ศพน้องมิ้นท์ เผาตัวตายหนีปัญหาป่วยโรคซึมเศร้ากลับถึงแปดริ้วแล้ว ขณะญาตินำตั้งบำเพ็ญกุศลที่ศาลาชายน้ำวัดแหลมใต้ ด้านผู้เป็นมารดาเผยไม่เคยทราบถึงปัญหาในเรื่องส่วนตัวของบุตรสาวมากนัก ส่วนเรื่องอดีตสามีเชื่อไม่น่าเกี่ยวข้อง เหตุจากหลังเลิกรายังคงไปมาหาสู่กันได้เพราะยังมีบุตรด้วยกัน เผยวันเกิดเหตุไม่มีลางบอกเตือนให้ล่วงรู้ก่อน
วันที่ 31 ก.ค.62 เวลา 15.00 น. ที่ศาลาชายน้ำ (ธีระสงวนดีกุล) วัดแหลมใต้ (สุตสุนทร) อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ทางญาติของ น.ส.พัตราภรณ์ คูประเสริฐ อายุ 33 ปี หญิงสาวสวยหน้าตาดี ซึ่งป่วยด้วยโรคซึมเศร้าก่อนก่อเหตุให้น้ำมันเบนซินเทลาดตัวและจุดไฟเผาร่างกายของตนเองจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ภายในบริเวณบ้านเลขที่ 152/5 ถ.วรรณยิ่ง ซ.3 (ซอยสุจิน) ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ได้เดินทางไปรับศพกลับมาจาก รพ.ชลบุรี เพื่อนำมาตั้งบำเพ็ญกุศลยังที่ศาลาแห่งนี้แล้ว
โดยศพของน้องมิ้นท์ หรือน้องมีนตามที่มารดาเรียก ได้ถูกเคลื่อนย้ายเดินทางกลับมาถึงยังที่บริเวณศาลาวัด เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ก่อนนำบรรจุเข้ายังภายในโลงศพเพื่อตั้งพิธีในทันที โดยจะมีการสวดพระอภิธรรมเป็นเวลา 5 คืน ในเวลา 20.00 น. ระหว่างวันที่ 31 ก.ค.-4 ส.ค. และจะมีพิธีฌาปนกิจ ประชุมเพลิงในเวลา 16.00 น.วันที่ 5 ส.ค.62 ตามกำหนดการที่ได้มีการเขียนขึ้นกระดานดำที่บริเวณด้านหน้าศาลาไว้
ขณะที่ นางบัณพร คูประเสริฐ อายุ 52 ปี มารดาของน้องมิ้นท์ กล่าวว่า ตนเองนั้นยังไม่ทราบถึงสาเหตุจนทำให้น้องมีนหรือน้องมิ้นท์ นั้นต้องก่อเหตุเผาตัวเองเลย และในวันเกิดเหตุตนเองนั้นก็ไม่ได้อยู่ด้วย เพราะตนอยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง ส่วนตัวน้องนั้นมานอนอยู่ที่บ้านยาย มาทราบอีกครั้งก็ในตอนที่น้องเขาถูกส่งไปถึงยังโรงพยาบาลพุทธโสธรแล้ว
ก่อนหน้าที่น้องจะมานอนอยู่กับยายนั้น ไม่ได้ทะเลาะอะไรกับใครมาก่อน เพราะเขาคิดถึงยายจึงมานอนด้วย จะมีก็แค่ถกเถียงกันบ้างเพียงเล็กน้อยแค่คำสองคำเท่านั้น ซึ่งไม่ได้โกรธอะไรกัน แต่เขาอยากมานอนบ้านยายเขามากกว่า เนื่องจากผู้เป็นยายนั้น ได้เป็นผู้ที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เขายังตัวเล็กๆ
ในเรื่องของอาการซึมเศร้านั้นก็พอทราบ ส่วนสาเหตุที่บุตรสาวต้องตกอยู่ในอาการซึมเศร้าจนผิดปกติไปนั้น ไม่ทราบ ก็อาจเป็นปัญหาของเขาที่เขาไม่ได้เล่าให้ใครรู้ เนื่องจากบางครั้งเขาก็เล่าให้เราฟัง บางครั้งเขาก็ไม่ได้เล่าให้ฟัง เราจึงไม่ได้รู้ไปทั้งหมดทุกเรื่อง ส่วนเรื่องเกี่ยวกับอดีตสามีนั้นไม่น่าเกี่ยวข้อง เนื่องจากทั้งสองคนได้แยกกันอยู่จริง แต่ก็ยังมีบุตรด้วยกันจึงยังไปมาหาสู่กันอยู่ และไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน จึงเป็นการแยกกันอยู่เฉยๆ
ส่วนปัจจัยที่ทำให้น้องเขาซึมเศร้าไปนั้น น่าจะมีปัญหามาจากหลายเรื่อง เนื่องจากเขาขายของหลายอย่าง และทำธุรกิจหลายอย่าง เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่หลายเรื่อง จึงอาจจะต้องมีอะไรสักอย่างที่เป็นสาเหตุ ซึ่งเราก็ไม่รู้ เราก็ไม่เข้าใจเขา เพราะบางครั้งเขาก็ไม่ได้เล่าอะไรให้เราฟัง บางอย่างเขาอยากเล่าเขาก็เล่าให้ฟังถ้าเขาไม่เล่าเราก็ไม่อยากเข้าไปอะไรกับเขามากเพราะเขาโตแล้ว นางบัณพร กล่าว
และกล่าวต่อว่า สำหรับสาเหตุที่น้องเขาเลิกกับแฟนนั้นตนก็ไม่รู้ เพราะว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา แต่ที่เห็นเขาเลิกกันเขาก็ไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน ก็เห็นว่าแยกกันอยู่ไปเฉยๆ โดยแยกกันมาได้ประมาณเกือบ 1 ปีแล้ว โดยที่เขาก็ยังผลัดกันดูแลบุตรชายวัย 4 ขวบกันอยู่ โดยปัญหาลึกๆ นั้นตนไม่ทราบเลยจริงๆ เพราะเราก็ไม่ได้ไปซักไซ้อะไรเขา เพราะเขาโตแล้ว นอกจากเขาอยากจะพูดเราก็ฟังเท่านั้น โดยเราก็ให้อิสระแก่เขาเราจึงไม่ทราบ
ที่ผ่านมาที่มีคนเคยบอกว่าน้องมีนเคยเฟื่องฟูนั้นก็จริง แต่เศรษฐกิจมันพลิกผันก็เลยเปลี่ยนแปลงไป โดยเมื่อก่อนขายเสื้อผ้าออนไลน์ เนื่องจากเขามีเพื่อนมากและเปลี่ยนสินค้าไปเรื่อยๆ มีสินค้าอะไรขายดีก็จับเอามาขาย จนมีบ้านมีรถ โดยที่เขาซื้อบ้านเองให้แม่อยู่ หลังจากที่เขาเสียแล้วแม่ก็จะอยู่กับน้องสาวเขาต่อไป ส่วนบุตรชายของเขาทางฝ่ายพ่อเด็กนั้นจะเอาไปดูแล เมื่อคิดถึงเราก็ไปหาเขาได้
ในวันก่อนเกิดเหตุไม่ได้มีลางบอกเหตุอะไรมาก่อน ก็ยังนั่งรับประทานข้าวอยู่ด้วยกันกับตนอยู่เลย และยังพูดคุยกันอยู่อย่างปกติ จึงเชื่อว่าอาจจะเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบ ที่คิดจะทำแล้วก็ทำเลยเพียงชั่วระยะเวลาแป๊บเดียว โดยที่ไม่มีใครคาดคิด ปกติก่อนหน้าน้องเป็นคนร่าเริง ชอบสนุกสนานไปเที่ยวกับเพื่อนฝูงตามปกติ เพิ่งจะมามีอาการซึมลงในช่วงหลังๆ นี่เอง ซึ่งก็อาจจะมีเรื่องเครียดที่อยู่ในใจเขาแต่เราไม่รู้
สำหรับตนเองนั้นมีบุตรสาวจำนวน 2 คน คือ น้องมีน ซึ่งเป็นพี่สาวคนโต และมีน้องสาวชื่อน้องมุ่น โดยน้องมีนนั้นเป็นชื่อที่ตนเองเรียกตั้งให้ ส่วนมิ้นท์นั้น เป็นชื่อที่คนอื่นเขาอยากเรียกเพี้ยนไปกันเอง ตามแต่เพื่อนเขาจะเรียก แต่ก็เรียกได้ทั้งสองชื่อ นางบัณพร กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: