ยายถูกล่ามโซ่ เมื่อปีกลาย ตายแล้วเผานาน 7 วัน จบสิ้นชีวิตดราม่า ฝ่ากระแสสังคม หลังน้องสาวผู้ดูแลต้องกลายเป็นจำเลยในสายตาชาวโลก ก่อนเผยถึงความจำเป็นที่ต้องพันธนาการ เหตุจากพี่สาวป่วยอัลไซเมอร์หลงลืมหายออกจากบ้านบ่อยครั้ง ท้ายสุดได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจนความเป็นอยู่ดูดีขึ้น
วันที่ 6 ก.ค.62 เวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าตรวจสอบยังบริเวณใต้ถุนบ้านเลขที่ 35 ม.6 ต.ท่าถ่าน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเคยเป็นที่พักอาศัยของ น.ส.เชื่อม บุญมี หรือ ยายแอ้ว อายุ 85 ปี ผู้ที่เคยถูกกระแสสังคมโซเชียลประโคมจนเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วประเทศ และมีสื่อกระแสหลักหลายสำนักนำเสนอเป็นข่าวใหญ่สู่สังคมตามมา เมื่อวันที่ 5 เม.ย.61
กรณียายแอ้ว ถูกน้องสาวซึ่งเป็นผู้ดูแลผูกล่ามด้วยโซ่ไว้ ที่บริเวณใต้ถุนบ้านดังกล่าว จนเกิดมีรอยบาดแผลช้ำที่ข้อเท้า เหตุจากป่วยด้วยโรคหลงลืม (อัลไซเมอร์) และชอบเดินหายออกจากบ้านจนต้องออกติดตามหาตัวกันอย่างวุ่นวาย ทั้งยังมักจะออกไปเก็บหาผลไม้ป่ากินจนเกิดอาการท้องเสียบ่อยครั้ง และต่อมาทางอำเภอพนมสารคาม พร้อมด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้เข้ามาสร้างห้องลูกกรงไม้ไว้ให้พักอาศัยแทนการถูกล่ามโซ่ที่ข้อเท้านั้น
ข่าวน่าสนใจ:
- จัดใหญ่!! งานสมโภชน์ปึงเถ่ากง-ม่า ปี'67 จ.ขอนแก่น 10 วัน 10 คืน
- งามไส้ข้ามแดน-บุกรวบนักร้องสาวชื่อดังมาเลย์,ยาบ้ากว่า 6 พันเม็ด คาห้องพักโรงแรม
- ชัยภูมิหนูน้อยวัย 9 ขวบลีลาเป่าแคนนำแก้บนไม่ธรรมดาเตรียมบันทึกประวัติศาสตร์ครั้งใหญ่รอบ 198 ปีเมืองชัยภูมิ
- ในหลวงพระราชทานชื่อพระประธานวัดสุวรรณดารารามราชวรวิหาร
ปรากฏว่า ในวันนี้พบแต่เพียงความว่างเปล่าของห้องพักกรงไม้ ที่ยายแอ้วเคยนอนพักอาศัย สอบถามจากญาติ ทราบว่า นางแอ้วได้เสียชีวิตลงแล้ว เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 29 มิ.ย.62 ที่ผ่านมา เหตุจากไม่ยอมรับประทานอาหารเป็นเวลานานถึง 7 วัน โดยญาติผู้ดูแลได้พยายามที่จะป้อนข้าวให้กิน แต่ก็ถูกยายแอ้วบ้วนทิ้งจนหมด ทั้งที่ปกติยายแอ้วจะเป็นคนที่กินจุ
หลังการเสียชีวิตลง ได้มีพิธีการสวดพระอภิธรรมศพเป็นเวลา 2 คืน ที่วัดใหม่เกาะมะม่วง ซึ่งเป็นวัดใกล้บ้านและทำการฌาปนกิจศพไปแล้วเมื่อเวลา 15.00 น. ของวันที่ 1 ก.ค.62 จนครบ 7 วันเมื่อวันที่ 5 ก.ค.62 ที่ผ่านมา ทางญาติจึงได้ประกอบพิธีทำบุญเลี้ยงพระครบ 7 วันของการเสียชีวิตไปแล้วเมื่อวานนี้
ซึ่งถือเป็นการสิ้นสุดเรื่องราวชีวิตของยายแอ้ว หญิงสาวโสด ผู้พิการทางด้านความทรงจำจนเกิดเป็นเรื่องราวดราม่าในสังคมโซเชียล ที่ถูกกระพือไปไกลแบบสุดโต่ง จนเกิดกระแสความเกลียดชังจากผู้ที่แสดงความคิดเห็นด่าทอน้องสาวผู้ดูแล จากการรับรู้ข้อมูลเพียงด้านเดียวของผู้บริโภคข่าวสารยุคใหม่ ก่อนที่สื่อกระแสหลักจะเข้ามาร่วมพิสูจน์ให้เห็นถึงข้อเท็จจริง ความจำเป็นในการดูแลผู้ป่วยและผู้พิการทางด้านความทรงจำให้กระจ่างชัดขึ้น และได้รับความช่วยเหลือด้วยดีในที่สุด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: