กลับสู่ภูมิลำเนา ยังไม่หมดประชาชนยังใช้ 304 เดินทางออกจากกรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่องจนเต็มแน่นเส้นทาง โดยเคลื่อนตัวผ่านพื้นที่ฉะเชิงเทราไปได้อย่างช้าๆ ด้าน ผบก.แปดริ้วระบุ เป็นการช่วยชะลอไม่ให้มีรถเข้าไปสะสมอยู่ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรีเป็นจำนวนมากเกินไป และยังช่วยลดอุบัติเหตุบริเวณจุดเสี่ยงอันตรายจากการใช้ความเร็วสูงในการเดินทางให้ช้าลง
วันที่ 12 เม.ย.62 เวลา 23.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพการจราจรบนเส้นทางสายสำคัญ โดยเฉพาะถนนสาย 304 ช่วงผ่านพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ที่กำลังมีประชาชนเดินทางออกจากกรุงเทพฯ กลับสู่ภูมิลำเนาไปยังจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและชายแดนภาคตะวันออกเป็นจำนวนมาก
โดยในวันนี้บนถนนสาย 314 เบี่ยงลงจากถนนสายมอเตอร์เวย์ ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (กรุงเทพ-พัทยา) เชื่อมเข้าสู่ถนนสายบายพาสเลี่ยงเมืองฉะเชิงเทรา (365) ก่อนเข้าสู่ถนนสาย 304 เดิมนั้น การจราจรยังคงมีประชาชนเดินทางผ่านพื้นที่เป็นจำนวนมาก และเริ่มมีรถสะสมบนถนน 314 (บางปะกง-ฉะเชิงเทรา) ลักษณะเรียงกันเป็นแถวยาวต่อเนื่องในเส้นทางตั้งแต่ช่วงเวลา 16.00 น. และติดขัดต่อเนื่องตามจังหวะของสัญญาณไฟจราจรมาจนถึงช่วงกลางดึก
ขณะเดียวกันบนถนนสายเลี่ยงเมือง 365 เชื่อมต่อถนนสาย 304 นั้นมีรถสะสมอยู่จนเต็มแน่นพื้นผิวการจราจรทุกช่องทางเช่นเดียวกัน และติดขัดสะสมต่อเนื่อง โดยเคลื่อนตัวผ่านพื้นที่ไปได้อย่างช้าๆโดยเฉพาะบริเวณสะพานข้ามแยกกองพลทหารราบที่ 11 มีรถสะสมยาวต่อเนื่องไปจนถึงพื้นที่ในเขต อ.บางคล้า ลักษณะเรียงกันเป็นแถวยาวไปจนตลอดเส้นทางในพื้นที่ และมีบางช่วงติดขัดจนหยุดนิ่ง บางช่วงสามารถเคลื่อนตัวผ่านไปได้ด้วยความเร็ว 30-40 กม./ชม.
ด้าน พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง ผบก. ภ.จว.ฉะเชิงเทรา กล่าวถึงมาตรการในการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรให้มาคอยกดควบคุมให้สัญญาณไฟตามความเหมาะสมของปริมาณรถ บริเวณทางร่วมทางแยกในจุดสำคัญที่จะต้องเร่งระบายรถให้สามารถผ่านพื้นที่ไปได้โดยสะดวก
ส่วนการสะสมของรถยนต์ตามเส้นทางนั้น ไม่ได้หยุดนิ่งหรือติดขัดอยู่บนเส้นทางเป็นเวลานาน แต่เป็นการหยุดชะลอตัวชั่วคราวในแต่ละจุดเป็นเวลาประมาณ 5 นาที 10 นาที และไม่เกิน 20 นาทีเท่านั้น ซึ่งถือเป็นการช่วยชะลอรถเพื่อไม่ให้ไปติดขัดสะสมกันเป็นจำนวนมากในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นเส้นทางขึ้นเขา และยังเป็นการช่วยลดอันตรายจากการใช้ความเร็วสูงตรงบริเวณเส้นทางที่เป็นจุดเสี่ยง
โดยเฉพาะบนถนนสาย 304 ช่วงระหว่างทางสามแยกหนองปลาตะเพียน ในเขตพื้นที่ อ.บางคล้า มุ่งหน้าไปยังเขต อ.พนมสารคาม ซึ่งเป็นเส้นทางตรงและยาวไกลหลาย กม. ประชาชนผู้ใช้เส้นทางมักใช้ความเร็วสูงจนต้องมีการกวดขันตรวจจับความเร็วในบริเวณดังกล่าว เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนของประชาชนในการเดินทางมากขึ้นด้วย พล.ต.ต.ธีรพล กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: