สาวแปดริ้ว อ้างไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการบริหารงานภายใน รพ.ศูนย์การแพทย์แห่งหนึ่ง ย่านพื้นที่รอยต่อสามจังหวัด หลังถูกกลั่นแกล้งขับไล่ให้พ้นพื้นที่การค้าขายของทางโรงพยาบาล ทั้งที่เพิ่งได้รับหนังสืออนุญาตให้ใช้พื้นที่ใหม่ ขณะผู้ค้าอีกรายโวยเชื่อการประมูลให้เช่าพื้นที่ไม่โปร่งใส
วันที่ 27ก.ค.62 น.ส.พรรณวดี เพชรดำ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 266 ม.5 ต.โพรงอากาศ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ได้เข้าร้องเรียนต่อทางผู้สื่อข่าวว่า ตนเองเป็นผู้เช่าพื้นที่ค้าขาย ขนาด 12.6 ตรม. อยู่ภายใน รพ.ศูนย์แห่งหนึ่ง บริเวณย่านรอยต่อสามจังหวัด (นครนายก ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี) ใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก เพื่อทำร้านกาแฟมานานถึงกว่า 11 ปีแล้ว
ต่อมาทาง รพ.แจ้งว่าจะขอใช้ประโยชน์ในพื้นที่เดิมที่ตนเองเคยได้รับมาจากการชนะการประมูลสิทธิ์ในการเช่าพื้นที่ ตรงบริเวณใต้บันได ในการนำไปทำเป็นสถานที่ขายเวชภัณฑ์ โดยจะให้ตนเองนั้นย้ายออกไปยังพื้นที่แห่งใหม่ตรงบริเวณด้านข้างหอพระ ซึ่งตนนั้นก็ได้ยินยอมพร้อมที่จะไปทำการค้าขายยังพื้นที่ใหม่แต่โดยดี ขณะเดียวกันทางผู้บริหาร รพ. ยังได้มีการเซ็นหนังสือยินยอมอนุมัติให้ตนไปใช้พื้นที่ใหม่แทนพื้นที่เดิมที่เคยได้รับการประมูลมา
แต่ต่อมาทางผู้บริหารกลับมีท่าทีเปลี่ยนใจไม่ยินยอมให้ตนเองนั้นเข้าไปใช้พื้นที่แห่งใหม่ อีกทั้งยังได้พยายามขับไล่ให้ตนออกไปจากพื้นที่ค้าขายเดิมทั้งที่เป็นพื้นที่ ที่เคยผ่านกระบวนการประมูลสิทธิในการเช่าใช้ประโยชน์มาอย่างถูกต้อง ด้วยการตัดน้ำตัดไฟและสิ่งอำนวยความสะดวกออกไปจนหมด ทำให้ตนได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากยังต้องการที่จะทำการประกอบอาชีพค้าขาย อีกทั้งยังได้มีการเตรียมการที่จะลงทุนทำร้านค้าแห่งใหม่ตรงบริเวณหอพระ ที่ทาง รพ.เคยระบุให้ไว้เพื่อทดแทนพื้นที่ร้านค้าเดิมแล้ว
ขณะเดียวกันตลอดระยะเวลาที่ตนทำการค้าขายอยู่ภายใน รพ.ศูนย์แห่งนี้ ก็ได้มีการเอื้อประโยชน์ให้แก่ทาง รพ.มาโดยตลอด ทั้งมีการแบ่งส่วนแบ่งรายได้จากการขายกาแฟในแต่ละแก้ว และการบริจาคทรัพย์สินเพื่อเป็นการกุศลให้แก่ทางโรงพยาบาล ตลอดจนค่าเช่ารายเดือนจำนวน 12,140 บาทต่อเดือน และยังเสียค่าธรรมเนียมรายปีอีก จำนวน 30,270 บาทต่อปีให้แก่ทาง รพ. แต่เมื่อเปลี่ยนผู้บริหารใหม่กลับมีความพยายามที่จะเข้ามาขับไล่ ให้ตนออกไปจากพื้นที่อย่างไม่เป็นธรรม
โดยทาง รพ.ยังไม่ยินยอมให้ตนเข้าไปใช้พื้นที่บริเวณด้านข้างหอพระตามที่ได้เคยมีหนังสืออนุมัติเห็นชอบไปแล้ว ในการเข้าไปพัฒนาปรับปรุงให้เป็นร้านค้าตามหนังสือยินยอมก่อนหน้านี้ ทั้งยังได้นำพื้นที่ไปทำการเปิดประมูลให้แก่ผู้ค้ารายอื่นเข้ามาประมูล ซึ่งทั้งตนที่เป็นผู้ค้ารายเดิม และผู้ที่มาเข้าร่วมประมูลใหม่อีกหลายรายนั้น ต่างเห็นตรงกันว่ากระบวนการประมูลสิทธิ์ในการเช่าพื้นที่ในครั้งนี้มีการล็อกสเปกไม่โปร่งใส
เนื่องจากกระบวนการและขั้นตอนนั้นไม่เป็นที่เปิดเผย และผู้ที่ชนะการประมูลได้สิทธิการเช่าพื้นที่ไปนั้น ยังเป็นคนภายใน รพ.แห่งนี้อีกด้วย น.ส.พรรณวดี กล่าว
ด้าน นายภัทร์ ศรีเพ็ชร์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 ม.6 ต.บางแตน อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี ผู้เข้าร่วมประมูลพื้นที่ข้างหอพระเพื่อทำการค้าหลังจากทาง รพ.นำพื้นที่มาทำการเปิดประมูล กล่าวว่า ตนเชื่อว่ากระบวนการในการประมูลพื้นที่ดังกล่าวในครั้งนี้ไม่น่ามีความโปร่งใส หรือมีการดำเนินการอย่างเป็นธรรม และเชื่อว่าน่าจะมีการฮั๊วประมูล
เพราะหลังจากทราบผลการประมูลแล้วตนได้พยายามเข้าไปขอพบกับทางผู้บริหารของทาง รพ.ศูนย์แห่งนี้ เพื่อขอรับคำชี้แจง เนื่องจากอยากทราบถึงข้อเท็จจริง ในข้อดีข้อด้อยของทางร้าน ว่าผู้ชนะการประมูลที่ได้รับสิทธิ์ในพื้นที่ไปนั้นมีข้อเสนอหรือมีอะไรที่ดีกว่าทางร้านของตนที่เสนอไป เพื่อจะได้นำมาปรับปรุงเปรียบเทียบกัน แต่กลับไม่ได้รับการอนุญาตให้เข้าพบและไม่มีการชี้แจงถึงรายละเอียดใดๆ ให้ทราบถึงผลการประมูลให้แก่ผู้เข้าร่วมประมูลรายอื่นๆ ทราบด้วย
อีกทั้งผู้ชนะการประมูลรายใหม่นั้น ทราบว่าเป็นนายแพทย์ใน รพ.แห่งนี้อีกด้วย ตนจึงเห็นว่าการเปิดประมูลพื้นที่ เพื่อให้เอกชนเข้ามาทำการค้าขายภายใน รพ.ศูนย์แห่งนี้ ไม่มีความโปร่งใสเป็นธรรมต่อผู้เข้าร่วมประมูลรายอื่นๆ เพราะหากมีการดำเนินการที่เป็นไปอย่างโปร่งใสจริงนั้น น่าจะสามารถเปิดเผยถึงรายละเอียดให้แก่ผู้เข้าร่วมประมูลรายอื่นๆ และประชาชนทั่วไปได้ทราบด้วย นายภัทร์ กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: