ฉะเชิงเทรา – จัดระเบียบสังคมบนฟุตบาทริมทางเท้าเมืองแปดริ้ววุ่น แม่ค้าโวยถามฝ่ายเจ้าหน้าที่จะให้คนจนไปทำกินกันที่ไหน ขณะบางรายร้องไห้ครวญวอนเห็นใจบอกลูกยังเล็กกำลังเรียนหนังสือ ด้านเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา เตรียมเข้าเจรจาขอพื้นที่ห้างสรรพสินค้าหาทางออกให้ก่อนลุยไล่รื้อเกลี้ยง
วันที่ 21 ก.พ.61 เวลา 09.30 น. ที่บริเวณริมถนนสิริโสธร (314) บางปะกง-ฉะเชิงเทรา ช่วงตอนฝั่งตรงข้ามสถานีขนส่งผู้โดยสารฉะเชิงเทรา หน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีฉะเชิงเทรา สาขา 1 ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยกำลังฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งนำโดย นายปราโมทย์ ศรจรัสสุวรรณ หัวหน้าฝ่ายป้องกันและรักษาความสงบเรียบร้อยเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา นายเสรี เพ็งสาท ผอ.กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ทม.ฉะเชิงเทรา พ.ต.ท.เตชทัต เนตรุวงศ์ สารวัตรจราจร สภ.เมืองฉะเชิงเทรา
ได้นำกำลังเข้าเจรจาพร้อมสั่งให้ผู้ค้าขายสินค้าบนทางเท้าบริเวณริมถนนด้านหน้าห้างสรรพสินค้าดังกล่าวจำนวนกว่า 30 ราย ทำการรื้อถอนร้านค้าแผงลอยที่ตั้งวางสิ่งของม้านั่งในร้านค้าเรียงรายอยู่เต็มบนฟุตบาทออกไปจากพื้นที่สาธารณะ พร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่กองสาธารณะสุขฯ เข้าทำการรื้อถอนร้านค้าที่ไม่มีเจ้าของร้านเข้ามาแสดงตนรับผิดชอบดูแลออกไปจากพื้นที่
ขณะเดียวกันระหว่างการดำเนินการ ได้มี นางชนิดา วันหลั่ง อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78/48 ถ.สิริโสธร ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา เจ้าของร้านค้าขายน้ำและกาแฟ เครื่องดื่มชนิดต่างๆ ได้ออกมาร้องถามต่อทางเจ้าหน้าที่ว่า “จะให้คนจนไปทำกินกันได้ที่ไหน” โดยระบุว่าแม่ค้าคนจนไม่เรื่องมากทางเจ้าหน้าที่บอกให้ทำอะไรก็ให้ความร่วมมือทำให้มาโดยตลอดทุกครั้ง แต่อยากขอพื้นที่ทำกินบ้างเพราะไม่รู้จะไปที่ไหน ไม่รู้จะทำอาชีพทำกินอะไร
“ขอถามถึงนายกฯ หน่อยเถอะว่า เห็นคนจนบ้างหรือเปล่า บ้านเมืองโจรมันเยอะเพราะเขาไม่มีที่ทำกินไง คนเรียนจบ ป.5 ป.6 ไม่ได้มีความรู้อะไร แม่ค้าก็ยอมมาทุกอย่างแล้ว จะให้ทำพื้นที่ให้สะอาดขนาดไหนก็ทำให้ จะกั้นเขตกั้นแนวก็บอกก็ยอม แต่ขอให้ได้ที่ทำกินบ้างเพราะบ้านก็ต้องเช่าข้าวก็ต้องซื้อลูกก็ต้องเรียน ไม่สงสารคนจนกันเลยหรือทุกวันนี้เศรษฐกิจก็ย่ำแย่กันอยู่แล้ว อยู่กันแค่พอมีพอกินไปวันๆ หนี้สินก็ยังมีแล้วรัฐบาลจะทำอย่างไรขอถามหน่อยเถอะคนจนมีแต่ความจริงใจ อย่างนี้คนจนตายหมดพอไปลักเล็กขโมยน้อยก็ติดคุก ถ้าประชาชนกินหญ้าได้ก็คงไม่ต้องเดือดร้อนทำมาหากินแล้ว” นางชนิดา กล่าว
ส่วนนางนุศรา บัวทองคำ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/3/3 ม.1 ต.บางตีนเป็ด อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา แม่ค้าขายอาหารตามสั่ง กล่าวทั้งน้ำตาว่า หลังจากนี้ครอบครัวของตนคงต้องเดือดร้อนลำบากอย่างหนักหลังจากไม่มีที่ค้าขายทำมาหากินและบุตรสาวก็กำลังเรียนกำลังต้องใช้เงิน ส่วนสามีทำงานเป็นช่างแอร์ไดนาโมที่ต้องเช่าร้านเล็กๆ เปิดรับซ่อมเดือนละ 6,500 บาท แต่ไม่ค่อยมีงานเข้ามาให้ทำเนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี รายได้จากการขายอาหารตามสั่งริมทางเมื่อหักต้นทุนแล้วเหลือวันละ 400-500 บาท ก็แค่พอได้ใช้ไปวันๆ เท่านั้น ดีกว่าไปรับจ้างเป็นลูกจ้างเขา นางนุศรา กล่าว
ด้าน นายเสรี กล่าวว่า หลังการเข้าเจรจารื้อถอนร้านค้าริมทางแล้วพบปัญหาที่มีผลกระทบต่อการประกอบอาชีพของประชาชน ทางเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา จะได้นำเรื่องนี้เข้าไปหารือกับทางห้างสรรพสินค้าเพื่อให้ช่วยพิจารณาในการขอแบ่งพื้นที่บริเวณด้านหน้าโดยขยับออกมาจากเขตทางเดินเท้าเข้ามายังภายในเขตของทางห้างฯ ประมาณ 2 เมตร ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของลานจอดรถของห้างฯ เพื่อให้ทางผู้ค้าขายริมทางเท้าเดิมเข้ามาเช่าขายของจากทางห้างฯ ต่อไป ซึ่งทางห้างสรรพสินค้าจะให้ความร่วมมือช่วยเหลือได้หรือไม่ยังคงต้องรอผลการเจรจาต่อไป
ขณะที่ น.ส.กนกชนันท์ ช่อรักษ์ ผู้จัดการห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ฉะเชิงเทรา 1 กล่าวว่า หลังจากได้รับการประสานงานและพูดคุยเจรจากันแล้วจากทางเทศบาลเมืองฉะเชิงเทราถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้รับเรื่องไว้เพื่อนำเสนอไปยังทางสำนักงานใหญ่ให้ทำการพิจารณาต่อไป โดยทางตนไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้นเป็นดุลยพินิจของทางสำนักงานใหญ่เท่านั้น ตนเองจึงไม่สามารถรับปากหรือตัดสินใจให้ได้ในขณะนี้
