X

ชาวสนามชัยเขต ขอพบผู้ว่าหลังชายฉกรรจ์อ้างเป็น จนท.บุกโคนสวนยางบอกรุกป่า

ชาวสนามชัยเขต ขอพบผู้ว่า หลังถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างเป็น จนท.ป่าไม้บุกตัดโค่นสวนยางอ้างรุกป่าสงวน ทั้งที่อยู่อาศัยและทำกินมานานกว่า 30 ปี จนพื้นที่ได้รับสิทธิการทำกินเป็นที่ดิน สปก. แต่ภายหลังทางการขยายเพิ่มหมู่บ้านกลับถูกชี้กันให้เป็นป่าสงวน ทั้งที่เป็นที่ดินแปลงเดิม เผยเคยเข้าร้องทุกข์หลายหน่วยงานแต่ถูกวางเฉย ขณะศูนย์ดำรงธรรมลงรับเรื่องพร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหา

วันที่ 23 ก.ย.62 เวลา 14.00 น. ที่ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้มีชาวบ้านจากพื้นที่ ม.21 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา จำนวนกว่า 20 คน ได้เดินทางมาเพื่อขอเข้าพบ นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรมและขอความชัดเจนจากทางจังหวัด หลังจากมีกลุ่มชายฉกรรจ์ จำนวนหลายสิบคนอาวุธครบมือ พร้อมคนงานบุกเข้าไปทำการตัดโค่นสวนยางในพื้นที่ทำกินจนได้รับความเดือดร้อน

ทั้งที่ได้พยายามร้องขอดูเอกสารหรือคำสั่งเพื่อให้เกิดความชัดเจนว่ามาจากหน่วยงานราชการจริงหรือไม่ และมาจากหน่วยงานใด แต่กลับถูกบ่ายเบี่ยงไม่แสดงตน ทั้งยังอ้างว่ามีหมายศาลแต่กลับไม่ยินยอมแสดงให้แก่ชาวบ้านดูขณะทำการกล่าวอ้าง อีกทั้งยังทำให้ทรัพย์สินอื่นๆ เสียหาย และขโมยขี้ยางของชาวบ้านไป

โดย น.ส.ณัฐธิดา คนใจบุญ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 165 ม.21 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า การเดินทางมาของกลุ่มชาวบ้านในวันนี้ เนื่องจากเมื่อวานนี้ (22 ก.ย.62) ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ได้บุกเข้ามาตัดโค่นสวนยางของตนจำนวน 35 ต้นโดยอ้างว่ามีหมายศาล แต่เมื่อขอดูหมายกลับไม่มีมาแสดงให้ดู โดยอ้างว่าไม่จำเป็นต้องแสดงให้ชาวบ้านดู

ทั้งที่ที่ดินแปลงดังกล่าว ซึ่งเป็นที่ดินของตนและชาวบ้านจำนวนกว่า 10 ครอบครัว จำนวน 300 ไร่นั้น ยังอยู่ภายใต้คำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ ฉช.0017.1/12385 ลงวันที่ 30 ส.ค.62 ให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานประกอบด้วย กรมป่าไม้ กรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายอำเภอสนามชัยเขต และปฏิรูปที่ดินจังหวัด (สปก.) ออกเดินสำรวจร่วมกันในที่ดินแปลงดังกล่าว

แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานใดเดินออกไปสำรวจรังวัดเลย ซึ่งหมายความว่าหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องนั้นไม่ยอมทำตามคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดเลยหรืออย่างไร จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปทำการตรวจสอบยืนยันสิทธิ์ตามคำสั่งผู้ว่าฯ ว่าที่ดินแปลงนี้เป็นสิทธิ์การใช้ประโยชน์ของใคร เนื่องจากที่ผ่านมาครอบครัวของตนได้เข้ามาทำกินบนที่ดินแปลงดังกล่าว มาตั้งแต่เมื่อปี 2529 จนได้รับสิทธิ์การทำกินเป็นแปลงที่ดินปฏิรูป (สปก.)

อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ บุกโค่นสวนยาง

ต่อมาในปี 2551 ทางราชการโดยฝ่ายปกครอง ได้ทำการแบ่งหมู่บ้านคลองเตย ออกจากหมู่บ้านหินแร่ จากหมู่ 7 ต.ท่ากระดาน เป็นหมู่ 21 ต.ท่ากระดาน จึงทำให้ทาง จนท.กรมป่าไม้ เข้ามาอ้างสิทธิ์ว่าที่ดินแปลงดังกล่าวนี้เป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ (ป่าแควระบม ป่าสียัด) ทั้งที่เป็นที่ดินแปลงเดิมในตำแหน่งพิกัดเดิมบนผืนโลก จึงอยากสอบถามว่าไปเอาหลักเกณฑ์หรือหลักฐานอะไรมาแบ่ง ทั้งที่แปลงที่ดินรอบข้างก็ยังเป็นที่ดิน สปก.อยู่ตามเดิม

จึงอยากเข้ามาร้องขอความเป็นธรรมให้ทางผู้ว่าฯ สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเร่งทำการเดินสำรวจตามคำสั่งเดิมของผู้ว่าฯ ที่ได้เคยสั่งการเอาไว้ เพื่อให้เกิดความชัดเจนเกิดขึ้น ไม่ใช่อยู่ดีๆ แล้วมีกลุ่มบุคคลพร้อมมีอาวุธปืนครบมือเข้ามาบุกตัดไม้ในพื้นที่ โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ โดยที่ตนเองนั้นยังคงครอบครองทำกินอยู่ และเมื่อขอดูเอกสารจากการกล่าวอ้างก็ไม่มีมาแสดงให้ดูดังกล่าว จึงทำให้ชาวบ้านรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย เพราะส่วนใหญ่ที่อยู่บ้านกันนั้นล้วนเป็นผู้หญิง

ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์บุกโค่น

ขณะนี้จึงอยากให้ทางราชการเร่งดำเนินการเพื่อพิสูจน์สิทธิ์ให้ชัดเจนว่าที่ดินแปลงนี้ ใครเป็นผู้มีสิทธิ์ในการครอบครองทำกิน เพื่อจะได้ทำการต่อสู้ไปตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป เนื่องจากทางครอบครัวของตนได้เข้ามาอาศัยครอบครองทำกินมานานแล้ว ก่อนที่จะมีมติคณะรัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้องกับการครอบครองที่ดินในพื้นที่ป่าสงวน พ.ศ.2541

ยันเป็นที่ดินแปลงเดิม ก่อนเปลี่ยนหมู่บ้าน

โดยปัจจุบันทำให้ชาวบ้านไม่เป็นอันกินนอน เพราะนอกจากจะต้องเฝ้าระวังช้างป่าที่มักจะออกมาทำลายพืชสวนทางการเกษตรแล้ว ยังต้องคอยเฝ้าระวังการแอบอ้าง และเข้ามาลักลอบตัดทำลายต้นไม้ สวนยาง จากทางผู้ที่เข้ามาอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้อีกด้วย น.ส.ณัฐธิดา กล่าว

ชาวสนามชัยบุก

จากนั้นได้มี นายวราห์ เขินประติยุทธ ผอ.ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา เดินทางเข้ามาเจรจาและรับข้อร้องเรียนจากกลุ่มชาวบ้าน และได้รับปากว่าจะดำเนินการนำไปประสานงานยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ เพื่อให้ทางฝ่ายเจ้าหน้าที่หยุดหรือระงับการดำเนินการใดๆ เป็นการชั่วคราวไปก่อนหากเป็นทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ป่าไม้เป็นผู้เข้าไปดำเนินการ และจะส่งหนังสือเร่งรัดไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีการดำเนินการให้เป็นไปตามกระบวนการต่อไป

ขอความเป็นธรรม

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สนทะนาพร อินจันทร์

สนทะนาพร อินจันทร์

ลุยงานช่วยเหลือคนเดือดร้อนมาทั้งชีวิต อย่างไม่คิดเรียกสิ่งตอบแทน