ฉะเชิงเทรา – จนท.หลายฝ่ายลงพื้นที่เข้าตรวจสอบสนามกีฬาสุดอื้อฉาวย่าน อ.บางคล้า หลังชาวบ้านข้องใจที่ยังใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ เผยถูกสร้างเสร็จมาแล้วนานถึงเกือบ 2 ปีเต็ม ถูกใช้เป็นแหล่งมั่วสุมทางเพศและยาเสพติด ด้านรองผู้ว่าแปดริ้วจี้กรมพละศึกษาเร่งให้ผู้รับเหมาเข้ามาดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จภายใน 29 เม.ย.61 นี้
วันที่ 27 มี.ค.61 เวลา 11.00 น. ที่สนามกีฬาเทศบาลตำบลบางคล้า อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่จากหลายฝ่ายนำโดย นายชาธิป รุจนเสรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นายชูชาติ จั่นทอง นายอำเภอบางคล้า นายมงคล กี่จินดา ผอ.กองช่างเทศบาลตำบลบางคล้า นายสุรศักดิ์ หามนตรี สถาปนิกปฏิบัติการ นายปรุฬห์ โพธิ์เที่ยว นายช่างโยธาปฏิบัติการ กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อส. เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.บางคล้า และฝ่ายทหารชุดประสานงานและควบคุมพื้นที่ อ.บางคล้า รวมกว่า 20 นาย
ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อติดตามตรวจสอบการปรับปรุงแก้ไขปัญหาสนามกีฬาเทศบาลตำบลบางคล้า หลังจากได้มีชาวบ้านร้องเรียนผ่านไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด เกี่ยวกับปัญหาการจัดสร้างสนามกีฬาแห่งนี้ขึ้นมาจนแล้วเสร็จเมื่อประมาณกลางปี 2559 โดยผ่านมาเป็นเวลาเกือบ 2 ปีเต็มแล้ว แต่ชาวบ้านยังไม่สามารถเข้าไปใช้ประโยชน์อะไรได้ อีกทั้งยังกลายเป็นแหล่งมั่วสุมเริงรักทางเพศจนมีถุงยางอนามัยที่ผ่านการใช้งานแล้วทิ้งเกลื่อนอยู่เต็มบริเวณพื้นห้องน้ำภายในสนามกีฬา และเป็นแหล่งมั่วสุมเสพยาเสพติดอีกด้วย
หลังการลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบ นายชาธิป กล่าวว่า จากที่ได้รับการร้องเรียนผ่านทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา จึงได้ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบหรือเจ้าของงบประมาณเข้ามาดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมแก้ไขให้เป็นสนามกีฬาที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ตามแบบที่กำหนดเอาไว้โดยเร็ว
หลังจากที่ได้พูดคุยกับทาง จนท.กรมพลศึกษา ซึ่งเคยเป็นกรรมการตรวจรับงาน จำนวน 2 คนแล้ว ได้กำหนดว่าจะให้ทางผู้รับเหมาเข้ามาดำเนินการปรับปรุงให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 29 เม.ย.61 นี้ โดยให้กลับไปทำแผนถึงขั้นตอนในแต่ละวัน และในแต่ละสัปดาห์ว่าจะทำอะไรบ้าง
ส่วนในเรื่องเกี่ยวกับการตรวจรับของคณะกรรมการเมื่อเกือบ 3 ปีที่ผ่านมานั้น จะได้ให้คณะกรรมการตรวจรับได้ทำการชี้แจงต่อทางต้นสังกัดว่าได้มีการตรวจรับกันไปได้อย่างไร โดยที่ทางจังหวัดจะได้ทำหนังสือรายงานไปด้วยว่า การทำงานในพื้นที่ของสถานที่แห่งนี้นั้นมีปัญหาอย่างไร จนทำให้ประชาชนเกิดความไม่สบายใจเกี่ยวกับในเรื่องของความถูกต้องโปร่งใสต่างๆ ในการใช้เงินงบประมาณจำนวน 13 ล้านบาท ในการดำเนินการก่อสร้าง โดยที่ทางต้นสังกัดของหน่วยงานที่ตรวจรับก็จะต้องดำเนินการชี้แจงกลับมาด้วย
ส่วนกรณีที่ทางเทศบาลบางคล้าไม่ยอมรับการส่งมอบสนามกีฬาแห่งนี้ต่อจากทางกรมพลศึกษาหลังจากทำการก่อสร้างเสร็จแล้วนั้น เนื่องจากยังติดขัดในเรื่องของข้อกฎหมาย และเงื่อนไขของกรมธนารักษ์ ซึ่งในการปรับปรุงแก้ไขสนามกีฬาให้สามารถใช้ได้นั้น ได้มีการมอบหมายให้ทางนายอำเภอ และทางเทศบาลตำบลบางคล้า เข้ามาติดตามตรวจสอบและรายงานกลับไปให้ทางจังหวัดทราบเป็นระยะ หากครบกำหนดในช่วงปลายเดือน เม.ย.61 ไม่แล้วเสร็จ ก็จะต้องมีมาตรการในการดำเนินการต่อไป นายชาธิป กล่าว
