ฉะเชิงเทรา – วุ่นกันทั้งเมือง หลังรถยนต์สองคันเกิดอุบัติเหตุพุ่งชนท้ายกันจนหงายท้องล้อชี้ฟ้าพังเสียหายยับเยิน สอบถามคู่กรณีทั้งสองฝ่ายต่างระบุตรงกันว่า มีหญิงชราผู้สูงวัยเดินก้าวย่างอย่างเฉื่อยชาตัดหน้าข้ามถนนเป็นต้นเหตุ แต่หลังเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว กลับไร้เงาความรับผิดชอบจากเธอที่เดินหายลับข้ามถนนไปยังขอบทางฝั่งตรงข้าม ทำชาวบ้านเดือดร้อนจากการจราจรติดขัดวุ่นกันไปทั้งเมือง
วันที่ 1 ก.พ.61 เวลา 12.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณบนถนนสิริโสธร สาย 314 เส้นทาง ฉะเชิงเทรา-บางปะกง ด้านฝั่งตรงข้ามกับปั้มน้ำมัน ปตท.สื่อประเสริฐสิทธิ์ (แห่งใหม่) เขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ได้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋ง และรถยนต์กระบะพุ่งชนท้ายกัน จนทำให้ตัวรถพลิกหงายท้องล้อชี้ฟ้าอยู่บนกลางถนน และส่งผลทำให้การจราจรในเส้นทางบนถนนสายดังกล่าวด้านฝั่งขาเข้านั้นติดขัดอย่างหนักท่ามกลางความสนใจของประชาชนที่อยู่บริเวณริมข้างทางต่างออกมาจับกลุ่มมุงดู
โดยในที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะคันหมายเลขทะเบียน 4กย-1395 กรุงเทพมหานคร นอนหงายท้องลักษณะล้อชี้ฟ้าอยู่บนกลางถนนในช่องทางที่ 2 คร่อมมายังในช่องทางที่ 3 จากทั้งหมดด้านละ 4 ช่องการจราจร ห่างกันออกไปทางด้านหลังประมาณ 30 เมตร พบรถยนต์เก๋งคันหมายเลขทะเบียน ธษ-4021 กรุงเทพมหานคร สภาพด้านหน้าพังยับเยิน จอดอยู่ในลักษณะเฉียงหันหน้าเข้าข้างทางคร่อมอยู่บนช่องจราจรที่ 2 และ 3 เช่นเดียวกัน
จากการสอบถาม นายสุรสิทธิ์ ศิริพิพัฒน์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/349 ม.3 ต.ลาดขวาง อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา คนขับรถยนต์กระบะ เล่าว่า ได้พามารดาพร้อมด้วยน้าสาวรวม 3 คน เดินทางมายังห้างค้าขายวัสดุตบแต่งบ้านแห่งหนึ่ง ก่อนที่จะไปยูเทิร์นกลับรถที่บริเวณจุดกลับรถใกล้กับปั้มน้ำมันบางจาก ซึ่งในขณะนั้นถนนโล่งมากไม่มีรถอยู่ในเส้นทางเลยแม้แต่คันเดียว เนื่องจากที่บริเวณแยกสัญญาณไฟจราจรเทศบาล 2 นั้นเป็นจังหวะสัญญาณไฟแดง โดยตนขับรถกลับมาบนช่องทางที่ 2 จากด้านซ้ายสุด 
แต่เมื่อขับรถมาถึงยังจุดเกิดเหตุได้มีหญิงชรารายหนึ่งออกมาเดินตัดหน้าข้ามถนนซึ่งเป็นเส้นทางขนาดใหญ่ด้านละ 4 เลนจากทั้งหมด 8 ช่องจราจรไปกลับ ตนจึงได้เบรกชะลอความเร็วรถลงเพื่อให้หญิงชรานั้นข้ามผ่านพ้นไปจากช่องทางที่ตนกำลังขับรถมา แต่ทันใดนั้นได้มีรถเก๋งคันคู่กรณีขับตามหลังมาจากที่ใดไม่ทราบด้วยความเร็วบนช่องทางที่ 3
โดยมีหญิงชรารายดังกล่าวได้เดินข้ามพ้นไปจากช่องทางที่ตนขับมาแล้วเดินขวางหน้าแตะเบรกหยุดรถอย่างรวดเร็วแบบกะทันหัน จนตัวรถหมุนพุ่งเข้ามาเสยชนเข้าที่ด้านท้ายรถของตนเองอย่างแรงจนทำให้ตัวรถคันที่ตนขับมานั้นม้วนตีลังกาหงายท้องล้อชี้ฟ้าไปข้างหน้าดังกล่าว
แต่โชคดีที่ตนพร้อมด้วยคนในรถทั้งหมดนั้นคาดเข็มขัดนิรภัยทุกคนจึงไม่ได้รับอันตราย หรือบาดเจ็บแต่อย่างใด แต่ตัวรถนั้นพังเสียหายอย่างหนักมาก ส่วนหญิงชราซึ่งเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ได้เดินหายข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามแล้ว และไม่ยอมออกมาปรากฏตัวให้เห็นอีกเลย หลังจากเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้ว นายสุรสิทธิ์ กล่าว
ขณะที่ นายนรินทร์ ศรีชุนสิน อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1232/2 ถ.เทพคุณากร ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา คนขับรถยนต์เก๋ง กล่าวว่า ตนได้ขับรถออกจากบ้านย่านโสธร กำลังจะเดินทางเข้าไปทำงานยังในตัวตลาด เมื่อมาถึงยังจุดเกิดเหตุได้มีหญิงชราเดินโผล่ออกมาจากหน้ารถคันหน้าในช่องทางที่ตนกำลังขับมา จึงได้รีบเหยียบเบรกหยุดรถจนตัวรถเสียหลักหมุนเข้าไปเสยท้ายรถคันคู่กรณีจนรถพังเสียหายด้วยกันทั้งสองฝ่าย แต่หลังจากเกิดเหตุแล้วกลับไม่เห็นหญิงชราคนนั้นเลย อย่างนี้ใครเป็นคนผิด
