กำนันเขาดิน ยั๊วะพรรคการเมืองหน้าใหม่ขนกองทัพสื่อมวลชนเข้ามาสร้างภาพในพื้นที่ ก่อนนำชาวบ้านในตำบลเขาดินตัวจริงชูแผ่นป้ายแสดงจุดยืนหนุนโครงการพัฒนาในพื้นที่พิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) พร้อมสอนมวย ส.ส.หน้าใหม่ ระบุจากการกระทำเป็นการทำลายตัวเองเป็นผู้ร้ายในสายตาของคนเขาดิน
วันที่ 4 ส.ค.62 เวลา 13.20 น. ที่บริเวณวัดเขาดิน นายโชคป์ทวีท์ อ้นถาวร กำนันตำบลเขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ได้นำชาวบ้านในพื้นที่ตำบลเขาดินจำนวนเกือบ 100 คน ออกมาถือแผ่นป้ายผ้าไวนิลแสดงจุดยืน เพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาพื้นที่พิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) หลังจากมีกลุ่ม ส.ส.หน้าใหม่ จากพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ขนคณะสื่อมวลชนจากกรุงเทพฯ เข้ามาสร้างภาพบิดเบือนข้อเท็จจริงในความต้องการของชาวเขาดิน เมื่อวันที่ 31 ก.ค.62 ที่ผ่านมา
โดย นายโชคป์ทวีท์ ได้กล่าวแถลงการณ์ต่อหน้าสื่อมวลชนว่า หลังจากมีพรรคการเมืองหน้าใหม่พรรคหนึ่ง นำคณะสื่อมวลชนจากกรุงเทพฯ เดินทางเข้ามาในพื้นที่ ก่อนที่จะให้ข้อมูลสัมภาษณ์ และมีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อในข้อมูลที่บิดเบือนไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ที่มีการระบุว่ามีชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบความเดือดร้อนจากโครงการพัฒนาพื้นที่ ในตำบลเขาดินมากถึง 75 รายนั้นไม่เป็นความจริง
ซึ่งเดิมในพื้นที่ของโครงการ ที่มีบริษัทเอกชนจะเข้ามาพัฒนานั้นมีผู้ที่อยู่อาศัยทำกินอยู่จริงๆ แค่เพียง 13 รายเท่านั้นโดยเป็นเพียงผู้เช่าพื้นที่ และเจ้าของที่ดินเดิมนั้นเขาเต็มใจที่จะขายให้แก่ทางผู้ลงทุนและไม่ได้มีการเข้าไปขับไล่ชาวตำบลเขาดินให้ออกไปจากพื้นที่ แต่กลับมีคนนอกพื้นที่เข้ามาเคลื่อนไหวชักจูงคนเพียงแค่ 2-3 คน ให้ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านโครงพัฒนาพื้นที่ตำบลเขาดินในโครงการอีอีซี
ทั้งที่คนส่วนใหญ่ในตำบลเขาดินนั้นต้องการให้โครงการนี้เกิดขึ้น และมีการพัฒนาพื้นที่ให้มีความเจริญเกิดขึ้น เพื่อต้องการให้บุตรหลานของคนในพื้นที่มีงานทำใกล้บ้าน และมีเวลามากเพียงพอที่จะคอยดูแลคนในครอบครัว ทั้งพ่อแม่และผู้สูงอายุได้อย่างใกล้ชิด แต่กลุ่ม ส.ส.หน้าใหม่ ที่เข้ามาหาข้อมูลในพื้นที่เพียง 2-3 วันนั้น จะมารับรู้ถึงความต้องการที่แท้จริงของคนเขาดินได้อย่างไร
แต่กลับไปให้สัมภาษณ์และนำข้อมูลจากคนนอกพื้นที่ไปเขียนเป็นข่าว โดยที่ไม่ได้เข้ามาสอบถามจากคนที่ต้องการให้การสนับสนุนโครงการบ้างเลย ทั้งที่ตนเองนั้นก็ได้บอกไว้แล้ว ตั้งแต่แรกในวันที่พวกเขาเข้ามา ว่าอย่ามาสร้างปัญหาหรือเข้ามาบิดเบือนข้อเท็จจริงในพื้นที่ แต่ก็ยังมีการบิดเบือนเกิดขึ้น จนทำให้เราเสียหาย ทำให้คนเขาดินเสียโอกาสในการพัฒนา
จึงอยากถามคนที่มาจากที่อื่น ที่เข้ามาคัดค้านโครงการว่า จะมีใครเข้ามารับผิดชอบคอยดูแลพ่อแม่ปู่ย่าตายายของคนเขาดินไหม หากบุตรหลานไม่ได้มาคอยอยู่ดูแลอย่างใกล้ชิด ลูกหลานเรียนจบออกมาแล้วไม่มีงานทำใครจะรับผิดชอบ ผู้ที่มาคัดค้านจะเข้ามารับผิดชอบได้ไหม หากไม่มีโครงการพัฒนาในพื้นที่เกิดขึ้นต่อไป
ส่วน ส.ส.ซึ่งเป็นตัวแทนของชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา ช่วยกรุณาเอาความจริงไปเล่าสู่กันฟังดีกว่า ช่วยเข้ามาเสพความจริงจากคนในพื้นที่ของจริงดีกว่า ไม่ใช่ไปเสพข่าวจากคนภายนอกแล้วมาบิดเบือนข่าว จึงเป็นกระจกสะท้อนได้ว่า “ท่านได้มาลงพื้นที่เพียงวันสองวันแต่กลับไปให้ข่าวกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งหมายความว่า ท่านไม่ได้มีความรู้ความเข้าใจในพื้นที่จริงๆ ท่านเพียงแต่เสพข่าวแล้วบิดเบือนไปเท่านั้น”
จึงเป็นสิ่งที่น่าละอายอย่างมาก และเสียดายที่เป็นตัวแทนของประชาชน เหมือนมีนัยทางการเมือง ทั้งที่ตนเองได้เตือนแล้ว ว่าคุณลงพื้นที่พานักข่าวมาประชันหน้ากัน ซึ่งการมานั้นมาได้แต่อย่ามาสร้างความปั่นป่วนหรือบิดเบือนข้อมูลข่าว ขอให้ทำข่าวกันอย่างตรงไปตรงมา แต่ปรากฏว่า มีสื่อบางสำนักกลับนำไปบิดเบือนข่าวจริงๆ เช่น ในกรณีมีผู้เดือดร้อน 75 ครัวเรือนก็ไม่จริง เรื่องบังคับให้ชาวบ้านขายที่ดินก็ไม่จริง นี่คือความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
เป็นข้อมูลความรู้ที่เขามีประสบการณ์เพียงนิดเดียว แล้วมาฆ่าตัวเองมากกว่า แทนที่จะเข้ามาเป็นพระเอกในงาน แต่กลับกลายมาเป็นผู้ร้ายสำหรับคนเขาดินไปแล้ว ตนจึงคิดว่าเขาเสียหายเอง “โดยคุณเป็นถึง ส.ส. ควรที่จะเอาข้อเท็จจริงไปเผยแพร่ออกสื่อ แต่กลับเล่นผิดบท มาแบบผิดที่ผิดเวลา ทั้งที่เป็นคนรุ่นใหม่ ซึ่งล้วนหน้าตาดีๆ กันทั้งนั้น จะมาแสดงบทในการช่วยเหลือชาวบ้าน แต่กลับกลายมาทำร้ายตัวเองด้วยการบิดเบือนข่าวสาร”
ทำให้คนจำนวนมากของตำบลนี้เขารู้ว่าคุณพูดเท็จ เพียงเพราะมีคนมาสนับสนุนคุณเพียงไม่กี่คนที่ใช้คำเท็จมาพูดให้ฟัง ในวันนั้นไม่ได้มีการสัมภาษณ์คนที่มีความเดือดร้อนได้รับผลกระทบจริงๆ แต่กลับไปสัมภาษณ์คนที่กลุ่มต่อต้านนำพามา โดยคนที่พามานั้นเป็นคนจากนอกพื้นที่ทั้งสิ้น โดยกลุ่มคนพวกนี้มีอาชีพต่อต้านคัดค้านไปทั่วทั้งประเทศ ไปได้ทุกพื้นที่ ไปพูดทำให้เรื่องดีกลายเป็นเรื่องเสียไปหมด นายโชคป์ทวีท์ กล่าว
