ปศุสัตว์ ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุ กรณีสุนัขถูกกระถางต้นไม้ปาใส่จนสลบแน่นิ่งบนถนนในหมู่บ้าน ซ.สวัสดี กลางใจเมืองแปดริ้ว หลังภาพถูกเผยแพร่กระพือผ่านโซเชียล จนกลายเป็นข่าวคึกโครม เบื้องต้นระบุพบสาเหตุเกิดจากการปล่อยละเลยสุนัขให้ออกไปรบกวนชาวบ้านรอบข้าง เผยมีความผิดด้วยกันทั้งสองฝ่ายหากมีการแจ้งความดำเนินคดีระหว่างกัน
วันที่ 9 ก.ย.62 เวลา 16.30 น. นายทรงสิทธิ์ บู่บาง ปศุสัตว์อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ได้เดินทางลงพื้นที่เข้าไปยังหมู่บ้านภายในซอยสวัสดี ซึ่งเป็นซอยแยกออกจากกลางถนนพระยาศรีสุนทร (ซอยลิเก) ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ กรณีมีผู้นำคลิปภาพสุนัขเพศผู้วัยประมาณ 10 ปี ถูกกระถางต้นไม้ปาใส่ จนนอนสลบแน่นิ่งอยู่กลางถนนในหมู่บ้านเมื่อสองวันก่อน (7 ก.ย.62)
จนทำให้เจ้ามะขามสุนัขเพศเมียสายพันทาง ขนสีน้ำตาล ดวงตาแฉะจนแทบบอดมองไม่เห็นได้รับบาดเจ็บ และถูกนำส่งไปรักษาอาการยังที่ รพ.สัตว์ใน จ.ฉะเชิงเทรา ต่อมาได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปต่างๆนาๆ เกี่ยวกับกฎหมายการทารุณกรรมสัตว์ และการดูแลสัตว์เลี้ยงของผู้เลี้ยงสุนัข เพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริง จากข้อมูลรอบด้านทั้งสองฝ่ายอย่างครบถ้วน
โดยหลังการตรวจสอบ นายทรงสิทธิ์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่มาในวันนี้ ได้พูดคุยกับทางเจ้าของสุนัขแล้วในเบื้องต้นทราบว่าไม่ประสงค์จะดำเนินคดีในทางกฎหมายต่อผู้ที่กระทำการทารุณกรรมสัตว์ เนื่องจากเขายอมรับว่าในส่วนตัวของเขาเองก็มีส่วนผิด ที่ปล่อยปะละเลยสุนัขออกไปโดยไม่ดูแล หรืออาจดูแลไม่ทั่วถึง จนสุนัขไปก่อความเดือดร้อนรำคราญให้แก่ชาวบ้านข้างเคียง
ทั้งการไปถ่ายมูลไว้ตามหน้าบ้านเพื่อนบ้านและท้องถนน ตลอดจนไปฉี่ใส่บ้านเรือนของเพื่อนบ้านข้างเคียงในหมู่บ้าน ซึ่งก็มีความผิดตามกฎหมายเช่นเดียวกัน โดยมีโทษปรับเป็นเงินสูงสุดไม่เกิน 4 หมื่นบาท ส่วนกรณีการทารุณกรรมสัตว์นั้นมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งหากมีการแจ้งความดำเนินคดีกันจริงๆ
ดังนั้นจึงต่างก็มีความผิดด้วยกันทั้งสองฝ่าย เจ้าของสุนัขจึงไม่ได้ติดใจเอาความต่อผู้ที่กระทำการทารุณกรรมสัตว์ดังกล่าว นายทรงสิทธิ์ ระบุ
