉะเชิงเทรา – หนุ่มใหญ่ขับรถปาเจโร่ป้ายแดง จอดนอนเสียชีวิตคาทางด่วน ค้นในตัวและกระเป๋าสะพายพบทรัพย์สินอื้อมูลค่าหลายแสนบาทเบื้องต้นตำรวจเชื่อเสียชีวิตจากโรคประจำตัวกำเริบ หลังพบยารักษาโรคความดันพกติดมาด้วย ก่อนเตรียมส่งศพชันสูตรทางนิติเวชโดยละเอียดอีกครั้ง
วันที่ 25 ม.ค.61 เวลา 08.30 น. ร.ต.อ.ชนะชัย ภูราช รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.บางปะกง ได้รับแจ้งพบรถยนต์แบบตรวจการณ์ป้ายแดงจอดแน่นิ่งคาอยู่บนช่องทางด่วนถนนสายบางนา-ตราด (เทพรัตน) ในเลนด้านขวาสุด ช่องทางขาเข้า กทม. บริเวณหลัก กม.ที่ 37/1 พื้นที่ ม.1 ต.หอมศีล อ.บางปะกง ภายในมีชายวัยกลางคนนอนหลับหมดสติคาอยู่บนที่นั่งคนขับ จึงเดินทางไปตรวจสอบยังในที่เกิดเหตุ
ข่าวน่าสนใจ:
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์แบบตรวจการณ์ (SUV) ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว ทะเบียนป้ายแดง น-9390 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในช่องทางด่วนบนเลนด้านขวาสุด ลักษณะหน้ารถเฉียงตะแคงเข้าไปหาแท่งแบริเออร์กั้นขอบทางด้านในจนมีรอยครูดเล็กน้อยที่หัวมุมทางขวา มีชายวัยกลางคนนอนวูบหลับติดคาพวงมาลัยอยู่ภายในโดยสภาพรถยังคงติดเครื่องยนต์และเปิดแอร์ทิ้งไว้
หลังเจ้าหน้าที่ได้พยายามตรวจสอบและเขย่ารถเรียกแล้ว ผู้ที่อยู่ภายในรถไม่มีการตอบสนองใดๆ กลับมา จึงคาดว่าน่าจะชีวิตแล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ให้หน่วยกู้ภัยในท้องที่ ทำการทุบกระจกบานประตูหน้าของรถยนต์ที่ด้านซ้ายของตัวรถ
จึงพบว่าผู้เสียชีวิต คือ นายนวรัตน์ พงษ์ศิริ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/1378 หมู่บ้านบูรพา ม.14 ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา นอนหมดสติเสียชีวิตอยู่ภายในรถคันดังกล่าวจริงโดยสภาพของร่างกายยังคงอุ่นอยู่
จากการตรวจสอบตามร่างกายและภายในกระเป๋าสะพายติดตัว พบสร้อยคอทองคำหนัก 10 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 3 องค์ เลสข้อมือฝังเพชรลงยาสีน้ำเงินน้ำหนักประมาณ 5 บาท 1 เส้น พบบัตรประจำตัวพนักงานของบริษัทนิสสัน มอเตอร์ไทยแลนด์ จำกัด และเงินสดอยู่ภายในกระเป๋าอีกจำนวนหนึ่ง
ตามร่างกายไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้าย ส่วนสภาพโดยรอบตัวรถไม่มีร่องรอยของการเกิดอุบัติเหตุ แต่พบยารักษาโรคความดัน (ยาลดความดัน) ของทาง รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง บรรจุอยู่ในซองจำนวน 2 ซอง
ร.ต.อ.ชนะชัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบชันสูตรเบื้องต้นในที่เกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้ายร่างกาย และโดยรอบตัวรถไม่พบร่องรอยของการเกิดอุบัติเหตุรุนแรง มีเพียงร่องรอยของรถที่หยุดจอดแล้วรถไหลไปข้างหน้าประมาณ 4-5 เมตร ก่อนเข้าไปครูดเข้ากับแท่งแบริเออร์กั้นขอบทางด้านในเท่านั้น
จึงคาดว่าผู้เสียชีวิตน่าจะเสียชีวิตจากโรคประจำตัวแบบเฉียบพลันหรือฉุกเฉิน และเพิ่งเสียชีวิตลงอยู่ภายในรถได้ไม่นานหรือไม่เกิน 1 ชั่วโมง เพราะเลือดในร่างกายยังไม่จับตัวแข็ง แต่ยังจะต้องส่งศพไปชันสูตรถึงสาเหตุการเสียชีวิตทางนิติเวช ที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยละเอียดอีกครั้ง ร.ต.อ.ชนะชัย กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: