แบงค์กรุงเก่า ยอมคืนเงินทายาทสาวนักดาราศาสตร์แล้ว โดยไม่ต้องรอผลจากการสอบสวนที่คาดว่าต้องใช้เวลานานอีกกว่า 1 สัปดาห์ หลังถูกกดดันผ่านสื่อ ขณะเหยื่อเดินทางเข้าถอนแจ้งความร้องทุกข์ พร้อมเตือนสาวแบงค์และผู้ที่ทำงานด้านการเงินว่า อย่าคิดกระทำผิด เพราะสุดท้ายอาจเสียอนาคตทั้งที่เป็นหญิงสาวสวยหน้าตาดี
วันที่ 22ธ.ค.62 เวลา 17.56 น. น.ส.นันทกานท์ ตันวุฒิบัณฑิต อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 ม.5 ต.แปลงยาว อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท. (หญิง) ธิดารัตน์ ผดุงประเสริฐ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อเข้าถอนการแจ้งความร้องทุกข์ หลังจากได้รับการคืนเงินจากทางธนาคารแห่งหนึ่งแล้ว กรณีเมื่อวันที่ 20 ส.ค.62 ได้เข้าไปเบิกเงินจากทางธนาคาร จำนวน 2 แสนบาท แต่ปรากฏว่าเงินฝากจำนวน 2.5 ล้านบาทได้หายไปจากบัญชี จำนวน 9 แสนบาทตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
โดย น.ส.นันทกานท์ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทางธนาคารได้โทรศัพท์มาแจ้งว่าทางสำนักงานใหญ่ได้รู้เรื่องแล้ว โดยจะขอเวลาสอบสวนเป็นเวลา 1 สัปดาห์ จากนั้นในช่วงเวลา 12.00 น.ทางธนาคารสาขาที่เกิดเหตุภายในห้างสรรพสินค้าบริเวณทางแยกสัญญาณไฟโรงเรียนเทศบาล 2 อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา จึงได้โทรศัพท์มาแจ้งอีกว่าทางสำนักงานใหญ่จะให้ทางสาขาจ่ายเงินคืนแก่ตนเองในวันนี้
โดยให้เข้ามาติดต่อขอรับเงินคืนจากทางธนาคารได้ในเวลา 14.00 น. หลังตนเดินทางมาในเวลา 14.30 น. ทางธนาคารได้คืนเงินผ่านทางแคชเชียร์เช็ค เป็นเงินจำนวน 9 แสนบาท พร้อมดอกเบี้ยในช่วงระหว่างนั้นอีกจำนวน 1,854.05 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 901,854.05 บาท หลังจากได้รับเงินคืนแล้วจึงได้เดินทางเข้ามาถอนคำร้องทุกข์แจ้งความออก ยังที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา โดยจะไม่ติดใจเอาความต่อบุคคลใดทั้งสิ้น
จึงอยากจะฝากขอบคุณสื่อมวลชนทุกสำนัก ที่ช่วยนำเสนอข่าวให้จนได้รับเงินคืนอย่างรวดเร็ว ตลอดจนทางธนาคารด้วย ที่ได้ช่วยในการเร่งรัดเข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหาให้แก่ลูกค้าอย่างรวดเร็ว รวมถึงเพื่อนๆ ทางสื่อสังคมออนไลน์ด้วย ที่ได้ช่วยกันแชร์ข่าวออกไปเป็นวงกว้าง หากไม่เช่นนั้นอาจจะไม่ได้รับเงินคืนอย่างรวดเร็วถึงขนาดนี้
สำหรับผู้ก่อเหตุนั้น ทราบว่าเป็นพนักงานสาววัยประมาณ 30 ปี ของธนาคารสาขาแห่งนี้เอง ที่กระทำการโดยการโอนเงินไปเข้าบัญชีของเพื่อนซึ่งเป็นบุคคลที่ 3 โดยพนักงานรายนั้นได้ยอมรับสารภาพแล้วว่าได้เป็นผู้กระทำการจริง ซึ่งเป็นพนักงานคนเดียวกันกับคนที่เคยเปิดบัญชีให้แก่ตน เมื่อครั้งมาเปลี่ยนชื่อจากบิดาเป็นชื่อตนเอง เมื่อเดือน มี.ค.62 ซึ่งไม่ทราบว่าเขามีความเดือดร้อนอย่างไร จึงคิดกระทำความผิดโอนเงินของลูกค้าออกจากบัญชีของเราไป
แต่จากพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เชื่อว่าเขาน่าจะมีการวางแผนไว้ก่อนล่วงหน้า เนื่องจากพนักงานธนาคารหญิงสาวรายดังกล่าวนี้ ได้เคยเข้ามาทำทีตีสนิทกับตนเองถึงยังที่บ้าน ตั้งแต่เมื่อประมาณปลายเดือน มิ.ย.62 หลังจากได้นำเงินไปฝากเพิ่มเติมเข้าบัญชีอีกจำนวน 1.5 ล้านบาทจากเดิมมีอยู่ 1 ล้านบาท โดยเขาเข้ามาในลักษณะเป็นลูกค้า ที่เข้ามาซื้อของจากภายในร้านบ่อยครั้ง ประมาณ 3-4 วันมา 1 ครั้ง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยพบเห็นว่าเคยเข้ามาซื้อของจากภายในร้านมาก่อนเลย
ซึ่งครั้งแรกก็ยังนึกสงสัย ดูลักษณะเหมือนคนเข้ามาขายประกัน โดยมีการนำกระเป๋ามาให้ และเริ่มเข้ามาซื้อของที่ร้านบ่อยขึ้น เหมือนกับว่าจะมาดูว่าเราจะไปเบิกถอนเงินออกจากธนาคารเมื่อไหร่ และมีการให้นามบัตรเอาไว้ด้วยว่า ถ้าหากจะเบิกเงินให้โทรศัพท์ไปบอกตามเบอร์โทรศัพท์ในนามบัตรล่วงหน้าก่อน โดยอ้างว่าแบงค์ไม่มีเงินสำรอง ซึ่งเราก็ไม่ได้เอะใจอะไรในตอนนั้น เพราะยังไม่ได้มาถอน
จนผ่านมาแล้วประมาณ 2 เดือนจึงเข้ามาถอนเงิน และพบความผิดปกติมีเงินหายไปจากบัญชีเกิดขึ้น โดยไม่ได้รู้จักกันกับผู้ก่อเหตุเป็นการส่วนตัวมาก่อน เป็นเพียงลูกค้าที่เพิ่งเข้ามาที่ร้านเท่านั้น จึงอยากจะเตือนไปถึงยังผู้ที่คิดจะกระทำความผิด สำหรับผู้ที่อยู่กับสถาบันการเงินหรือธนาคารว่า “ความลับไม่มีในโลก จึงอย่าคิดกระทำความผิดเลย เพราะจะทำให้อาจถึงขั้นเสียอนาคต ทั้งที่เป็นหญิงสาวสวยหน้าตาดีด้วย” น.ส.นันทกานท์ กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: