เพลิงไหม้รายปี ร้านรับทำเบาะกลางตัว อ.พนมสารคาม วอดเสียหาย 2 คูหา เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุ เนื่องจากในขณะเกิดเหตุไม่มีคนอยู่อาศัยภายในบ้าน แต่มีชาวบ้านได้กลิ่นเหม็นจากควันไฟที่ลุกไหม้ ก่อนออกมาดู เพลิงได้ลุกลามโหมอย่างรุนแรงจนเอาไม่อยู่แล้ว ขณะ จนท.ระดมรถน้ำ 7 คันเข้าควบคุมสุดท้ายเสียหายหมด
วันที่ 27 มี.ค.62 เวลา 16.50 น. พ.ต.ท.วิชาญ พวงทอง สารวัตรเวรสอบสวน สภ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่บริเวณอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ปลูกสร้างด้วยไม้เลขที่ 1044 ถ.พนมพัฒนา มุ่งหน้าตลาดท่าเกวียน พื้นที่ ม.1 ต.พนมสารคาม อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนลุกลามไหม้ไปยังห้องข้างเคียงจนได้รับความเสียหายอีก 1 คูหา จึงประสานรถน้ำดับเพลิงเข้าทำการควบคุมและเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบรถน้ำจากเทศบาลตำบลพนมสารคาม เทศบาลตำบลท่าถ่าน และเทศบาลตำบลเกาะขนุน จำนวน 7 คัน กำลังระดมฉีดน้ำเพื่อทำการควบคุมเพลิงที่กำลังโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง แต่ไม่สามารถที่จะทำการควบคุมเอาไว้ได้ทัน อาคารไม้รวม 2 คูหาได้ถูกเพลิงไหม้เสียหายไปหมดแล้ว และยังมีฝาผนังบ้านของอาคารพาณิชย์ข้างเคียงได้รับความเสียหายไปด้วยกันอีก 1 หลัง แต่โชคดีในขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ภายอาคารหลังดังกล่าว จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
สอบถามนางวราภรณ์ กุลยดิษฐ์ อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นผู้เช่าอาคารข้างเคียงที่ได้ความเสียหาย ฝาผนังชั้นบนถูกเปลวเพลิงลุกลามรนจนไหม้เกรียม เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนได้กลิ่นเหม็นไหม้ของควันไฟ ครั้งแรกเข้าใจว่าเพื่อนบ้านนั้นเผาขยะ แต่เมื่อออกมาดูได้พบเห็นเพลิงกำลังลุกไหม้อยู่ที่หัวมุมของตัวบ้านชั้นล่างด้านหน้า จึงได้ร้องเรียกให้คนมาช่วยกันดับ และพยายามที่จะขนทรัพย์สินรถจักรยานยนต์ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงออกมา
โดยบ้านต้นเพลิงหลังนี้ เป็นร้านรับทำเบาะรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ที่เพิ่งเคยถูกเพลิงไหม้ไปเมื่อช่วงต้นปีที่แล้ว (16 ม.ค.61) จนได้รับความเสียหายไปรวม 4 คูหา และมาในปีนี้เพิ่งครบปีผ่านมาได้ไม่นานก็ยังมาถูกเพลิงไหม้ซ้ำซากอีก แต่ในขณะเกิดเหตุไม่พบว่ามีใครอยู่ภายในบ้าน นางวราภรณ์ กล่าว
ขณะที่นายกมล ชื่อมณีสวรรค์ รองนายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลพนมสารคาม ซึ่งได้เดินทางมาอำนวยการดับเพลิงยังในที่เกิดเหตุด้วยตนเอง กล่าวว่า บ้านหลังดังกล่าวนี้เดิมทีได้มีนายเฟื่อง แซ่ซื้อ อายุ 73 ปี เป็นผู้มาเช่ารับซ่อมทำเบาะรถยนต์รถจักรยานยนต์ และโซฟามานานกว่า 15 ปี ก่อนที่จะถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายไปรวม 4 คูหา
และเจ้าของห้องผู้ให้เช่าได้ทำการซ่อมแซมจนแล้วเสร็จมาได้ไม่นาน เมื่อวันที่ 16 ม.ค.62 ที่ผ่านมานี้เอง แต่กลับมาถูกเพลิงไหม้ซ้ำซากขึ้นอีกครั้ง โดยผู้เช่ารายใหม่ คือ นายสิทธิชัย ศิริโส อายุ 43 ปี ซึ่งมีอาชีพรับทำเบาะรถยนต์และรถจักรยานยนต์เช่นเดียวกัน และยังมาถูกเพลิงไหม้แบบเดียวซ้ำกันอีก
โดยในขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงชุดแรกได้นำรถน้ำมาจำนวน 3 คัน เพื่อเข้ามาทำการควบคุมเพลิงได้ถูกกระแสไฟฟ้าในที่เกิดเหตุดูดด้วยโชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ได้ทำให้การควบคุมเพลิงเป็นไปอย่างล่าช้า เนื่องจากในที่เกิดเหตุยังคงมีกระแสไฟฟ้าอยู่ จึงทำให้เพลิงลุกลามไหม้เสียหายไปหมดทั้ง 2 คูหา นายกมล กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: