ฉะเชิงเทรา – อุบัติเหตุหมู่ ต่างด้าวขับ จยย.สวนทางพุ่งชนประสานงากับสามพ่อแม่ลูกชาวไทย ทำทั้งสองฝ่ายเจ็บรวมกันระนาว 5 ราย ขณะกู้ภัยฯ ช่วยเหลือลำเลียงนำส่งไปยัง รพ.แปลงยาว ด้านแพทย์ยังให้คนขับทั้งสองฝ่ายนอนรอดูอาการ เบื้องต้นยังไม่ชี้ชัดใครถูกผิด แต่เชื่อมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งขับรถสวนทางย้อนเลนมาอย่างแน่นอน จนเป็นสาเหตุทำให้เกิดการพุ่งชนกันแบบประสานงา
วันที่ 27 มี.ค.61 เวลา 19.13 น. พ.ต.ท.พิชัยภัส ทวีชนะโภคิน สารวัตรสอบสวน สภ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งชนประสานงากันทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก รวมถึง 5 ราย เหตุเกิดที่บริเวณทางเบี่ยงแยกจากถนนสาย 331 สัตหีบ-กบินทร์บุรี เข้าสู่ถนนสาย 3551 แปลงยาว-หนองปลาตะเพียน ซึ่งเป็นจุดตัดทางแยกสัญญาณไฟหัวสำโรง หรือบริเวณ 5 แยกธงชัย ก่อนถึงนิคมอุตสาหกรรมเกตุเวย์ซิตี้ประมาณ 1 กม. พื้นที่ ม.9 ต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นช่องทางเบี่ยงบังคับเลี้ยวแบบเดินรถทางเดียว พบคนเจ็บกำลังนอนเรียงรายอยู่บนพื้นถนน โดยมีอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยพนมสารคามจุดแปลงยาว กำลังให้การช่วยเหลือทำการปฐมพยาบาลให้คนเจ็บ พบมีอาการสาหัสเป็นชายจำนวน 2 ราย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคนขับและมีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าดรีมสีแดง หมายเลขทะเบียน 1กช-4158 ฉะเชิงเทรา จอดในลักษณะตะแคงข้างอยู่ริมราวกั้นขอบทางหันหน้าไปในทิศทางลักษณะย้อนศรชิดขอบทางด้านขวา
ส่วนที่ริมขอบทางด้านซ้ายมีรถจักยานยนต์ ฮอนด้าคลิก สีเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจอดตะแคงอยู่ในลักษณะหันหน้าไปตามเส้นทาง ซึ่งทั้งสองคันอยู่ในสภาพด้านหน้าพังยับเยินทั้งคู่ โดยในจำนวนนี้มีเด็กชายวัยเพียง 1 ขวบเศษได้รับบาดเจ็บร้องไห้จ้าอยู่ในที่เกิดเหตุจำนวน 1 รายด้วย ก่อนที่อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยฯ จะช่วยกันลำเลียงคนเจ็บทั้งหมดนำส่งไปยังที่ รพ.แปลงยาว
ทราบชื่อคนเจ็บต่อมา คือ นายปฏิภาณ ชำนาญศิลป์ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 ม.6 ต.วังเย็น อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา มีบาดแผลเจาะลึกที่ขาซ้าย ด.ช.ภัทรพล ชำนาญศิลป์ อายุ 1 ปี มีบาดแผลถลอกที่ใบหน้าและศีรษะ น.ส.ณัฐรุจา เต็งโสดา อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83 ม.4 ต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ปวดที่หัวไหล่ซ้าย ซึ่งทั้งสามเป็นพ่อแม่ลูกกัน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีกฝ่าย คือ นายนี ชาวพม่า ไม่ทราบอายุมีอาการบาดเจ็บที่ศีรษะและแขนด้านซ้าย และ น.ส.SREYNET RONA อายุ 24 ปี ชาวพม่า เช่นเดียวกัน มีอาการปวดแขนและขาซ้าย
พ.ต.ท.พิชัยภัส กล่าวว่า เบื้องต้นเชื่อว่าจะต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งขับรถย้อนศรสวนเลนมาอย่างแน่นอน เนื่องจากตรงบริเวณจุดเกิดเหตุนั้นเป็นเส้นทางบังคับให้เดินรถทางเดียว ซึ่งยังต้องรอการสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป เนื่องจากคนขับทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บค่อนข้างสาหัส โดยแพทย์ยังให้นอนรอดูอาการอยู่ภายในโรงพยาบาลจึงยังไม่สามารถสอบปากคำจากทั้งสองฝ่ายได้ พ.ต.ท.พิชัยภัส กล่าว
