ฉะเชิงเทรา – เพลิงไหม้โกดัง โรงงานรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ขณะคนงานกว่า 400 คนกำลังทำงานคัดแยกขยะอยู่ภายใน เสียหายกว่า 5 ล้านบาท เบื้องต้นไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต พบสาเหตุมาจากอุปกรณ์ควบคุมวงจรไฟฟ้าติดตั้งอยู่ใกล้กับเตาเผามากเกินไปทำให้เกิดการละลายจนสปาร์คช็อตกันระเบิดเป็นประกายไฟก่อนปลิวไปตกใส่ลงในกองเก็บขยะ
วันที่ 23 มี.ค.61 เวลา 15.30 น. ร.ต.อ.นิติพัฒน์ ศรีหาบุตร รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในโรงงานรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ บริษัท ดับบลิว เอ็ม ดี ไทย รีไซคลิ้ง จำกัด เลขที่ 33 ม.12 ต.แปลงยาว อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ของชาวจีน ตั้งอยู่ริมถนนในหมู่บ้านหนองหอย ห่างจากด้านหลังของนิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ซิตี้ ทางทิศใต้มาประมาณ 800 เมตร ทำให้มีกลุ่มควันไฟพวยพุ่งออกมาเป็นจำนวนมาก จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณตัวอาคารโกดังตั้งอยู่ทางด้านหลังของพื้นที่โรงงาน ลึกเข้าไปยังภายในประมาณ 200 เมตร ปลูกสร้างแบบโครงสร้างโลหะยกหลังคาสูง ผนังตัวอาคารสร้างด้วยแผ่นสังกะสีเมทัลชีท ด้านบนหลังคามุงด้วยกระเบื้อง ขนาดกว้าง 80 เมตร ยาว 100 เมตร พบต้นเพลิงกำลังลุกไหม้ถุงบิ๊กเบ็ค ใส่เศษขยะวงจรอิเล็กทรอนิกส์ทางด้านหลังของตัวอาคาร ใกล้กับบริเวณเตาหลอมเผาแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์
ข่าวน่าสนใจ:
โดยมีรถน้ำดับเพลิงจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในบริเวณใกล้เคียงจำนวน 6 แห่ง และทีมนักผจญเพลิง รถดับเพลิงเคมีจากบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง (โตโยต้า) จากภายในนิคมอุตสาหกรรมเกตุเวย์ ซิตี้ กำลังเข้ามาช่วยกันระดมฉีดน้ำดับเพลิงที่กำลังลุกลามไหม้อยู่ภายใน โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการดับเพลิงประมาณ 1 ชม. จึงสามารถทำการควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ในที่สุด
จาการสอบถาม นายพัลลภ นักเจริญ ปลัด อ.แปลงยาว ซึ่งเดินทางมายังในที่เกิดเหตุ กล่าวว่า โรงงานรีไซเคิลแห่งนี้เพิ่งเข้ามาก่อตั้งในพื้นที่ได้ไม่นานมากนัก เป็นของชาวจีนมีคนงานจำนวนประมาณ 400 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนงานต่างด้าว มาทำการคัดแยกขยะจำพวกแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และสายไฟ ออกจากกัน ก่อนที่จะนำแผงวงจรไปเข้าเตาเผาเพื่อเอาแต่เฉพาะลายแผงวงจรหรือส่วนที่ต้องการ ซึ่งเป็นเตาเผาขนาดกว้าง 1 เมตร ยาว 1 เมตร ติดตั้งวางอยู่เรียงรายจำนวนหลายเตา
โดยขณะเกิดเหตุเวลาประมาณ 14.48 น. ในขณะที่คนงานกำลังทำการเผาแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ได้เกิดการระเบิดขึ้นของแผงวงจรไฟฟ้าควบคุมเตาเผา จนมีสะเก็ดเปลวไฟจากการระเบิดกระเด็นไปตกใส่ลงยังในกองถุงบิ๊กเบ็คใส่ขยะแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่คัดแยกแล้วดังกล่าว จนกลายเป็นเหตุเพลิงไหม้ขึ้น มาแต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยตัวอาคารนั้นเสียหายเพียงบางส่วนรวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 5 ล้านบาท
สำหรับสาเหตุนั้น เชื่อว่าเกิดจากความร้อนจากเตาเผา ไปทำให้แผงวงจรควบคุมไฟฟ้าที่ถูกติดตั้งอยู่ใกล้กับเตาเผานั้นเกิดการละลาย จนทำให้เกิดการสปาร์คช็อตกันของวงจรไฟฟ้าและระเบิดเป็นประกายไฟเกิดขึ้น ส่วนความชัดเจนนั้นต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
ขณะที่ผลกระทบต่อชาวบ้านและคนในชุมชนนั้น คาดว่าอาจมีไม่มากนัก เนื่องจากพื้นที่รอบข้างส่วนใหญ่นั้น เป็นป่ามันสำปะหลังและมีบ้านเรือนของชาวบ้านตั้งอยู่เพียงห่างๆ แต่ก็อาจได้รับผลกระทบจากกลุ่มควันไฟจากการลุกไหม้บ้างเท่านั้น นายพัลลภ กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: