โรงเรียน ยืนยันเด็กแปดขวบถูกตีตราเป็นเพชฌฆาตฆ่าแมว เป็นฝ่ายถูกเพื่อนแกล้งหยอกล้อมากกว่าที่จะไปกลั่นแกล้งคนอื่นหรือชอบความรุนแรง เหตุจากเป็นเด็กที่มีพัฒนาการที่ล่าช้ากว่าวัย หรือเป็นเด็กสมาธิสั้น แต่ไม่ได้มีจิตใจที่โหดร้ายหรือเป็นไปตามที่ตกเป็นข่าวผ่านสื่อ
วันที่ 21 พ.ค.62 นายทิพากร พิศโฉม ผอ.โรงเรียนวัดประศาสน์โสภณ (ท่าพลับสุนทร) ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนในระดับชั้นอนุบาลจนถึงชั้นประถมศึกษาในท้องถิ่น ใน ต.ท่าพลับ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ที่เด็กชายวัย 8 ขวบเรียนหนังสืออยู่ กล่าวถึงข่าวที่ถูกเผยแพร่ออกไปอย่างกว้างขวางว่ามีเด็กนักเรียนในโรงเรียนตกเป็นจำเลยสังคม ถูกระบุออกผ่านสื่อว่าชอบฆ่าแมวนั้น
นายทิพากร กล่าวว่า เด็กชาย 8 ขวบรายนี้ กำลังเรียนอยู่ในระดับชั้น ป.2 ซึ่งปกติจะเป็นเด็กที่มีการเรียนรู้ช้า หรือมีพัฒนาการทางสมองที่ช้ากว่าวัยตั้งแต่กำเนิด หรือทางการแพทย์เรียกว่าเป็นเด็กสมาธิสั้น จึงทำให้การพูดจาตอบโต้กับครูและเพื่อนๆ ช้ากว่าเด็กคนอื่นๆ ในวัยเดียวกัน แต่ไม่พบว่ามีพฤติกรรมในเรื่องของความรุนแรง และส่วนใหญ่มักจะถูกเพื่อนๆ แกล้งหยอกล้อมากกว่าจะเป็นฝ่ายไปแกล้งคนอื่น
หากถามว่าเด็กมีจิตใจที่โหดร้ายหรือไม่นั้น ไม่เคยพบเนื่องจากที่โรงเรียนก็มีแมวเข้ามาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ก็ไม่เคยเห็นว่าเด็กชายรายนี้ไปกระทำอะไรกับแมว จึงอยากให้เข้ามาดูตัวตนจริงๆ ของเด็ก อยากให้ช่วยเข้ามาพิจารณาดูใหม่อย่างรอบครอบก่อนที่จะนำไปเสนอข่าว ที่ผ่านมาทางโรงเรียนก็เคยให้ทุนการศึกษาแก่เด็กในฐานะเด็กนักเรียนยากจน เมื่อช่วงวันเด็กที่ผ่านมา นายทิพากร กล่าว
ด้าน นางจินดา นกสุวรรณ ครูชำนาญการพิเศษ (คศ.3) ซึ่งเคยเป็นครูประจำชั้น ป.1 ของเด็กชาย 8 ขวบ เมื่อปีการศึกษาที่ผ่านมา กล่าวว่า เด็กชายรายนี้ตอนที่อยู่ในความดูแลที่โรงเรียนตลอด 1 ปี ที่ผ่านมานั้น ก็เป็นเด็กที่น่ารักไม่ค่อยพูดจาแต่ก็เล่นกับเพื่อนๆได้ปกติ ซึ่งส่วนใหญ่นั้นชอบเล่นหยอกล้อต่อสู้กันตามประสาเด็กผู้ชาย และยังไม่เคยพบว่ามีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว รุนแรงมาก่อน จนเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนๆ
นอกจากนี้ยังไม่เคยพบเห็นว่าเด็กจะชอบเล่นแมวหรือรังแกสัตว์ที่โรงเรียนมาก่อนเลย จากข่าวที่เกิดขึ้นตนจึงคิดว่าไม่น่าจะมีการนำเสนอข่าวออกไปแบบนี้ เพราะว่าเด็กก็ยังเป็นเด็กมีความบริสุทธิ์ อาจจะเล่นอะไรทำอะไรเพราะความไม่รู้ หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะไม่รู้เรื่อง จึงอยากฝากไปถึงสื่อบางสำนักว่าก่อนที่จะนำเสนอข่าวอะไรออกไปควรจะหาข้อมูล หรือข้อเท็จจริงให้รอบด้านเสียก่อนที่จะมีการนำเสนอออกไปสู่คนในสังคม
ครั้งแรกเมื่อได้ยินข่าว หรือทราบข่าวจากสื่อ ตนเองก็ไม่เชื่อว่าจะเป็นเรื่องจริง ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นพฤติกรรมของเด็กที่เคยอยู่ในความดูแล ที่เคยรักและเอ็นดูละแบ่งปันสิ่งของและขนมให้ เพราะทราบว่าทางครอบครัวไม่ค่อยมีความพร้อมที่จะดูแลเขามากนัก นางจินดา กล่าว
ขณะที่นายเชวงศักดิ์ ประเสริฐ อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54/2 ม.2 ต.หนองบัว อดีตนายก อบต. และกำนัน ต.หนองบัว กล่าวว่า ในช่วงเวลาประมาณเกือบ 10.00 น.ของวันเกิดเหตุ ตนซึ่งมีบ้านเรือนอยู่ฝั่งตรงข้ามกันกับบ้านพักของเด็ก ได้ออกมาพบซากแมวนอนตายอยู่ที่บริเวณริมกำแพงรั้วหน้าบ้านในสภาพถูกรถชนเหยียบจนตายคาพื้นถนนอยู่ก่อนแล้ว
แต่พอกลับเข้ามาบ้านในช่วงสายของวันนั้นกลับไม่พบซากของแมวอีก แต่ไม่ได้คิดอะไร จนมาพบว่าตกเป็นข่าวแพร่กระจายไปทั่วประเทศ จึงได้คิดว่าเด็กชายวัย 8 ขวบน่าจะมาลากซากแมวไปเล่น เพราะปกติเห็นชอบเล่นกับแมวอยู่เป็นประจำ แต่จากข่าวที่เกิดขึ้นได้ทำให้เสียชื่อหมู่บ้าน เพราะสื่อเขียนข่าวจนเกินเลยจากความเป็นจริงไป จากเดิมที่หมู่บ้านอยู่กันอย่างสงบแต่ตอนนี้กลับมีความวุ่นวายเกิดขึ้นเข้ามามากมายจากเรื่องนี้ นายเชวงศักดิ์ กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: