ฉะเชิงเทรา – ญาติเหยื่อไฟไหม้ไต้หวัน เผยครอบครัวขาดเสาหลัก หลังเดินทางไปทำงานยังต่างประเทศก็เพื่อช่วยแม่ปลดหนี้สิน ที่ผู้เป็นบิดาซึ่งเสียชีวิตไปนานกว่า 10 ปีแล้วสร้างไว้ จนถือเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการหาเงินส่งเสียครอบครัวถึงเดือนละกว่า 1.3 หมื่นบาท ส่งมาให้ผู้เป็นมารดาได้ใช้สอยและผ่อนค่างวดรถที่ผู้ตายเคยออกมาไว้ให้ใช้ ครวญหลังจากนี้ไปคงลำบาก
วันที่ 30 เม.ย.61 เวลา 12.30 น. นางมน ทิพย์รักษา อายุ 61 ปี พร้อมด้วย นายดบัสวิน พละศักดิ์ อายุ 46 ปี ผู้เป็นยายและน้าของ นายภาณุพงศ์ เสงี่ยม อายุ 24 ปี ผู้เคราะห์ร้ายเหยื่อไฟไหม้หอพักของโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ประเทศไต้หวัน กล่าวเปิดเผย ที่บ้านเลขที่ 202 ม.22 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ว่า ผู้เสียชีวิตนั้นถือเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ของครอบครัว เนื่องจากเป็นผู้ที่ส่งเสียเงินมาให้แก่ นางวิลัย เสงี่ยม อายุ 49 ปี ผู้เป็นมารดามากถึงเดือนละไม่ต่ำกว่า 1.3 หมื่นบาท
ข่าวน่าสนใจ:
เนื่องจากครอบครัวของ นางวิลัย บุตรสาวนั้นไม่ได้มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง โดยมีเพียงที่ดินปลูกสร้างบ้านบนพื้นที่ สปก. แค่เพียง 2 งานเท่านั้น จึงทำให้ครอบครัวมีอาชีพแค่เพียงรับจ้างเขากินไปวันๆ และหลังจากที่ นายพุธ เสงี่ยม ผู้เป็นบิดาของหลานชายได้เสียชีวิตไปเมื่อกว่า 12 ปีก่อน ก็ยังได้ทิ้งภาระหนี้สินที่ได้ไปกู้ยืมมาจากธนาคาร ธกส. ไว้ให้อีกจำนวนหลายหมื่นบาท
จึงทำให้หลานชายนั้นตัดสินใจเดินทางไปทำงานยังที่ต่างประเทศเมื่อกว่า 2 ปี 4 เดือนที่ผ่านมาจนทำให้มีรายได้เดือนละประมาณ 26,000 บาท และหากมีโอทีมากก็จะได้เงินมากกว่านี้อีก โดยหลานชายได้ส่งเสียโอนเงินมาให้แก่ผู้เป็นมารดาตลอดจำนวนเฉลี่ยเดือนละประมาณ 1.3 หมื่นบาท ทางครอบครัวจึงได้เงินของหลานชายผู้เสียชีวิตไปรายนี้หล่อเลี้ยงชีวิตในช่วงที่ผ่านมา
และก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเกือบ 2 ปีที่แล้ว หลานชายยังได้ไปออกรถยนต์กระบะ และรถจักยานยนต์เอาไว้ให้แก่ผู้เป็นมารดาได้ใช้อีกด้วย ซึ่งยังคงต้องผ่อนชำระค่างวดของรถอยู่ทั้งสองคัน และต่อไปก็คงจะลำบากมากเพราะว่าไม่มีใครส่งเสียเงินมาให้ผ่อนชำระค่างวดรถอีกแล้วก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกันต่อไป
โดยในวันนี้เมื่อเวลา 06.00 น. นางวิลัย บุตรสาว ได้ออกเดินทางไปติดต่อกับทางสำนักงานจัดหางานจังหวัดฉะเชิงเทรา ตั้งแต่เช้าตรู่ ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าศพของหลานชายจะได้กลับมาบ้านเมื่อใด ซึ่งนางวิลัย นั้นมีบุตรจำนวน 2 คน คือ น.ส.ทัศนีย์ เสงี่ยม อายุ 28 ปี ซึ่งได้แต่งงานแยกครอบครัวไปแล้วและยังได้นำลูกๆ มาฝากให้แก่นางวิลัยผู้เป็นยายเลี้ยงอีก 2 คน เนื่องจากต้องออกไปทำงานในโรงงานในเขต จ.ปราจีนบุรี นางวิลัยจึงไม่ได้ไปรับจ้างทำงานอื่นนอกจากอยู่บ้านเลี้ยงหลานๆ เท่านั้น โดย น.ส.ทัศนีย์ ได้ส่งเสียเงินมาให้เดือนละ 3 พันบาทเป็นค่าเลี้ยงดูบุตรเท่านั้น นางมน กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: